War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 3329 : ทลายค่ายกล!
ตอนที่ 3,329 : ทลายค่ายกล!
ต้วนหลิงเทียนย่อมไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มาพบเจอพี่ใหญ่เผยอีกครั้งที่นี่เวลานี้
ในตอนนั้นที่เขาไปพบเจอพี่ใหญ่เผย ทั้งหมดก็เพื่อขอซื้ออุปกรณ์อมตะที่สามารถปกปิดกลิ่นอายของฮ่วนเอ๋อ
ครั้งแรกที่พบเจออีกฝ่าย ต้วนหลิงเทียนยังรู้สึกว่าพี่ใหญ่เผยผู้นี้ลึกลับมาก
แม้ครั้งหนึ่งเขาจะเคยถามออกไปแล้วว่าพี่ใหญ่เผยใช่จอมราชันอมตะหรือไม่…แต่อีกฝ่ายบอกว่าไม่ใช่
ตอนนั้นเขาคิดว่า ในเมื่อพี่ใหญ่เผยไม่ใช่จอมราชันอมตะ ก็สมควรเป็นราชาอมตะ 10 ทิศที่ทรงพลัง ไม่ก็ครึ่งก้าวจอมราชันอมตะ
แต่คิดไม่ถึงจริงๆว่าพี่ใหญ่เผยไม่เพียงแต่จะไม่ใช่ราชาอมตะหรือจอมราชันอมตะ แต่อีกฝ่ายเป็นจักรพรรดิอมตะ!
ที่สำคัญยังเป็นถึงจักรพรรดิอมตะสมญานาม!
“ต้วน…ต้วนหลิงเทียนรึ?”
ขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังมองเผยหยวนจี๋ด้วยสายตาเหลือเชื่อ ด้านเผยหยวนจี๋ที่สัมผัสถึงสายตาต้วนหลิงเทียนก็มองกลับมาทันที จากนั้นก็แลดูตะลึงไม่ต่าง
ถึงวันเวลาจะล่วงเลยไป 200 กว่าปีแล้ว แต่เผยหยวนจี๋ยังจำต้วนหลิงเทียนได้ตั้งแต่แรกเห็น ว่าเคยพบเจอกันที่ระนาบหลิงหลัวเทียน
ในตอนนั้นมันยังมอบอุปกรณ์อมตะระดับจอมราชันอย่างแหวน 9 วิญญาณหยางลี้ลับให้อีกฝ่าย หวังให้อีกฝ่ายนำแหวน 9 วิญญาณหยินลี้ลับกลับมา
นอกจากนั้น มันยังตอบรับคำขอของต้วนหลิงเทียน จนเดินทางออกจากเมืองกันดารแห่งนั้น
แต่สิ่งที่มันไม่คิดไม่ฝันก็คือหลังจากมันออกเดินทางไปได้ไม่ทันไร มันกลับได้ยินเรื่องราวหนึ่งโดยบังเอิญในเหลาอาหาร
ฟังไปฟังมาก็พบว่าผู้พูดมีญาติที่ไปได้ดิบได้ดีที่วังเทียนฉือ และอีกฝ่ายก็ส่งข้อความมาบอกว่าได้เห็นสตรีนางหนึ่งจากหลิงหลัวเทียนคิดมาตามหาสามีที่วังเทียนฉือ แต่สุดท้ายก็ถูกจับเอาไว้
สตรีที่ว่าเป็นจิ้งจอกมายานามว่า ตู้เสวียน
‘ตู้เสวียน…นั่นไม่ใช่ชื่อของหลานสาวตัวน้อยของตู้เฟยหรือไร?’
ชื่อ ตู้เสวียน ไม่ใช่ชื่อแปลกหูสำหรับเผยหยวนจี๋ เพราะมันมักจะได้ยินตู้เฟยเอ่ยถึงมาก่อน
และตู้เฟยก็เป็นหนึ่งในสตรีที่มันเคยสนิทสนมด้วยขณะท่องไปทั่วระนาบเทวโลกทั้งมวล และในบรรดาสตรีที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ตู้เฟยก็คือคนที่มันไม่อาจลืมเลือนกว่าใคร
กระทั่งกว่าจะรู้ใจตัวเอง ว่าที่แท้มันรักตู้เฟยเข้าให้จริงๆ ก็สายเกินไปแล้ว…
สุดท้ายมันจึงคิดจะตามหาแหวน 9 วิญญาณหยินที่เคยเป็นของตู้เฟยมาเก็บไว้ เพื่อให้เป็นสิ่งแทนใจสุดท้ายไว้รำลึกถึงเรื่องราวระหว่างมันกับตู้เฟย
และด้วยความรู้สึกที่มีต่อตู้เฟย กอปรกับได้รู้ใจตัวเองแล้ว มันจึงตัดสินใจเดินทางมาวังเทียนฉือ เพื่อคิดจะช่วยเหลือหลานสาวตัวน้อยของตู้เฟย
อย่างไรก็ตามในขณะที่มันกำลังกดดันจ้าววังเทียนฉือ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะหน้าด้านเรียกจักรพรรดิสวรรค์อู๋หยาเทียนมากลุ้มรุม สุดท้ายก็ทำได้แค่ถูกจับมาขังอยู่คุกหมื่นพันธนาการ…
กล่าวได้ว่ามันไม่เพียงแต่จะล้มเหลวเรื่องช่วยหลานสาวตัววน้อยของตู้เฟย แต่มันยังติดแหง็กอยู่ที่นี่ไม่อาจไปไหนได้
มันก็ไม่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนจะช่วยตามหาแหวน 9 วิญญาณหยินให้มันแล้วหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ต่อให้หลับมันก็ไม่อาจฝันถึง ว่าหลังจากถูกขังอยู่ในคุกหมื่นพันธนาการมา 200 กว่าปี มันจะได้พบเจอต้วนหลิงเทียนอีกครั้งในคุกหมื่นพันธนาการแห่งนี้
นอกจากนั้นดูจากตำแหน่งที่ต้วนหลิงเทียนนั่งอยู่ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ถูกวังเทียนฉือจับขัง แต่เป็นเหมือนศิษย์อัจฉริยะของวังเทียนฉือที่ทำหน้าที่ผู้คุมมากกว่า!
“ต้วนหลิงเทียน ไฉนเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้…นี่เจ้าเข้าร่วมกับวังเทียนฉืองั้นรึ?”
เผยหยวนจี๋กล่าวถามด้วยความตกใจ
“ใช่”
ต้วหลิงเทียนตอบกลับ
“เมื่อครู่…จักรพรรดิอมตะผกาทองบอกข้าว่ามีคนจะช่วยพวกเราแหกคุกหมื่นพันธนาการ หรือนั่นจะเป็นเจ้า?”
ที่เผยหยวนจี๋ออกมา ก็เพราะหญิงชรากล่าวผ่านพลังมาบอกเรื่องมีศิษย์อัจฉริยะของวังเทียนฉือคิดจะช่วยทุกคนแหกคุก
และเหตุผลในการช่วยให้พวกมันแหกคุกของศิษย์อัจฉริยะวังเทียนฉือดังกล่าว ก็เพราะคิดช่วยนักโทษในชั้น 2
ตอนนี้พอมันออกมาเห็นคนของวังเทียนฉือ 2 คน และหนึ่งในนั้นคืออาวุโสในคุกหมื่นพันธนาการของวังเทียนฉือ
ดังนั้นมันก็รู้ได้ทันทีว่าศิษย์อัจฉริยะที่ เซี่ยจินฮัวกล่าวก็คือต้วนหลิงเทียน
“พี่ใหญ่เผยเป็นข้าเอง”
หลังต้วนหลิงเทียนตอบจบ ก็ย้อนถามกลับไปด้วยความสงสัยว่า “พี่ใหญ่เผย แล้วท่านเล่าไฉนมาอยู่ที่นี่ได้ ข้าได้ยินจักรพรรดิอมตะผกาทองกล่าวว่าท่านมาที่วังเทียนฉือเพราะคิดให้วังเทียนฉือปล่อยคน แต่สุดท้ายก็ถูกจักรพรรดิสวรรค์มากลุ้มรุมจนถูกจับขังแทนงั้นหรือ?”
“ใช่”
เผยหยวนจี๋ตอบ “หากจักรพรรดิสวรรค์อู๋หยาเทียนไม่มา เรื่องราวก็คงจบอีกอย่าง…แต่เพราะมันมาข้าเลยถูกขังไว้ที่นี่ และก่อนจะเกิดเรื่อง ข้ายังไม่มีเวลาไปจัดการเรื่องที่เจ้าร้องขอด้วยซ้ำ”
กล่าวถึงท้ายประโยค เสียงของเผยหยวนจี๋ก็เผยความรู้สึกผิดไม่น้อย
“เรื่องนั้นช่างเถอะพี่ใหญ่เผย เพราะทั้งหมดเป็นเรื่องเท็จที่ข้าถูกสาวน้อยหลอกมาเท่านั้น ว่าแต่ท่านมาช่วยผู้ใดที่นี่เล่า?”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยถามด้วยความสงสัย
ในความเห็นของเขา คนที่ทำให้พี่ใหญ่เผยเร่งรุดออกจากหลิงหลัวเทียนมาช่วยถึงวังเทียนฉือ ทั้งยังเกิดการลงมืออุกอาจอย่างคิดทุบตีจ้าววังเทียนฉือได้นั้น สมควรมีสัมพันธ์อันดีกับพี่ใหญ่เผยไม่น้อย
เพราะสุดท้ายแล้ววังเทียนฉือก็เป็นขุมกำลังระดับสวรรค์ ถึงแม้พี่ใหญ่เผยจะร้ายกาจ แต่หากไม่ใช่เพราะคิดช่วยชีวิตคนสำคัญ เกรงว่าคงไม่บุกมาก่อเรื่องล่วงเกินหักหน้าวังเทียนฉือขนาดนี้
“เป็นหลานสาวของสหายเก่าที่ตายตกน่ะ…”
เผยหยวนจี๋ถอนหายใจ
“หลานสาวของสหายเก่า?”
พอได้ยินคำตอบของเผยหยวนจี๋ ต้วนหลิงเทียนก็อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นในใจก็บังเกิดความคิดอุกอาจหนึ่งในหัว อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกไปว่า “พี่ใหญ่เผย…สหายเก่าที่ท่านว่า คงไม่ใช่อาวุโสตู้เฟยหรอกนะ?”
“หืม? เจ้ารู้จักตู้เฟยได้อย่างไร…หรือนางยังทิ้งเศษเสี้ยวสำนึกของนางเอาไว้ในโลกใบเล็ก?”
ลูกตาเผยหยวนจี๋หดเล็กลงเร็วไว เร่งถามออกมา
“ใช่”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า “เรื่องที่ท่านมอบแหวน 9 วิญญาณหยางให้ข้าเพื่อหาแหวน 9 วิญญาณหยินนั้นราบรื่นและลุล่วงไปด้วยดี…เพียงแต่แหวน 9 วิญญาณหยินนั้นถูกเก็บไว้ในมือของเศษเสี้ยวสำนึกที่ผู้อาวุโสตู้เฟยหลงเหลือไว้”
“ต่อมา หลังจากอาวุโสตู้เฟยมอบแหวน 9 วิญญาณหยินให้ข้าแล้ว ก็ฝากฝังข้าให้มาบอกท่านว่า หากเป็นไปได้ก็ขอให้ท่านคอยดูแลฮ่วนเอ๋อด้วย”
ต้วนหลิงเทียนกล่าว
“ฮ่วนเอ๋อ?”
เผยหยวนจี๋ “สาวน้อยเผ่าจิ้งจอกมายาที่ติดตามเจ้าในตอนนั้นน่ะหรือ?”
“ใช่”
ต้วนหลิงเทียนตอบกลับ
“เท่าที่ข้ารู้จักตู้เฟยมา หากไม่ใช่คนที่ใกล้ชิดและสำคัญกับนางมากจริงๆ นางไม่มีทางฝากฝังให้ข้าช่วยดูแลแน่…ที่แท้ฮ่วนเอ๋อเกี่ยวข้องกับนางอย่างไรกันแน่?”
เผยหยวนจี๋เอ่ยถามอีกครั้ง
“ฮ่วนเอ๋อ ต้องเรียกนางว่ากูป๋อ”
ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้มขื่นขม พลางกล่าว “พี่ใหญ่เผยหากข้าเดาไม่ผิด…ที่ท่านมาวังเทียนไม่พ้นเพราะคิดช่วย ตู้เสวียน หลานสาวของอาวุโสตู้เฟยใช่หรือไม่?”
“ใช่”
เผยหยวนจี๋มองตอบต้วนหลิงเทียนด้วยความแปลกใจ จากนั้นคล้ายจะคิดอะไรได้ ลูกตาของมันก็หดเล็กลงทันที “เจ้า…คนที่เจ้าคิดจะช่วยคงไม่ใช่ตู้เสวียนหรอกนะ?”
“ไม่ผิด”
ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้มเหยเก ตอบกลับ “ตู้เสวียนเป็นมารดาของฮ่วนเอ๋อ แน่นอนว่าข้ามาไม่ได้คิดจะช่วยตู้เสวียนคนเดียว แต่ยังคิดช่วยเหลียนชิวอีกด้วย”
“พี่ใหญ่เผยเองก็คงทราบแล้วกระมัง ว่าที่อาวุโสตู้เสวียนโดนวังเทียนฉือจับขังในคุกหมื่นพันธนาการ ทั้งหมดเพราะคิดมาตามหาเหลียนชิว?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าว
“ข้าไม่คิดจริงๆ ว่าใต้หล้าจะมีเรื่องบังเอิญพรรค์นี้…”
เผยหยวนจี๋ถอนหายใจกล่าวออกด้วยน้ำเสียงสะทกสะท้อน ค่อยถามต่อว่า “อย่างไรก็ตาม เจ้าหนู ในช่วง 200 กว่าปีที่ผ่านนี่เจ้าไปผจญภัยอะไรมากันแน่ ไฉนถึงเติบโตมาถึงขนาดนี้แล้วเล่า?”
“ถึงกับรู้วิธีทำลายค่ายกลข่ายอาคมพันธนาการที่นี่ด้วยซ้ำ”
“แล้วนี่ด่านพลังของเจ้าบรรลุถึงขั้นใดแล้ว?”
เผยหยวนจี๋เอ่ยถามออกมาระรัว
“ข้าพึ่งจะทะลวงถึงจอมราชันอมตะ 6 ผสาน”
ต้วนหลิงเทียนกล่าว
“เจ้า…เจ้าเป็นจอมราชันอมตะ 6 ผสานแล้ว!?”
เผยหยวนจี๋พอได้ฟังคำของต้วนหลิงเทียนก็ชักหน้าเหวออย่างเสียอาการ ต้องทราบว่าตอนที่มันเจอชายหนุ่มคนนี้เมื่อ 200 กว่าปีก่อน อีกฝ่ายยังเป็นแค่ยอดเซียนอมตะอยู่เลยไม่ใช่หรือ?
พอรับทราบว่าเผยหยวนจี๋ถูกขังในคุกหมื่นพันธนาการของวังเทียนฉือด้วยเหตุผลอะไร ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะลอบถอนหายใจลับๆในใจ และรู้สึกว่าโลกนี้มันแคบอย่างไรชอบกล
ขณะเดียวกันเขาก็ได้รับทราบเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเผยหยวนจี๋กับตู้เฟยจากเสียงผ่านพลังของเผยหยวนจี๋อีกด้วย
“พี่ใหญ่เผย ตอนนี้แหวน 9 วิญญาณหยินหยางของท่านอยู่กับฮ่วนเอ๋อ…หลังข้าช่วยอาวุโสตู้เสวียนกับเหลียนชิวได้แล้ว ข้าจะพาทุกคนไปหาฮ่วนเอ๋อ ถึงตอนนั้นข้าจะให้ฮ่วนเอ๋อคืนแหวนให้ท่าน”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวกับเผยหยวนจี๋
“ไม่จำเป็น”
เผยหยวนจี๋คลี่ยิ้มกล่าว “ในเมื่อฮ่วนเอ๋อเป็นเหลนของนาง เช่นนั้นก็ให้ฮ่วนเอ๋อเก็บแหวน 9 วิญญาณหยินหยางไว้เถอะ…ที่ข้าอยากเก็บแหวน 9 วิญญาณหยินลี้ลับ ให้กลับมาเข้าคู่กับแหวน 9 วิญญาณหยางลี้ลับ…ก็เพราะในอดีตข้าเคยซื้อมันมาเป็นอาวุธคู่ไว้ใช้กับตู้เฟย…”
“ตอนนั้นข้าเองก็ยังไม่ใช่จักรพรรดิอมตะเลย…”
กล่าวถึงจุดนี้ แววตาเผยหยวนจี๋ก้เริ่มพร่ามั่วคล้ายกำลังหวนรำลึกถึงวันวาน ครั้งยังอยู่กับตู้เฟย
เมื่อได้พบเจอเผยหวนจี๋อย่างไม่คาดฝัน ต้วนหลิงเทียนก็ยิ่งมุ่งมั่นมากขึ้น และเชื่อว่าจักรพรรดิอมตะสมญานามทั้ง 6 ที่เขาช่วย จะต้องส่งผลให้เขาช่วยบิดามารดาของฮ่วนเอ๋อออกไปได้แน่
และจักรพรรดิอมตะสมญานามอื่นๆนั้น อาจเมินเฉยเขาหลังออกจากคุกหมื่นพันธนาการไปได้แล้ว
อย่างไรก็ตามพี่ใหญ่เผยไม่มีวันเมินเฉยเขาแน่ กระทั่งยังจะช่วยพาเขากับพ่อแม่ฮ่วนเอ๋อหลบหนีสุดกำลัง
แม่ของฮ่วนเอ๋อเป็นหลานรักของตู้เฟย ที่เป็นอดีตสตรีรู้ใจของพี่ใหญ่เผย และเหตุผลที่ไฉนพี่ใหญ่เผยมาถูกขังอยู่ที่นี่ก็เพราะแม่ฮ่วนเอ๋อ
“พี่ใหญ่เผย ท่านมีสมญานามว่าอะไรหรือ?”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยถามด้วยสงสัย
“ไร้ธุลี”
เผยหยวนจี๋กล่าวตอบ
“จักรพรรดิอมตะไร้ธุลี”
สองตาต้วนหลิงเทียนทอประกายเรืองขึ้นวาบหนึ่ง “พี่ใหญ่เผย ท่านตั้งสมญานามได้เหมาะสมกับท่านจริงๆ”
“แล้วเจ้าเล่า คงไปเที่ยวเล่นที่วิหารเฟิงฮ่าวจนได้รับสมญานามจอมราชันอมตะมาแล้วกระมัง?”
เผยหยวนจี๋เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“พึ่งไปมาเมื่อไม่นานนี้เอง”
ต้วนหลิงเทียนยิ้มตอบ
“ตั้งสมญานามว่าอย่างไร?”
“หมอกพิรุณ”
…
ได้พบเจอเผยหยวนจี๋ โดยที่เป้าหมายของเผยหยวนจี๋ก็คือช่วยมารดาฮ่วนเอ๋อเหมือนกับเขา ช่างเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายสำหรับต้วนหลิงเทียนจริงๆ
5 วันหลังจากนั้นเขาก็สนทนากับเผยหยวนจี๋ไปเรื่อย
และตลอด 5 วันที่ผ่านมาเขาก็มีคุยกับจักรพรรดิอมตะสมญานามอีก 5 คนเป็นระยะๆ รวมถึงหลังจักรพรรดิอมตะผกาทองและคนอื่นๆรู้ว่าเขากับพี่ใหญ่เผยรู้จักกันมาก่อน ทั้งหมดก็แลดูสุภาพกับเขามากขึ้น
เผยหยวนจี๋นั้นแม้จะถูกจับมาขังก่อนหน้าเซี่ยจินฮัวแค่คนเดียว แต่อีก 4 คนก็เคารพนับถือมาก
เพราะท้ายที่สุดแล้ว พลังฝีมือของเผหยวนจี๋ ต่อให้มองไปในบรรดาจักรพรรดิอมตะสมญานามระดับต้นๆแต่ก็จัดว่าอยู่ในอันดับกลางค่อนไปทางสูง
ในโลกนี้ทุกคนล้วนเคารพผู้เข้มแข็งเสมอ
เวลาเพียง 5 วันสำหรับต้วนหลิงเทียนกับคนอื่นๆ ก็เสมือนผ่านไปในพริบตาเดียว
“เริ่มกันเลยเถอะ”
และ 5 วันต่อมาเผยหยวนจี๋ก็หันไปกล่าวกับจักรพรรดิอมตะสมญานามอีก 5 คนเป็นการให้สัญญาณ จากนั้นก็เป็นผู้นำใช้วิธีทำลายค่ายกลและข่ายยอาคมพันธนาการที่ต้วนหลิงเทียนสอนมาทันที!
ปงงงง!!
ครืนนนนน!!
…
พริบตาค่ายกลทั้งข่ายอาคมพันธนาการบนชั้น 3 ของคุกหมื่นพันธนาการก็ถูกทำลายย่อยยับ!