War sovereign Soaring The Heavens - ตอนที่ 3503 : ช่วงสุดท้าย สู้ชิงอันดับ
ซูหลี่ ถึงแม้จะพึ่งบังเกิดความก้าวหน้าและเป็นเทพสงคราม 4 ดาราได้ไม่นาน แต่ความแข็งแกร่งก็มากพอจะก้าวข้ามเทพสงคราม 4 ดาราที่พลังฝีมืออยู่ในค่าเฉลี่ย อย่างไรก็ตามสุดท้ายก็ยังเทียบเทพสงคราม 4 ดาราระดับสูงๆไม่ได้อยู่ดี
ตอนนี้สามารถเบียดเข้ามาติดอยู่ใน 30 อันดับแรกได้ ก็นับว่าทำผลงานได้ดีมากแล้ว
คิดจะเข้าสู่ 23 อันดับแรก เกรงว่าคงยาก!
ปงง!!
อย่างไรก็ตาม แม้จะยาก ทว่าซูหลี่ก็ไม่คิดยอมแพ้ถอดใจ เลือกที่จะสู้ต่อ สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับคู่ต่อสู้ที่เป็นเทพสงคราม 4 ดาราชนชั้นยอดฝีมือ
ส่วนอีก 12 คนที่เหลือ เพียงจับคู่ประลองแค่ 6 รอบก็รู้ผล
และบัดนี้ 30 อันดับแรกของศึกอัจฉริยะสวรรค์ก็ได้ถูกจัดคร่าวๆแล้ว
วู้ม!
สูงขึ้นไปบนฟ้าเหนือสังเวียนประลอง ปรากฏตารางรายชื่อขึ้นทีละชื่อไล่ๆกันลงมา เป็นรายชื่อของอัจฉริยะ 30 คนที่ผ่านมาถึงช่วงสุดท้ายของศึกอัจฉริยะสวรรค์
16 รายชื่อแรกนั้น เป็นรายชื่อของเทพสงคราม 5 ดาราทั้ง 11 คน รวมถึงผู้ที่เอาชนะการประลองช่วงแรกของรอบสุดท้ายได้สำเร็จ จึงขึ้นมาติดอยู่ใน 16 อันดับแรกเป็นการชั่วคราว
และเทพสงคราม 5 ดาราทั้ง 11 คนก็ถูกจัดให้ติดอยู่ใน 11 อันดับแรกไปโดยปริยาย
สำหรับอันดับที่ 17-23 เป็นรายชื่อของผู้ชนะช่วงก่อนหน้า สำหรับซูหลี่นั้นถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 24-30 ซึ่งเป็นส่วนของผู้ที่แพ้พ่ายในช่วงก่อนหน้า
“การจัดอันดับในปัจจุบันถือเป็นอันดับคร่าวๆเท่านั้น ยังมิได้จำเพาะเจาะจงตามพลังฝีมือ”
ฉีคงไห่ รองจ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลักที่รับผิดชอบเป็นผู้ควบคุมกำกับและดำเนินการประลองศึกอัจฉริยะสวรรค์ กล่าวประกาศด้วยเสียงดังฟังชัดว่า “ตามกฏการประลองของศึกอัจฉริยะสวรรค์ในช่วงสุดท้าย ผู้ที่มีอันดับอยู่ในอันดับที่ 21-30 มากสุดก็สามารถท้าทายผู้ที่อยู่ในอันดับ20 เท่านั้น มีเพียงแต่ท้าทายประสบผลสำเร็จและอยู่ในอันดับที่ 20 ได้แล้ว ถึงจะสามารถท้าทายผู้ที่มีอันดับสูงขึ้นไปได้”
“แต่แน่นอนว่า หากอยู่ในอันดับที่ 20 แล้วเต็มที่ก็สามารถท้าทายได้แค่ผู้ที่อยู่ในอันดับ 10 เท่านั้น”
“มีเพียงท้าทายเอาชนะผู้ที่ได้อันดับ 10 และแทนที่เสียก่อน ถึงจะมีสิทธิ์ท้าทายผู้ที่อยู่ใน 9 อันดับแรกได้”
เมื่อฉีคงไห่ประกาศถึงจุดนี้ สายตาของเหล่าอัจฉริยะทั้งหลายไม่เว้นต้วนหลิงเทียน ก็มองจ้องไปยังตารางจัดอันดับกลางฟ้าด้วยความสนใจ
อันดับที่ 1 ชั่วคราวก็คือ…จงกุ้ยอวี่
และอันดับที่ 2 รองจากจงกุ้ยอวี่ก็คือ…ถังซานเป่า
อันดับที่ 3 คือ ต้วนหลิงเทียน
อันดับที่ 4 คือ โจวหย่งฉี
อันดับที่ 5 คือ หลิงเจวี๋ยอวิ๋น
อันดับที่ 6 คือ ซือหม่ารุ่ย
อันดับที่ 7 คือ เย่ตงลี่
อันดับที่ 8 คือ หงหยวน
อันดับที่ 9 คือ หวงเฉวียนอัน
อันดับที่ 10 หลิวสื่อเยียน
อันดับที่ 11 อวี๋ตงฟาง
อันดับหลังจากนั้นก็มีเทพสงคราม 4 ดาราระดับยอดฝีมือที่เอาชนะช่วงแรกมาได้ จากนั้นก้ตามด้วยชื่อของซูหลี่ ซึ่งรั้งอยู่ในอันดับที่ 24 รองจาก 7 คนที่พึ่งได้ชัยชนะไปช่วงที่แล้ว
“พวกเจ้าสังเกตหรือไม่…”
ตอนนี้เองอัจฉริยะบางคน ที่ชมดูรายชื่ออยู่ก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง “ไม่ว่าจะเทพสงคราม 5 ดารา หรือเทพสงคราม 4 ดารา…รายชื่ออันดับชั่วคราวดูเหมือนจะจัดตามการเปิดเผยพลังฝีมือออกมาในศึกอัจฉริยะสวรรค์ล่ะ…”
“ตัวอย่างเช่นเทพสงคราม 5 ดารา…จงกุ้ยอวี่นั่นเป็นคนแรกที่เปิดเผยพลังออกมา เช่นนั้นมันก็เลยได้อันดับ 1 เป็นการชั่วคราว…ต่อมาก็คือถังซานเป่า มันเป็นคนที่เผยพลังระดับเทพสงคราม 5 ดาราออกมาเป็นคนที่สอง”
“ถัดมาก็คือต้วนหลิงเทียน”
…
หลังจากสังเกตไปสักพักเหล่าอัจฉริยะบางคนก็ค้นพบเรื่องนี้ พอมันพูดออกมาทุกคนก็เริ่มตระหนักได้ ว่าเรียงตามนั้นจริงๆ
อย่างเช่นซูหลี่
ในบรรดา 7 อันดับท้ายสุด ซูหลี่เป็นคนแรกที่เปิดเผยพลังฝีมือระดับเทพสงคราม 4 ดาราออกมา เช่นนั้นจึงอยู่ในอันดับแรกท่ามกลางบรรดาผู้พ่ายแพ้ 7 คน และรั้งอยู่ในอันดับที่ 24 เป็นการชั่วคราว
“ตอนนี้ในเมื่อมีอันดับคร่าวๆแล้ว…”
เสียงของฉีคงไห่ดังขึ้นอีกครั้ง “ต่อไปให้พวกเจ้าออกมาท้าทายคู่ต่อสู้เสีย…แน่นอนว่าจักเริ่มจากอันดับที่ 30 และเจ้าสามารถท้าได้ถึงอันดับที่ 20 เท่านั้น”
“หลังจากท้าทายประสบผลสำเร็จ และสามารถครองอันดับที่ 20 ไว้ได้รอบหนึ่ง พอถึงรอบต่อไป ก็สามารถผู้ที่อยู่ในอันดับที่ 10-19 ได้”
ฉีคงไห่กล่าว..Aileen-novel
ตอนนี้ศึกรอบสุดท้ายของอัจฉริยะสวรรค์ดำเนินมาถึงถึงช่วงสุดท้ายแล้ว และถือได้ว่าเป็นช่วงที่ยาวนานที่สุดในรอบสุดท้าย
ในช่วงสุดท้าย กฏการประลองก็ไม่มีอะไรมาก แค่ผู้ที่ได้อันดับหลัง ต้องเลือกท้าทายประลองผู้ที่มีอันดับเหนือกว่าตัวเอง เพื่อไต่อันดับขึ้นไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าหากไม่คิดจะท้าทายใครและพอใจในอันดับของตัวเองก็ทำได้…และในสถานการณ์นี้หากไม่มีผู้ที่ได้อันดับน้อยกว่าตัวเองทำการท้าทายตัวเองหรืออันดับที่เหนือกว่าตัวเองได้สำเร็จ ก็จะหมดสิ้นโอกาสท้าประลองใครอีกสืบไป
แต่ถ้ามีอันดับที่ต่ำกว่าตัวเองสามารถท้าเอาชนะผู้ที่มีอันดับเหนือกว่าตัวเองได้ จนอันดับของตัวเองถอยร่นลงมา ก็จะมีโอกาสท้าประลองผู้ที่มีอันดับเหนือกว่าตัวเองอีกครั้ง
ยกเว้นไว้คนหนึ่ง ซึ่งก็คืออันดับที่ 30 เพราะถ้าหากอันดับที่ 30 ไม่คิดท้าทายใคร เช่นนั้นอันดับของมันก็ไม่ทางเปลี่ยนแน่นอน…เพราะไม่มีใครท้าประลองกับมันได้ และอันดับมันไม่มีวันต่ำกว่านี้ได้อีกแล้ว
เพราะอันดับที่ 30 คืออันดับสุดท้ายในศึกอัจฉริยะสวรรค์รอบสุดท้าย
ฟุ่บ!
แทบจะทันทีที่ฉีคงไห่กล่าวจบคำ ชายที่อยู่ในอันดับที่ 30 ซึ่งมาในชุดขาวขลิบทอง ก็เหินร่างขึ้นฟ้ามาด้วยสีหน้าจริงจัง พลางเอ่ยท้าซูหลี่ออกมาเสียงดัง “ข้าขอท้าอันดับที่ 24 ซูหลี่!”
พอมันปริปากกล่าวท้าออกมา ก็สร้างความฮือฮาให้เหล่าอัจฉริยะที่ชมดูการประลองไม่น้อย “ดูเหมือนว่าเจ้านั่นมันจะถอดใจเรื่องติดอยู่ใน 20 อันดับแรกไปแล้วสินะ…”
“ชัดเจนแล้วล่ะ หากมันคิดจะติดอยู่ใน 20 อันดับแรกหรือสูงกว่านั้น มันเลือกจะท้าอันดับที่ 20 ไปเลยไม่ดีกว่าหรือ จะไปท้าอันดับล่างๆทำไม…ข้าว่ามันตั้งใจจะทำอันดับให้ดีที่สุดนั่นล่ะ เพราะยิ่งอันดับสูงขึ้นเวลาที่เข้าใช้ห้องลับแห่งกฏของวิหารเฟิงอ่าวก็มากขึ้น ไหนจะมีของรางวัลอื่นๆอีก”
“มันก็ช่างเลือกดีนะ เลือกจะฉุดลากซูหลี่ลงจากอันดับที่ 24 และแทนที่ไปก่อน…”
…
ในช่วงสุดท้ายของรอบสุดท้ายศึกอัจฉริยะสวรรค์ อัจฉริยะคนแรกที่ถูกท้าทายก็คือซูหลี่
แม้จะเผชิญหน้ากับการท้าทาย แต่ซูหลี่ก็ยังคงมีสีหน้าสงบ เผชิญกับผู้ท้าชิงอย่างใจเย็น
และสุดท้าย ซูหลี่ที่พยายามสุดกำลังก็สามารถเอาชนคู้ต่อสู้มาได้ ถึงแม้จะบาดเจ็บอยู่บ้างแต่ก็ถือว่ารักษาอันดับที่ 24 ของตัวเองเอาไว้ได้สำเร็จ
“เจ้ายังไหวหรือไม่?”
หลังซูหลี่หอบร่างสะบักสะบอมกลับมา ต้วนหลิงเทียนก็ย่นคิ้วกล่าวถามด้วยความเป็นห่วง
เพราะเมื่อครู่ซูหลี่ก็ถูกอีกฝ่ายซัดจนกระอักโลหิตเป็นสาย แลดูแล้วไม่น่าจะใช่เบาๆเลย
“ไหวอยู่ ก็แค่เจ็บนิดๆหน่อยๆ”
ซูหลี่คลี่ยิ้มบางๆ “กินโอสถรักษาสักเม็ดก็หายแล้ว”
พอกล่าวจบคำ ซูหลี่ก็สะบัดมือเรียกโอสถถออกมาตบเข้าปาก จากนั้นก็ขัดสมาธิหลับตาเดินพลังรักษาตัวทันที
ตามกฏการประลองของศึกอัจฉริยะสวรรค์ช่วงสุดท้าย ผู้ที่มีอันดับต่ำกว่าซูหลี่ ไม่อาจท้าทายซูหลี่ได้อีก ต้องรอให้ซูหลี่พักก่อนศึกหนึ่งถึงจะท้าได้อีกครั้ง
ตอนนี้หากมีคนท้าทายและแทนที่อันดับที่ 20 ได้ อันดับล่างลงมาก็จะไม่อาจท้าทายมันได้ชั่วคราว ต้องรอให้ผ่านไปศึกหนึ่งเช่นกันถึงจะท้ามันได้อีกครั้ง
แต่แน่นอนว่าหากเกิดกรณีที่ไม่อาจท้าทายอันดับที่ 20 ได้ขึ้นมาจริงๆ ก็จะอนุโลมให้ข้ามไปท้าอันดับที่ 19 ได้เลย
และนี่ก็เป็นกฏของศึกอัจฉริยะสวรรค์
หากเกิดขึ้นกับตำแหน่งที่ 10 ก็จะข้ามไปท้าอันดับที่ 9 ได้เช่นกัน
ในขณะที่ซูหลี่กำลังพักรักษาตัว คนที่อยู่ในอันดับที่ 29 ก็ไม่อาจท้าซูหลี่ได้ และมันก็ไม่มีความคิดทะเยอทะยานไปท้าอันดับที่ 20 สุดท้ายก็เลือกอันดับที่ 25 ถัดจากซูหลี่
ทั้งคู่มีพลังฝีมือพอๆกัน แต่สุดท้ายผู้ท้าทายก็เอาชนะได้สำเร็จ และกลายเป็นอันดับที่ 25 แทน ส่วนผู้ที่อยู่ในอันดับที่ 25 แต่เดิม ก็ถอยลงไปอยู่ในอันดับที่ 26…
สำหรับอันดับที่ 26-28 แต่เดิมก็ร่นกันลงมาคนละ 1 อันดับ
สำหรับคนสุดท้ายที่แพ้ซูหลี่มาก่อนหน้าก็รั้งอันดับสุดท้ายไปไม่มีอะไรเปลี่ยน
ต่อมาผู้ที่ร่วงตกลงไปอยู่ในอันดับที่ 29 หยกๆ ก็ท้าทายซูหลี่ที่ได้พักฟื้นจนหายดีแล้วทันที
และคราวนี้ซูหลี่ก็ยังคงรักษาอันดับเอาไว้ได้
จากนั้นก็ถึงตาอันดับที่ 28 ใหม่ จนถึงอันดับที่ 26 ใหม่ทำการท้าทาย…สำหรับอันดับที่ 25 ที่เดิมเป็นอันดับที่ 29 นั้น เนื่องจากมันท้าประลองไปแล้ว เช่นนั้นจึงไม่มีโอกาสท้าประลองผู้ใดอีกในรอบนี้
อย่างไรก็ตามในขั้นตอนนี้ก็มีคนท้าประลองอันดับที่ 20 เป็นคนแรก และก็ล้มเหลว..
สุดท้ายพอไล่มาถึงอันดับที่ 22 มันก็สามารถท้าทายเอาชนะอันดับที่ 20 และแทนที่ได้สำเร็จ
ทำให้อันดับที่ 20 แต่เดิมถอยร่นลงไปอันดับที่ 21 ส่วนอันดับที่ 21 แต่เดิมก็ร่นลงไปอยู่ในอันดับที่ 22
ตามลำดับ ผู้ที่พึ่งตกลงมาอยู่ในอันดับที่ 22 ก็จะเป็นผู้ท้าประลองคนต่อไป
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่อันดับที่ 20 กับ 21 พึ่งจะประมือกันไป เช่นนั้นมันจึงไม่อาจท้าใครในบรรดาทั้ง 2 ได้
ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว…
หากมันเลือกที่จะไม่ท้าใครในรอบนี้ เช่นนั้นมันก็จะไม่อาจท้าใครได้อีกเลย จนกว่าจะมีผู้ที่อันดับต่ำกว่ามันท้าทายเอาชนะมันหรือคนที่อยู่ด้านหน้ามันได้สำเร็จ…
หรืออีกทาง คือเลือกจะท้าประลองอันดับที่ 19 ถ้าเอาชนะก็แทนที่อีกฝ่ายได้ทันที
หรือถ้าแพ้ มันก็ยังอยู่ในอันดับที่ 22 เหมือนเดิม ทว่าในรอบต่อไปหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีอันดับต่ำกว่ามันท้าทายตัวมันหรือผู้ที่อยู่สูงกว่ามันแล้วแทนที่ได้สำเร็จล่ะก็ มันก็ยังมีสิทธิ์ท้าทายอันดับที่สูงกว่าตัวเองอยู่ ไม่ใช่จะรั้งอยู่ในอันดับที่ 22 ตลอดไปเหมือนทางเลือกแรก…
“ข้าขอท้าอันดับที่ 19!”
เห็นได้ชัดว่าผู้ที่พึ่งร่วงลงมาอยู่ในอันดับที่ 22 มีความทะเยอทะยานอยู่
อนิจจาถึงแม้ว่าจะมีความทะเยอทะยาน แต่ถ้าพลังฝีมือไม่ถึง สุดท้ายก็ถูกลิขิตให้ไร้ประโยชน์
อันดับที่ 22 ท้าทายล้มเหลว…
“อันดับที่ 18”
เนื่องเพราะอันดับที่ 19 พึ่งถูกท้าไป ฉีคงไห่จึงข้ามไปให้อันดับที่ 18 ท้าประลองก่อน เพื่อให้อันดับที่ 19 ได้พักศึกหนึ่ง จนเมื่ออันดับที่ 18 ท้าประลองเสร็จแล้ว ค่อยวกกลับมาให้อันดับที่ 19 ท้าประลอง
“ขาขอท้าทายอันดับที่ 12!”
อันดับที่ 18 นั้น ด้วยความที่มันเองก็เป็นเทพสงคราม 4 ดาราชนชั้นยอดฝีมือ แน่นอนว่ามันย่อมมีความทะเยอทะยานอยากได้อันดับที่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ และการท้าอันดับที่ 12 แบบนี้เห็นได้ชัดว่ามันต้องการอยู่เหนือเทพสงคราม 4 ดาราทั้งมวล!
เพราะ 11 อันดับแรกนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นเทพสงคราม 5 ดาราทั้งสิ้น มันรู้ดีว่าถึงท้าไปก็รังแต่จะหาเรื่องขายหน้าเท่านั้น จึงไม่มีความคิดจะท้าอยู่เลย
และอันดับที่ 12 ก็เป็นเทพสงคราม 4 ดาราเช่นกัน มีนามว่า เมิ่งฝานกุ้ย
และเมิ่งฝานกุ้ยคนนี้ ก็เป็นคนแรกที่เปิดเผยพลังระดับเทพสงคราม 4 ดาราออกมาในศึกอัจฉริยะสวรรค์ครั้งนี้
มันเป็นศิษย์ของนิกายเมิ่งซวน ขุมกำลังระดับสวรรค์ของซวนหยวนเทียน เชี่ยวชาญการใช้วิชามายาเป็นพิเศษ! อันที่จริงพลังของมันก็ไม่เชิงถึงระดับเทพสงคราม 4 ดาราเสียทีเดียว แต่ด้วยอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิที่มีวิญญาณ จึงทำให้พลังของมันเทียบได้กับเทพสงคราม 4 ดารา…
“เมิ่งฝานกุ้ย เพราะเจ้ามีภูมิหลังดีมีคนประเคนมอบอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิที่มีวิญญาณให้ เจ้าถึงมาอยู่ในจุดนี้ได้…”
ผู้ที่กล่าวท้าทายเมิ่งฝานกุ้ย เป็นชายหนุ่มชุดดำหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง ขณะมองเมิ่งฝานกุ้ยมุมปากก็ยกยิ้มดูแคลนอย่างเห็นได้ชัด “เช่นนั้นเก่งจริง เจ้ากล้าเปลี่ยนอุปกรณ์อมตะเป็นระดับจักรพรรดิธรรมดาแล้วมาสู้กับข้าหยวนฮ่าวจินหรือไม่เล่า?”
“อยากสู้ก็สู้”
เมิ่งฝานกุ้ยแลดูสงบไม่นำพาคำท้าเสียดสี “อย่าได้คิดใช้วาจายั่วยุต่ำชั้น เพื่อให้ตัวเองดูดีไปหน่อยเลย…เพราะมันน่าขัน!”
“ถึงข้าเมิ่งฝานกุ้ยมาถึงจุดนี้ได้เพราะมีภูมิหลังอันดีและได้รับอุปกรณ์อมตะดีๆมาใช้ แล้วจะอย่างไร? หรือเจ้าอยากให้ข้าเมิ่งฝานกุ้ยไปเกิดใหม่ถึงจะพอใจ?”
“เจ้ามันก็แค่คนไร้สำคัญที่ซ่อนตัวในซอกหลืบ ดีแต่อิจฉาข้า เมิ่งฝานกุ้ย เท่านั้น!”