(WN) Love Comedy Manga ni Haitte shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru - ตอนที่ 48
วันพุธนี้เป็นวันเริ่มการแข่งขันกีฬาประเภทบอล
วันนี้ไม่มีการเรียนการสอนเลย ตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงบ่าย เราจะมีแต่การแข่งขันกีฬาประเภทบอลอย่างเดียว
นักเรียนในชั้นปีของเราแบ่งออกเป็น 8 ห้องเรียน ดังนั้นการแข่งแบบพบกันหมดทุกห้องเลยจำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควร
นั่นเป็นสาเหตุที่วันนี้ไม่มีเรียน และจะมีการแข่งขันประเภทบอลตลอดทั้งวันแทน
สำหรับนักเรียนที่ไม่ชอบเรียนแต่ชอบการออกกำลังกาย วันนี้ก็เหมือนกับฝันที่เป็นจริง
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ…มันถือเป็นวันที่ดีที่สุดสำหรับยูอิจิ ผู้ที่…ไม่ค่อยหัวดีเรื่องเรียนแต่มีไหวพริบด้านกีฬาที่ยอดเยี่ยม
“หือ? สึคาสะ เมื่อกี้นายคิดที่เสียมารยาทอยู่รึเปล่า?”
“นี่ตอนเด็กๆ นายกับโทโจอินซังไปเรียนวิชาอ่านใจมาด้วยกันหรือไง?”
“ไม่ใช่แล้ว พวกเราไม่ได้เรียนอะไรแบบนั้นมาซักหน่อย…นี่หมายความว่านายก็ยอมรับแล้วใช่ไหมว่าเมื่อกี้นายคิดเรื่องเสียมารยาทอยู่หน่ะ?!”
“ช่างเรื่องนั้นเถอะหน่า ถึงเวลาของเราแล้ว เราต้องอุ่นเครื่องกันก่อน”
“นายนี่เปลี่ยนเรื่องเก่งจริงนะ”
เราได้เปลี่ยนเป็นชุดพละของโรงเรียนและออกไปที่สนามกัน
ฝั่งผู้ชายจะแข่งเบสบอลที่สนามนอก ซึ่งมีความกว้างพอที่จะจัดการแข่งขันสองเกมพร้อมกัน
การแข่งของคู่ก่อนหน้านี้จบแล้ว ดังนั้นจึงถึงตาของเราแล้ว
หากเป็นเบสบอลจริงๆ ก็คงต้องเล่นถึงช่วงท้ายของอินนิ่งที่ 9 แต่ถ้าในการแข่งขันกีฬาประเภทบอลของโรงเรียน มันจะใช้เวลามากเกินไป ดังนั้นแต่ละเกมจึงจำกัดเวลาอยู่ที่ 30 นาทีแทน
“พวกเราต้องชนะนะสึคาสะ!”
“อืม แค่มีนายอยู่ ฉันคิดว่าก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วแหละ”
“ห้ะ? นายดูไม่มีใจจะแข่งเลยนะ”
“เปล่าซักหน่อย ก็นายเก่งเกินไปต่างหาก”
เราได้แข่งไปแล้ว 1 เกมก่อนหน้านี้
ผลคือเราชนะขาดลอย
เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นเพราะยูอิจิที่เป็นพิชเชอร์ (คนขว้างลูก)
เขาสามารถขว้างลูกด้วยความเร็วเกิน 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่านักขว้างลูกระดับโรงเรียนทั่วไป
แม้ว่าเขาจะขว้างลูกหมุนไม่ได้ แต่แค่ความเร็วของการขว้างที่สูงเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คู่ต่อสู้ที่เป็นนักเรียนธรรมดาหวาดกลัว มันเร็วขนาดที่ทำให้ใครที่ไม่เคยเล่นเบสบอลมาก่อนไม่อยากยืนในกรอบการตีลูกเลยแหละ
เขาขว้างลูกอย่างเต็มที่ในการแข่งขันกีฬาประเภทบอล ซึ่งในหมู่นักเรียนธรรมดา การขว้างลูกด้วยความเร็วเกิน 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นทำให้ยากที่แม้แต่นักเรียนที่อยู่ในทีมเบสบอลจะตีได้
ซึ่งโรงเรียนของเราก็ไม่ได้มีทีมเบสบอลที่แข็งแกร่งขนาดนั้น ดังนั้นนักเรียนที่สามารถตีลูกของเขาได้จึงมีน้อยมาก
ผมกลับรู้สึกสงสารทีมฝ่ายตรงข้ามที่ต้องตีลูกของหมอนี่แทนซะอีก
“ชิเงโมโตะคุง! ฮิซามูระคุง!”
ขณะที่เรารอให้การแข่งเริ่มขึ้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง
เมื่อหันไปมองผมก็เห็นฟูจิเซะยิ้มพร้อมกับเซย์จังที่ยืนอยู่ข้างๆ
วันนี้เป็นการแข่งขันกีฬาประเภทบอล ดังนั้นทั้ง 2 คนจึงใส่ชุดพละอยู่
“ใกล้จะเริ่มแข่งกันแล้วใช่ไหมจ๊ะ?”
ฟูจิเสะถามคำถามนั้น ซึ่งยูอิจิก็ตอบกลับไป
“อ่า ห้องเรากำลังจะแข่งแล้ว ของผู้หญิงจบแล้วเหรอ?”
“ใช่จ่ะ แข่งกันเสร็จแล้วแหละ”
“ชนะไหม?”
“ชนะสิ! ส่วนใหญ่ต้องขอบคุณเซย์จังแหละนะ”
ฟูจิเซะพูดพร้อมกับหันไปมองเซย์จัง
ด้านเซย์จังที่อายก็หันหน้าหนี
“ไม่ใช่ซักหน่อย…ฉันแค่ทำให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง”
“ฮิฮิ จริงด้วย เซย์จังทำแต้มไว้เยอะมากเลยหนิเนอะ”
เซย์จังอายเล็กน้อยขณะหน้าแดง ทำให้ดูน่ารักมาก
จริงๆ แล้วนี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้เห็นเซย์จังในชุดพละเต็มตัว
ชุดพละแบบแขนสั้นและกางเกงขาสั้นที่เรียบง่าย แต่พอเซย์จังใส่แล้วมันกลับดูน่ารักขึ้นอย่างน่าประหลาด
นอกจากนี้…ตรงส่วนหน้าอกที่ถูกเน้นก็ช่างดึงดูดสายตา เป็นธรรมชาติของผู้ชายที่จะสนใจชุดบางๆ ที่เน้นส่วนนี้
ในขณะที่ฟูจิเซะ…ก็อย่างที่รู้ในมังงะต้นฉบับ เธอค่อนข้างเรียบง่าย
“ฮิซะมูระคุง? เธอคงไม่ได้คิดอะไรที่มันเสียมารยาทอยู่หรอกใช่ไหมจ๊ะ?”
“มิกล้าหรอกขอรับฟูจิเสะซามะ”
เดี๋ยวนะ นี่ทุกคนสามารถอ่านใจกันได้หรือยังไงหนิ?
ผมไม่คิดว่าเนื้อเรื่องดั้งเดิมจะมีฉากที่ทุกคนสามารถใช้การอ่านใจได้ซักหน่อย
แต่คราวนี้ผมผิดเอง คงต้องขอโทษหล่ะนะ
“ยูอิจิ การแข่งต่อไปจะเป็นของห้องนายสินะ?”
“อ๊ะ คาโอริ”
ขณะที่เรากำลังคุยกันอยู่ โทโจอินซังก็เข้ามาร่วมวงด้วย
“ฉันมาเพื่อเชียร์ยูอิจิเหมือนกัน”
“ขอบคุณ แต่จะไม่เป็นไรงั้นเหรอ? การแข่งต่อไปที่เราต้องแข่งคือทีมของห้องคาโอริหนิ?”
“ฉันไม่สามารถกักเก็บความรู้สึกที่จะเชียร์คนที่ตัวเองชอบได้ แถมฉันก็ไม่ค่อยมีความผูกพันกับผู้ชายในห้องเรียนด้วย”
“งะ-งั้นเหรอ”
คำพูดของโทโจอินซังทำให้ยูอิจิอายเล็กน้อย แต่พวกผู้ชายในห้องเรียนของโทโจอินก็ได้ยินคำพูดนั้นเหมือนกัน…ซึ่งดูเหมือนขวัญกำลังใจของเขาจะตกต่ำลงมาก
ใช่ มันคงจะรู้สึกแย่มากถ้ามีสาวสวยมาพูดว่า “ฉันไม่คิดว่าพวกนายมีค่าพอที่จะเชียร์หรอกนะ”
“โม่ววว…ชิเงโมโตะคุง! ฉันก็เป็นมาเชียร์เธอเหมือนกันนะ!”
“อะ-อ่า ขอบใจนะ ฟูจิเซะ”
ราวกับจะตอบโต้ ฟูจิเสะก็ส่งคำเชียร์ไปยังยูอิจิด้วย
“ให้ตายเถอะ…! ไอ้เวรนั่นไม่เพียงได้รับกำลังใจจากท่านโทโจอิน ซึ่งเป็นมาดอนน่าของชั้นเรียนของเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงฟูจิเสะซังด้วย…!”
“ไม่ยกโทษให้! ไม่ยกโทษให้เด็ดขาด…”
“ฉันจะขยี้แก!”
…ดูเหมือนว่าขวัญกำลังใจของทีมคู่แข่งจะกลับมาลุกโชนได้อีกครั้งแล้ว
ในฐานะเด็กมัธยมปลาย ผมคงจะรู้สึกไม่พอใจยูอิจิที่มีผู้หญิงน่ารักแบบนี้คอยคอยเชียร์อยู่ถึง 2 คน
“อ๊ะ ดูเหมือนว่าการแข่งกำลังจะเริ่มแล้ว”
ตามที่ยูอิจิพูด นักเรียนที่ทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินเป่านกหวีดและตะโกนว่า “ทีมต่อไป โปรดมารวมกัน” แล้ว
“ฉันต้องไปแล้ว! ช่วยเชียร์กันด้วยนะ!”
“ฉันจะเชียร์นายให้ แต่ในทางกลับกันก็อย่าแพ้ซะหล่ะ ยูอิจิ”
“ชิเงโมโตะคุง พยายามเข้านะจ๊ะ!”
ยูกิอิจิเต็มไปด้วยพลังก่อนจะกล่าวว่า “โอเค!” พร้อมกับวิ่งไปยังที่ที่นักเรียนคนอื่นๆ กำลังรวบรวมตัวกันอยู่
แค่มียูอิจิอยู่ ทีมผมก็ไม่มีทางแพ้หรอก เพราะงั้นเล่นแบบสบายๆ ไปแล้วกัน
“ฮิซามูระ”
“หืม? ว่าไงเหรอเซย์จั.…”
เนื่องจากไม่มีใครอยู่แถวนี้ ผมเลยเกือบจะเรียกเธอว่าเซย์จังแล้ว แต่ก็หยุดเอาไว้ซะก่อน
แต่การหยุดครั้งนี้ไม่ใช่เพราะความตั้งใจของผม แต่เป็นเพราะในตอนที่ผมหันหลังกลับไป ผมกลับพบว่าใบหน้าของเซย์จังอยู่ใกล้มากจนแทบจะหยุดหายใจและผมก็หยุดพูด
มันใกล้มาก ใกล้ถึงขนาดที่หากขยับอีกเพียงแค่นิดเดียวจมูกก็ชนกันแล้ว
เซย์จังดูเหมือนจะไม่คิดว่าตัวเองจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ เธอดูตกใจเล็กน้อย แต่ในระยะนี้เธอยังพูดต่อไป
“ฉันเชียร์อยู่… สู้ๆ นะ”
คำพูดนี้ถูกกระซิบอย่างใกล้ชิดมาก ก่อนที่เซย์จังจะถอนหน้ากลับไปด้วยความเร็วและเดินจากไปพร้อมกับใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงสด
ผมมองตามเธอที่เดินจากไป ขณะที่รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองร้อนขึ้นก่อนจะเดินไปหายูอิจิและเพื่อนคนอื่นๆ
โชคดีที่ไม่มีนักเรียนชายคนไหนเห็นผมกับเซย์จังอยู่ใกล้ขนาดนั้น ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าทำไมผมถึงเดินอย่างสะโหลสะเหลแบบนี้
“แย่แล้ว! สึคาสะ! ดูเหมือนว่าฉันจะเล่นเก่งเกินไปในเกมก่อนหน้านี้ พวกเขาเลยไม่ให้ฉันเป็นพิชเชอร์ต่อแล้ว!”
“…ยูอิจิ”
“ว่าไง? สึคาสะ นายไม่สบายหรือเปล่า? แล้วหน้าก็แดงด้วย…มีอะไรหรือเปล่า?”
“ฉันจะเป็นพิชเชอร์เอง”
“เอ๋? นายทำได้เหรอ?”
“เคยเล่นอยู่ตอนประถม ถึงจะคิดว่าความเร็วลูกอาจจะไม่เร็วเท่านายก็เถอะ”
“โอ้ จริงเหรอ! ฉันกำลังกังวลอยู่เลยว่าจะให้ใครเป็นพิชเชอร์ดี! ฝากด้วยหล่ะสึคาสะ!”
“โอ้วววว! พวกเราต้องชนะให้ได้!!”
“อะ-โอ้!? สึคาสะ จู่ๆ นายก็ดูมีไฟขึ้นมาเฉยเลยนะ”
“แน่นอนอยู่แล้วเจ้าโง่นี่! ฉันจะทำเพื่อพวกเราทุกคนเอง!”
“เดี๋ยวก่อน สึคาสะ คาแรคเตอร์นายเป็นแบบนั้นเหรอ?”
ตัวตนของผมเปลี่ยนไปงั้นเหรอ? ช่างหัวมันสิ!
หลังจากที่เซย์จังพูดแบบนั้น ผมจะไม่ทำให้เต็มที่ได้ยังไง!
ผมจะทำให้ดีที่สุด!