World of Beasts I Can See Their Hidden Stats! - ตอนที่ 62
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาตระกูลไวท์ดูวุ่นวายเป็นพิเศษ
นับตั้งแต่หัวหน้าตระกูลไวท์พาเอเดรียนและอลิซกลับบ้าน
พวกเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องที่บีบคั้นหัวใจดังออกมาจากปราสาทอายุร้อยปีทุกวัน
คนรับใช้มีท่าทีเคร่งขรึม พวกเขาไม่กล้าทำพลาด
เจ้านายของพวกเขา หัวหน้าตระกูลไวท์ไม่ได้ยิ้มมานานแล้ว
“นายน้อยเอเดรียน โปรดอดทนไว้ ขาของท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส ตราบใดที่ท่านทนมันได้ ข้ามั่นใจว่าท่านจะหายดี…”
หมอปลอบเขาในขณะที่ควบคุมแบทเทิลบีสต์ประเภทแพทย์เพื่อเปลี่ยนผ้าบนขาที่พิการของเอเดรียน
“ไอล็อคเวรนั่น! อ๊าก! โครตเจ็บ…” เอเดรียนที่นอนอยู่บนเตียงมีเหงื่อท่วมตัว
ภายใต้การเลือกของหัวหน้าตระกูลไวท์ หมอไม่ได้ใช้ยาชาใดๆ เพราะมีโอกาสที่วิธีการนี้จะทิ้งผลข้างเคียงติดตัวไปตลอดชีวิต แม้มันจะเล็กน้อยมากก็ตาม…
อย่างไรก็ตามเพื่อตระกูลไวท์ เอเดรียนจึงจำต้องอดทน
“อืมม… ข้ารู้ว่ามันยากสำหรับเจ้า แต่ข้าไม่อนุญาตให้บุตรของตระกูลไวท์พิการ” หัวหน้าตระกูลไวท์ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังหรูหราริมหน้าต่างฝรั่งเศส มองดูสถานการณ์บุตรชายของเขา ไม่มีความรู้สึกใดปรากฏบนใบหน้าของเขา
หลังจากเสร็จสิ้นการรักษาในวันนี้หมอก็จากไปทันทีหลังจากได้รับเงิน
เอเดรียนค่อยๆสงบลง ขณะที่เขากำลังจะสาปแช่งอีกสองสามคำ เขาก็พบว่าพ่อของเขากำลังจ้องมองเขาด้วยดวงตาที่น่าสะพรึงกลัว!
ภายใต้แสงจันทร์ชายชราคนนี้เป็นเหมือนนกอินทรีที่กำลังจ้องมองเหยื่อของมัน
หัวหน้าตระกูลไวท์เป็นฝ่ายเริ่มก่อน เขาเกาจมูกที่งุ้มกว่าปกติของเขาก่อนจะกล่าว “เจ้ารู้อะไรไหม? พี่ชายทั้งสามของเจ้าสำเร็จการศึกษาจากห้องเพชรด้วยระดับท็อป และเจ้า…ดูเหมือนจะทำลายธรรมเนียมนี้”
“ไม่! ได้โปรดฟังข้าก่อน มันไม่ใช่ว่าข้าอ่อนแอ แต่ล็อคมันแข็งแกร่งเกินไป!”
“ข้ารู้สึกว่าเขาแตกต่างจากจ้าวแห่งสัตว์อสูรแบบดั้งเดิม ดูเหมือนเขาจะมีพลังแปลกๆบางอย่างที่สามารถทำให้แบทเทิลบีสต์ธรรมดาแข็งแกร่งขึ้น!”
“ข้าเคยเห็นแบทเทิลบีสต์จากซีรีส์ป่าหลายตัวที่คล้ายกับงูสองหัวของเขา…”
“อึก…” ความเจ็บปวดที่ขาของเขาทำให้เขาต้องหยุดชั่วคราวเป็นเวลาสองวินาทีก่อนจะกล่าวต่อ “ขยะเช่นเขาอยากมากสุดก็ได้แค่ระดับน้ำเงิน แต่ล็อคกลับครอบครองระดับกุหลาบทอง! ข้าว่ามันแปลกมาก แปลกมากจริงๆ!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น การแสดงออกที่ดูเย็นชาของหัวหน้าตระกูลไวท์ก็กระตุกเล็กน้อย แต่นี่ไม่ได้มาจากความประหลาดใจ มันเกิดจากความโกรธ!
สิ่งที่เอเดรียนกล่าวมานั้นดูไร้สาระมากสำหรับเขา!
มันยังคล้ายกับดูถูกเขาอีกด้วย!
นับตั้งแต่แบทเทิลบีสต์ตัวแรกถูกฝึกฝนโดยมนุษย์เมื่อหลายร้อยปีก่อน วิธีที่จ้าวแห่งสัตว์อสูรพัฒนาความสามารถและเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบทเทิลบีสต์ของพวกเขาให้สมบูรณ์ก็ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
มันมีทั้งความรู้ทั่วไปที่เปิดเผยต่อสาธารณะ และยังมีวิธีที่ถูกเก็บเป็นความลับเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหน หัวหน้าตระกูลไวท์ผู้นี้ก็จำมันได้ทั้งหมด!
‘วิธีการแปลกๆที่ทำให้แบทเทิลบีสต์ธรรมดาแข็งแกร่งขึ้น?’
‘ถ้าของแบบนั้นมันมีจริง แล้วทำไมคนทั้งโลกถึงยังต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาฟักไข่อสูรด้วย?’
‘หากเจ้าเด็กชื่อล็อคนั่นมีความสามารถที่น่ากลัวอย่างที่กล่าวจริงๆ งั้นทำไมเขาถึงไม่เป็นจักรพรรดิแห่งสหพันธ์ไปเลยล่ะ?’
คำพูดหล่านั้นเห็นได้ชัดเลยว่าเป็นเพียงข้ออ้างที่เกิดจากความล้มเหลวของเขา!
หัวหน้าตระกูลไวท์ลุกขึ้นทันทีและจ้องไปยังบุตรชายที่ไร้ประโยชน์ของเขาอย่างโหดเหี้ยม!
เขาต้องการทุบตี แต่เมื่อมองไปยังเอเดรียนผู้น่าสงสาร เขาก็ทำเช่นนั้นไม่ลง
ไม่นานเขาก็กระแทกประตูและจากไป
หลังจากกลับไปห้องศึกษาเขาก็พบว่าเลขาที่รับใช้เขามารออยู่ก่อนนานแล้ว
“นายท่าน นี่คือจดหมายตอบกลับจากสหพันธ์และสถาบัน…” เลขากล่าวด้วยความเคารพ
หัวหน้าตระกูลไวท์รู้เรื่องที่บุตรชายและบุตรสาวของเขาได้ละเมิดกฎหมายของสหพันธ์จากอาจารย์โอลลี่ อาชญากรรมเหล่านี้เพียงพอที่จะส่งเอเดรียนและอลิซเข้าคุกไปหลายปี
ดังนั้นเขาจึงรีบขอความช่วยเหลือจากผู้ที่อยู่ในศาลเพื่อขอให้ลบเรื่องนี้ออกไป
ขณะเดียวกันเขาก็ยังส่งจดหมายร้องเรียนไปยังสถาบันโดยหวังว่าเขาจะสามารถไล่เจ้าสาวเลวตัวน้อยที่ทำร้ายลูกของเขาให้ออกจากโรงเรียนได้
จดหมายตอบกลับจากศาลทำให้เขารู้สึกสบายใจ ในที่สุดอย่างน้อยลูก ๆ ของเขาก็จะปลอดภัย
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้อ่านจดหมายจากสถาบัน มันกลับทำให้เขาเดือดดาล!
“ปัง!”
เขาทุบโต๊ะทำงานจนแตกออกเป็นสองส่วน!
แต่ดูเหมือนเลขาจะคุ้นเคยและไม่กลัว เขาหยิบจดหมายตอบกลับจากสถาบันขึ้นมาเปิดดู
มันไม่มีแม้แต่คำเดียวที่อยู่ในนั้น แต่กลับเป็นภาพร่างง่ายๆแทน
มันเป็นภาพของมือที่กำลังชูนิ้วกลาง!
แน่นอนว่าหัวหน้าตระกูลไวท์ไวท์รู้ดีว่าเป็นฝีมือของใคร!
เขาคำรามด้วยความโกรธ “ฮอบริก! เจ้ากับข้าต้องมีใครตายไปข้างหนึ่ง!”
เลขามาร์ถอนหายใจ เขาไม่คิดเลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างชายชราทั้งสองจะถึงขั้นดังนี้
หลังจากติดตามหัวหน้าไวท์มานานกว่าสามสิบปี เขาก็รู้ดีว่าทั้งสองคนเคยมีสนิทกันมากในอดีต!
พวกเขาเป็นทั้งจ้าวแห่งสัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์และเป็นศิษย์ของอาจารย์มีชื่อเสียง ทั้งสองมีบันทึกการต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์และมีผู้ติดตามมากมาย
อย่างไรก็ตามเมื่อ 20 ปีที่แล้ว พวกเขาก็เริ่มต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ที่แตกต่างกัน
จากอุดมการณ์ที่แตกต่าง เปลี่ยนเป็นดูถูก จนไปสิ้นสุดที่ต่อสู้กัน จากเพื่อนที่ดีจนสามารถคุยกันได้ทุกเรื่องกลับกลายเป็นศัตรูกัน
ในท้ายที่สุด มันก็พัฒนาไปสู่จุดที่คนระดับสูงของสหพันธ์ต้องลงมือไกล่เกลี่ย
เนื่องจากตระกูลไวท์ร่ำรวยมาก พวกเขาจึงใช้เงินจำนวนมหาศาลของตระกูลไวท์บริจาคให้กับสถาบันจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับสูงแห่งสหพันธ์และรับหุ้นมาส่วนหนึ่งเพื่อระงับความโกรธของทั้งสองฝ่ายเป็นการชั่วคราว
การลงมติโดยสันตินี้ทำให้ทั้งสองฝ่ายได้รับผลประโยชน์ตามที่ต้องการ
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของมาร์ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความสงบก่อนเกิดพายุ
“นายท่านได้โปรดอย่างโกรธไป หากท่านอนุญาต ข้าจะแอบเข้าไปในสถาบันและสังหารเด็กที่บังอาจมาดูถูกนายน้อยและคุณหนู…” มาร์คุกเข่าลงข้างหนึ่ง
หัวหน้าตระกูลไวท์มองไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาที่ซื่อสัตย์ ในที่สุดเขาก็สงบลงเล็กน้อย เขานำมือไพล่หลังก่อนจะกล่าว “ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า เด็กคนนั้นจะต้องตายอย่างแน่นอน แต่… ข้ารู้สึกว่าภูมิหลังของเด็กคนนี้ไม่ง่ายอย่างที่เห็น อันดับแรกเราต้องตรวจสอบภูมิหลังของเขา หากเขาได้รับการสนับสนุนจากตระกูลใหญ่ งั้นเราก็ต้องวางแผนให้รอบคอบ…”
“แต่ถ้าไม่! เราก็แค่ต้องจ้างใครสักคน เจ้ารู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง!”
มาร์พยักหน้าและกล่าว “มีเพียงผลลัพธ์เดียวที่กล้าดูถูกตระกูลไวท์… ทั้งตระกูลของมันจะต้องถูกประหารชีวิต”
ประโยคเลือดเย็นนี้ฟังดูเป็นเหมือนเรื่องปกคิเมื่อมันออกมาจากปากของเขา
“ฮอบริก ข้าจะเริ่มด้วยการสังหารลูกศิษย์ของเจ้า…” จิตสังหารในดวงตาของหัวหน้าตระกูลไวท์เข้มข้นขึ้น
…
ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ล็อคอารมณ์นั้นดีมาก
เหตุเพราะเขาไม่ถูกคนอย่างเอเดรียนมารบกวน ทำให้เขามีเวลาศึกษาอย่างเต็มที่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของความรู้พื้นฐาน เขาในตอนนี้นั้นได้ก้าวข้ามขีดจำกัดครั้งใหญ่
ไม่เพียงแต่เขาได้รับการยอมรับจากทุกคนในฐานะหัวหน้าของห้องเพชรในแง่ของการต่อสู้เท่านั้น แต่เขายังติดสามอันดับแรกในการสอบข้อเขียนอีกด้วย
ด้วยความช่วยเหลือของระบบ เขารู้สึกว่าชีวิตของเขาเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ เขาก็เริ่มฝึกคาถาตามปกติ
อย่างไรก็ตามหลังจากเขาฝึกไปได้ไม่นาน เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น