Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ - ตอนที่ 602
บนท้องฟ้า
ชั้นเมฆยกตัวสูงขึ้น ขณะที่พายุสายลมยังคงพัดกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง
ปรากฏจุดเปลวเพลิง ที่มองจากเบื้องล่างจะคล้ายกับดวงดารานับไม่ถ้วนผุดออกมาจากในความว่างเปล่า
นอกจากนี้ ยังได้ยินถึงเสียงสะท้อนของบทเพลง ที่ฟังดูอ่อนโยนและแผ่วเบา ลอยมาตามสายลม พร้อมกับบุปผาดำที่ผุดขึ้นมารอบทิศทาง
บางครั้งบางคราว ใบหน้าอันทรงเสน่ห์ก็ผุดออกมาจากบุปผาเหล่านั้น จ้องมองไปรอบๆ ด้วยรอยยิ้มหวาน และหายกลับเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในมัน
ผู้เข้าสู่วิถีมารมากมายที่เห็นถึงฉากนี้ ในหัวใจของพวกเขาก็เต้นตึกตัก รู้สึกได้ว่ามันกำลังคันยิบๆ
ขณะเดียวกัน บนพื้นน้ำแข็งก็เริ่มผุดเงาขึ้นในบริเวณโดยรอบอย่างต่อเนื่อง พวกมันคล้ายกับว่าอยู่ในโลกอื่น แต่สามารถเข้ามายังโลกใบนี้ได้ตลอดเวลา
และยังได้ยินถึงเสียงของเกือกม้าที่ดังกึกก้อง คล้ายกันกับในเวลาที่เสียงของห่าฝนกระทบกับพื้นดิน กังวานไปทั่วโลกชั้นน้ำแข็ง
“เฮ! สงคราม! การต่อสู้!”
เสียงแห่งสงครามนับไม่ถ้วนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าผู้ใดได้รับฟังก็ชวนให้รู้สึกฮึกเหิม
อย่างไรก็ตาม เมื่อเหล่าผู้เข้าสู่วิถีมารจะมองไปรอบๆ พวกเขากลับไม่พบเห็นถึงสิ่งใดเลย
นอกเสียจากสิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาด ที่เผยรูปร่างของมันออกมาบนท้องฟ้า
แต่ไม่นาน ทั้งหมดที่ว่ามาก็กลับไปซ่อนตัวอยู่ในสายลมอีกครั้ง
ที่กล่าวมานี้คือทหารของเผ่าพันธุ์ภูตผี ทั้งหมดกำลังเฝ้ารอรับฟังคำสั่งจากราชาภูตของพวกมันอย่างอดทน
ผู้นำของผู้เข้าสู่วิถีมารเพ่งสำรวจสถานการณ์ปัจจุบันอย่างหวาดระแวง ความรู้สึกหวาดกลัวและวิตกกังวลเริ่มเพิ่มพูนมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ
จนในเวลานี้ กระทั่งกองทัพของผู้เข้าสู่วิถีมารก็เริ่มที่จะกระสับกระส่ายเล็กๆ น้อยๆกันบ้างแล้ว
ผู้นำคว้าคอเสื้อผู้ฝึกยุทธ์ เร่งเอ่ยถาม “เจ้ามั่นใจใช่ไหมว่านี่คือทัณฑ์สายลม?”
“มั่นใจสิ พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ของฟ้าดินเช่นนี้ ตัวท่านเองก็คงจะรู้สึกเหมือนกันมิใช่หรือ?” ผู้ฝึกยุทธ์กล่าว
“ข้ารู้สึกถึงอำนาจกฎแห่งฟ้าดินก็จริง แต่เจ้าไม่เห็นหรือ! ว่าจำนวนผีปีศาจเหล่านี้มันโผล่ออกมามากเกินไป!” ผู้นำตวาด
“เป็นเช่นนั้นจริงๆ ข้าเองก็ยังไม่เคยเห็นทัณฑ์สายลมที่ส่งแรงกดดันยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย” ผู้ฝึกยุทธ์เองกล่าวด้วยความสงสัย
“ดูนั่นเร็ว! พวกเขากำลังจะเริ่มโจมตีเจ้าหมอนั่นแล้ว!” ผู้เข้าสู่วิถีมารอีกคนอุทานขึ้นมา
“โอ้? อย่างงั้นหรือ?”
ผู้นำเร่งหันกลับไปดู
เห็นแค่เพียงภายในค่ายสัตว์ประหลาดผี สี่กษัตริย์ปีศาจและสามราชาภูตกำลังล้อมหน้าล้อมหนังกู่ฉิงซาน
พวกเขาทยอยกันหยิบอาวุธประจำกายขึ้นมา และเพ่งเล็งมาทางกู่ฉิงซาน
ชัดเจนแล้ว ว่าการต่อสู้กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
ปรากฏว่าเหตุการณ์น่าฉงนนี้เป็นทัณฑ์สายลมของเจ้าหมอนั่นคนเดียวจริงๆ!
ผู้นำมองไปที่ฉากนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะปาดเหงื่อบนหน้าผาก และรู้สึกโล่งใจในเวลาเดียวกัน
เขาสั่งเสียงดัง “ส่งคำสั่งของข้าออกไป ภูตผีปีศาจเหล่านั้นกำลังจะสังหารเขา ขอให้ทุกคนวางใจ แต่ก็อย่าไปลงมือใดๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้นทัณฑ์สายลม”
คำสั่งถูกส่งผ่านไป ผู้เข้าสู่วิถีมารต่างพยักหน้าตอบรับ และคิดในใจว่า ‘นี่สิคือสิ่งที่สมควรจะเป็น’
อีกด้านหนึ่ง
แม่มารกำลังกุมกริชสีทมิฬที่แลดูประณีตอยู่ในมือ และชี้ปลายแหลมของมันไปทางกู่ฉิงซาน
เธอกล่าว “ตามกฎเกณฑ์ของทัณฑ์สวรรค์แล้ว พวกเราจะต้องสังหารเจ้า”
“ดังนั้นแล้ว…?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม
“ดังนั้น พวกเราซึ่งเป็นผู้รับตำแหน่งผู้ลงทัณฑ์จักต้องโจมตีใส่เจ้าอย่างน้อยหนึ่งครั้ง เพื่อให้ทัณฑ์สวรรค์คิดว่าพวกเราปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และกระทำในสิ่งที่ตนสมควรทำ” แม่มารอธิบาย
“ดังนั้น ราชาภูตผีปรภพเอ๋ย เจ้าช่วยยกดาบของเจ้าขึ้นมาหน่อยสิ” ราชาภูตผีกระหายเลือดกล่าว
กู่ฉิงซานคว้าดาบพิภพขึ้นมา ตั้งขนานมันไว้เบื้องหน้า อยู่ในท่วงท่าป้องกัน
“ในเมื่อทุกคนมาแล้ว ก็ลงมือกันทีละคนเถอะ อย่าเพิ่งแย่งกันเลย”
จู่ๆ กษัตริย์อสูรเงาก็กระแอมเบาๆ และเอ่ยปากออกมาอย่างกะทันหัน
มันก้าวฉับๆ ไปตามพื้นน้ำแข็งและสะบัดเบาๆ ลงบนดาบพิภพ
“เสร็จข้าล่ะ”
สิ้นเสียง กษัตริย์อสูรเงาก็หายวับไปจากสายตาของทุกคนทันที
“พวกเจ้าพูดเองนะ ว่าใครคร่าชีวิตได้มากเท่าไหร่ ก็สามารถรับเอาดวงวิญญาณไปได้มากเท่านั้น งั้นข้าขอเปิดก่อนล่ะ!”
เสียงของมันสะท้อนมาจากในจุดที่ไกลออกไป
ในเวลาเดียวกัน ทางฝั่งตะวันตกของค่ายสัตว์ประหลาดผี ตรงตำแหน่งที่ผู้เข้าสู่วิถีมารยืนอยู่นับไม่ถ้วน –
เงามืดได้ผุดออกมาจากใต้น้ำแข็ง และเริ่มลงมือจู่โจมอย่างไม่มีผู้ใดทันได้ตั้งตัว!
ตำแหน่งของผู้เข้าสู่วิถีมารพลันตกอยู่ในความวุ่นวาย
สำหรับอสูรเงาแล้ว มันเป็นมอนสเตอร์ชั่วร้ายที่เก่งกาจในด้านการหลบซ่อนตัวและลอบสังหาร และในเวลานี้ กองทัพของมันตลอดทั้งอาณาจักรปีศาจก็ได้มาถึงแล้ว!
ฝนเลือดสาดกระเซ็นว่อน ตามด้วยเสียงกรีดร้องน่าสมเพชที่สั่นสะเทือนผืนดินดังขึ้น
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า จงไปนำเอาจิตวิญญาณมา! นำมันมาให้ข้ามากยิ่งกว่านี้” กษัตริย์อสูรเงาหัวเราะร่าอย่างโหดร้าย
“น้อมรับบัญชา!” เสียงนับไม่ถ้วนตอบรับเขา
ขณะเดียวกัน ทหารเงาก็เริ่มผุดออกมาจากพื้นดินอย่างต่อเนื่อง และสับการโจมตีร้ายแรงถึงตายออกไป
และเมื่อผู้เข้าสู่วิถีมารกำลังจะโต้กลับ อสูรเงาก็จะผุดตัว หายเข้าไปซ่อนในเงามืดอีกครั้ง
เพียงพริบตา ผู้เข้าสู่วิถีมารหลายหมื่นคนก็ตกตายลง!
เมื่อเวลาผ่านไป จำนวนที่ตกตายก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เหล่ากษัตริย์ปีศาจและราชาภูตที่มองไปยังฉากนี้ ได้ถอนสายตาของพวกเขากลับมา
“ไอ้เจ้าเล่ห์นั่น ข้าเองก็ต้องรีบบ้างแล้ว!” กษัตริย์ปีศาจเพลิงเขมือบพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
เขาชักกระบี่หนักออกมา และแตะเบาๆ ลงบนดาบพิภพ
เคร้ง!
เสียงเหล็กกระทบกันอย่างนุ่มนวลดังขึ้น
แล้วกษัตริย์ปีศาจเพลิงเขมือบก็หายตัวไปจากสายตาของฝูงชนในทันที
“ในเมื่อเจ้าอสูรเงามันยึดฝั่งตะวันตกไปแล้ว ถ้าเช่นนั้นตัวข้าก็ขอฝั่งตะวันออกไปล่ะ!”
เสียงของมันสะท้อนมาจากในระยะไกล
วินาทีต่อมา
ห่าฝนเพลิงก็พลันร่วงตกลงมาจากฟากฟ้า
พวกมันแลคล้ายกับดาวตกที่พุ่งหลาว พรั่งพรูกันลงไปทางทิศตะวันออกของค่ายสัตว์ประหลาดผี
ท่ามกลางฝนเพลิงบนท้องฟ้า ปีศาจเพลิงเขมือบนับไม่ถ้วนเริ่มปรากฏกาย หยดย้อยลงมาจากม่านเมฆ!
ตนแล้วตนเล่าเหวี่ยงฟาดระเบิดเปลวเพลิงเข้าใส่ผู้เข้าสู่วิถีมาร
ด้วยห่าฝนเพลิงที่กินอาณาเขตขนาดยักษ์ ส่งผลให้ผู้เข้าสู่วิถีมารบริเวณนั้นตกตายลงทั้งๆ ที่ยังมิทันได้ถอยหนีทันที!
แม้จะมีบ้างที่ระเบิดเพลิงของปีศาจเพลิงเขมือบมิโดนตัวผู้เข้าสู่วิถีมาร แต่มันก็ยังตกลงบนพื้นน้ำแข็ง ส่งผลให้พื้นน้ำแข็งสั่นสะเทือน ละลายจนยากจะหยั่งเท้า จนผู้เข้าสู่วิถีมารต่างเสียสมดุลที่จะใช้ป้องกันและโจมตี!
ปีศาจเพลิงเขมือบเริ่มทำการเก็บเกี่ยวชีวิตศัตรูอย่างบ้างคลั่ง!
“อืม…นี่สิถึงจะเรียกกันว่าสงคราม แล้วพวกเราเผ่าอาชูร่าจะน้อยหน้าได้อย่างไร?”
กษัตริย์อาชูร่ากล่าวพร้อมกับสัมผัสปลายหอกลงเบาๆ บนดาบพิภพ
เคร้ง!
สิ้นเสียงเหล็กกระทบ กษัตริย์อาชูร่าก็หายวับไปทันที
“กลุ่มผู้คนที่ยืนอยู่ตรงกันข้ามดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งที่สุด และข้าเองก็เห็นว่าผู้นำของพวกมันอยู่ในทิศทางนั้นเช่นกัน ดังนั้นพวกเราอาชูร่าจึงขอเป็นผู้ยึดตำแหน่งบุกโจมตีทิศทางที่ว่าก็แล้วกัน!”
เสียงของเขาดังมาจากสถานที่ห่างไกล
ขณะที่เบื้องบนท้องฟ้า เสียงแตรเขาสัตว์กังวานกึกก้อง
พร้อมกับรอยแยกมิติขนาดใหญ่ที่เปิดออก
นำหน้าด้วยช้างเผือกที่ผุดออกมาก่อนเป็นตัวแรก ตามต่อด้วยม้าศึกที่ทหารอาชูร่ากำลังขี่อยู่ไล่ตามออกมาติดๆ
ท่ามกลางเสียงแตรแห่งสงคราม พวกเขาวิ่งทะยานจากบนท้องฟ้า พุ่งปะทะเข้าห้ำหั่นกับศัตรูบนพื้นดินโดยตรง!
กษัตริย์อาชูร่ายืนอยู่บนช้างเผือก หอกในมือชี้ปลายแหลมไปยังทิศทางของผู้นำผู้เข้าสู่วิถีมาร
“มาเถิด จงออกมาต่อสู้กับข้า และข้าจะมอบเกียรติยศที่เรียกกันว่าความตายให้แก่เจ้า!”
กษัตริย์อาชูร่าคำรามก้อง
ผู้นำผู้เข้าสู่วิถีมารถูกบังคับให้ชักอาวุธออกมา ปากอ้าตะโกนด้วยความโกรธ “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว บิดาไม่ใช่ผู้ที่กำลังข้ามผ่านโทษทัณฑ์!!!”
ทว่าคำแก้ตัวของเขาก็ถูกกลบด้วยเสียงแตรสงครามอย่างรวดเร็ว
เบื้องหลังกษัตริย์อาชูร่า กองทัพอาชูร่าทั้งหมดโถมบุกเข้าใส่ตำแหน่งของผู้เข้าสู่วิถีมาร!
นี่เพียงเพิ่งจะเริ่มต้น แต่สงครามก็พุ่งขึ้นสู่จุดเดือดเสียแล้ว!
ภายในค่ายสัตว์ประหลาดผี สามราชาภูตเริ่มร้อนรน
“แย่แล้ว! แบบนี้แย่แน่ๆ! พริบตาเดียวพวกเขาก็ช่วงชิงจิตวิญญาณไปมากโข พวกเราต้องรีบกันบ้างแล้ว!” ราชาภูตผีโหยสบถด้วยความกระวนกระวาย
สามราชาภูตมองกันและกัน ก่อนจะพยักหน้า
พวกเขาชักอาวุธออกมา และแตะลงบนดาบยาวของกู่ฉิงซานเบาๆ
เคร้ง!
หลังจากที่สามเสียงคมเหล็กปะทะกังวาน ร่างของทั้งสามก็สั่นไหว และหายวับไป
ในเวลาเดียวกัน
ภายในท้องฟ้า ภูตผีที่ซ่อนตัวอยู่ในสายลม เหมือนจะรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง
กองทัพภูตผีอันไร้ที่สิ้นสุดเริ่มแผดเสียง และกรีดร้องสะท้านสะเทือนโลกหล้า
ผีโหย ผีกระหายเลือด และผีศพโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า
โดยที่พวกมันไม่คิดสนใจเกี่ยวกับการแบ่งกำลังไว้ในทิศทางต่างๆ เลย ทั้งหมดโผล่ตรงไหน ก็ลงตรงนั้น กระโจนเข้าไปป่วนทั้งกองทัพของกษัตริย์ปีศาจเพลิงเขมือบและกษัตริย์อสูรเงาจนสับสนวุ่นวายไปหมด
เมื่อพวกมันเข้ามาร่วมวง สมดุลสงครามก็พลิกตลบทันที ทางฝั่งผีเพลิงเขมือบ ผู้เข้าสู่วิถีมารตกตายกันจนสิ้น!
“อ้าวเฮ้ย! ไอ้กองทัพผีพวกนี้ เหตุใดพวกเจ้าจึงไม่ปฏิบัติตามกฎ!” ผีเพลิงเขมือบสบถด้วยความไม่พอใจ
ไม่ใกล้ไม่ไกลจากมัน ราชาภูตผีโหยสวนกลับดังลั่น “เจ้าถูกกษัตริย์อสูรเงาหลอกเอาเสียแล้วล่ะ กฎเดียวที่มีของพวกเราก็คือใครฆ่าได้มากเท่าไหร่ ก็ได้รับผลประโยชน์ไปมากเท่านั้นต่างหาก!”
กษัตริย์ปีศาจเพลิงเขมือบชะงักไป ก่อนที่มันจะตบศีรษะตัวเองดังเพียะ แล้วอ้าปากตะโกนสั่ง “ปีศาจเพลิงเขมือบทั้งหมด จงเคลื่อนทัพตามข้าไปสังหารตรงจุดนั้น!”
มันชี้ไปยังทิศทางของอสูรเงา
ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีผู้เข้าสู่วิถีมารอยู่มากที่สุด
กองทัพปีศาจเพลิงเขมือบสาดเปลวไฟกระพือว่อน เริ่มเคลื่อนทัพไปทันที
อีกด้านหนึ่ง ภายในค่ายสัตว์ประหลาดผี
เป้ง!
ดาบยาวของกู่ฉิงซานถูกกระทบจนเกิดเสียงดังฟังชัดอีกครั้ง
แม่มารดึกดำบรรพ์ชักกริชกลับคืน ปากเอ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มหวาน “เอาล่ะ พวกเราแต่ละตนก็ได้ทำการโจมตีเจ้าตนละหนึ่งครั้งแล้ว เพียงเท่านี้ก็นับได้ว่าภารกิจที่ทัณฑ์สวรรค์มอบให้เสร็จสมบูรณ์ ข้าเองก็จะได้ไปสนุกกับอาหารอันโอชะเสียที”
“เชิญท่านตามสบาย” กู่ฉิงซานกล่าว
แม่มารแปรเปลี่ยนเป็นควันสีดำ และหายไปอย่างไร้ร่องรอย
เบื้องบนท้องฟ้า หมู่มวลบุปผาสีดำเริ่มผุดออกมามากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ
บุปผาดำเหล่านี้ลอยล่องอยู่อากาศ ปกคลุมไปตลอดทั้งผืนฟ้า
ผู้ฝึกยุทธ์ที่เข้าสู่วิถีมารเงยหน้าขึ้นมองทันใด
“ไม่! นี่มันเป็นไม่ได้ เหตุใดจึงมีมารสวรรค์มากมายขนาดนี้!” เขาอุทานเสียงหลง
ใช่แล้วล่ะ ตลอดทั้งผืนฟ้า บัดนี้เต็มไปด้วยดอกไม้สีทมิฬ
ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามารสวรรค์กำลังจะปรากฏกาย
หมู่มวลบุปผาเริ่มบานสะพรั่ง
พร้อมด้วยหญิงงามทรงเสน่ห์ ชวนให้หลงใหลผุดลุกขึ้นจากดอกไม้
พวกเธอก้มลงมองไปยังสงครามที่แสนดุเดือดเบื้องล่าง และสัมผัสได้ถึงการต่อสู้อันโหดร้าย
ดวงตาของพวกเธอก็เปล่งประกายสว่างวาบขึ้นทันใด ปากอ้าหัวเราะคิกคัก ฟังคล้ายกันกับเสียงกระดิ่งเงิน
“ช่างเป็นฉากที่งดงาม ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง”
“ชีวิตและความตายสับสนวุ่นวายไปหมด ฉากเช่นนี้ช่างเหมาะสมกับพวกเราเหล่ามารสวรรค์เสียจริงๆ”
“ใช่ นี่เป็นฉากที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพวกเราแล้วที่จะลิ้มชิมรสมื้ออาหาร”
“พอเจ้าพูด ข้าก็ชักจะเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาซะแล้วสิ…”
อย่างรวดเร็ว
หมู่มวลบุปผาทมิฬทั้งหมดก็หายวับไป
ไร้ซึ่งร่องรอยใดๆ ของมารสวรรค์หญิง
อย่างไรก็ตาม ในบางตำแหน่งของสนามรบ กลับบังเกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้น
ผู้เข้าสู่วิถีมารบางคนจู่ๆ ก็ร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้น
ผู้เข้าสู่วิถีมารบางคนยืนนิ่งอยู่ในจุดเดิม แต่บนใบหน้าของเขากลับปรากฏถึงรอยยิ้มที่ดูคลุมเครือผุดขึ้นมา
ผู้เข้าสู่วิถีมารบางคนทิ้งอาวุธในมือ และคุกเข่าลงร่ำร้องกับพื้น
ผู้เข้าสู่วิถีมารบางคนจู่ๆ ก็วาดอาวุธกลับหลัง โจมตีพวกเดียวกันที่อยู่ข้างกายตนเอง
ทุกประเภทของความผิดปกติ และวิปลาส ปรากฏขึ้นในแต่ละตำแหน่งของสนามรบ
ภายในค่ายสัตว์ประหลาดผี
ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงจุดนี้ ที่กู่ฉิงซานทำก็มีแค่เพียงถือดาบพิภพ นิ่งงันเป็นไม้ตายซากอยู่ในจุดเดิม
สายลมกระหน่ำซัด ทัณฑ์สายลมได้มาถึงแล้ว
เดิมที นี่คือทัณฑ์สวรรค์ที่อันตรายเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ที่ฝึกฝนมานานปี จนกระทั่งได้พบเผชิญกับภูตผีและปีศาจเป็นครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม เวลานี้กู่ฉิงซานกลับรู้สึกเบื่อหน่ายเหลือเกิน เพราะรอบตัวเขา ไม่มีแม้กระทั่งเห็นผีสักตัวกล้าเข้ามาก่อกวน
ปีศาจและภูตผีทั้งหมดที่เกิดออกมาจากทัณฑ์สายลม บัดนี้ต่างพุ่งทะยานเข้าต่อสู้กันอย่างดุเดือดในตำแหน่งของผู้เข้าสู่วิถีมาร
กู่ฉิงซานยกดาบพิภพขึ้น วางมันลง ยกดาบพิภพขึ้นอีกที และวางมันลงอีกรอบ
“อืม…น่าเบื่อจริงๆ เลย กลับกลายเป็นว่าความรู้สึกในการข้ามผ่านโทษทัณฑ์มันเป็นแบบนี้นี่เอง”
กู่ฉิงซานพึมพำเบาๆ
เขาปลดปล่อยจิตสัมผัสเทวะออกไป และพบว่าผู้เข้าสู่วิถีมารตลอดทุกทิศทางต่างกำลังตกตายขณะต่อสู้อย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าในช่วงเวลาพิเศษนี้ เหล่าผู้เข้าสู่วิถีมารจะไม่สามารถใช้ระบบของราชามารได้ก็ตามที แต่ต้องไม่ลืมนะว่าจำนวนของพวกเขาน่ะมีมากกว่าสองร้อยล้านคน! มันมากพอที่จะล้างบางโลกทั้งใบได้เลย!
อย่างไรก็ตาม ศัตรูของพวกเขา แท้จริงแล้วมาจากสี่โลกปีศาจ และสามโลกราชาภูต และยังมาเป็นกองทัพ!
ช่างน่าละอายจริงๆ ภูตผีปีศาจเหล่านี้ไม่เพียงทรงอำนาจ แต่พวกมันยังเป็นฝ่ายลอบเปิดการโจมตีก่อนอีกด้วย!
เจ็ดกองทัพภูตผีปีศาจ ได้ทำการแบ่งปันสองร้อยผู้เข้าสู่วิถีมารกัน และก็มีบางครั้งที่ฉกชิงกันเอง
กู่ฉิงซานส่ายหัว และเรียกคืนจิตสัมผัสเทวะของเขากลับมา
เขายกไม้เท้าแห่งการจองจำขึ้น และแตะมันลงบนดาบพิภพเบาๆ
เคร้ง!
บังเกิดเสียงอันคมชัดขึ้น
ในฐานะราชาภูตผีปรภพ กู่ฉิงซานจำเป็นที่จะต้องโจมตีตัวเองหนึ่งครั้ง
“โอเค แค่นี้ภารกิจของฉันก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว”
เขาวางไม้เท้าแห่งการจองจำลง
และหลังจากที่เฝ้าดูสงครามในครั้งนี้อย่างเงียบๆ อีกสักพัก กู่ฉิงซานก็เก็บดาบพิภพกลับคืนสู่ความว่างเปล่า
…………………………………………………..