Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ - ตอนที่ 699 เหรียญประหลาด
- Home
- Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์
- ตอนที่ 699 เหรียญประหลาด
ภายในวิหารแห่งความตาย
เหรียญโบราณกำลังถูกเล่น พลิกกลับไปกลับมาบนห้านิ้วมือ
แต่ละนิ้วพลิกสลับเหรียญไปมาอย่างคล่องแคล่ว และสุดท้ายก็ดีดมันเด้งออกไปเบื้องหน้า
ติ๊ง
เหรียญโบราณเด้งไปยังใจกลางโต๊ะกลมขนาดใหญ่ ทว่าเมื่อตกกระทบ มันก็ยังคงหมุนวนอยู่อย่างนั้น มิได้คว่ำลงมาแต่อย่างใด
ภายในโถงของตัววิหาร บรรยากาศชวนน่าอึดอัด ทุกคนแทบจะไม่กล้าหายใจ
เหรียญยังคงหมุนอย่างต่อเนื่อง ดึงดูดความสนใจของทุกผู้คน
เป็นเวลานานกว่า เสียงที่น่าเกรงขามก็ดังขึ้น
“นี่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดของทางคริสตจักรเรา แต่พอเส้นทางสู่การเป็นทวยเทพถือกำเนิดขึ้น มันเลยถูกลืมเลือนไปชั่วคราว”
เสียงได้หยุดลง
แต่ยังคงไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไร
สักพัก ชายในชุดคลุมดำก็ก้าวออกมา คุกเข่าข้างหนึ่งลงข้างๆ โต๊ะกลม
“ขออภัยจริงๆ ท่านพระสันตะปาปา เป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของข้าเอง ฉะนั้นได้โปรดท่านลงโทษในความผิดบาปครั้งนี้ด้วย” เกรย์แฮนด์กล่าว
ซึ่งเกรย์แฮนด์ คือหนึ่งในแปดบิชอปของคริสตจักรแห่งความตาย
เขาย่อกายคุกเข่า น้อมรับความผิดพลาด
บรรยากาศภายในห้องโถงจึงค่อยคลายลง
ด้วยความกังวลเล็กน้อย พระสันตะปาปาเอ่ยปาก “เกรย์แฮนด์ ข้าได้ยินมาว่าลูกศิษย์ของเจ้าเองก็ตกตายลงใช่หรือไม่ จงอย่าได้โศกเศร้าไปเลย”
“เขาไม่อาจทำหน้าที่ของตัวเองได้ ฉะนั้นความตายจึงนับว่าเหมาะสมแล้ว” เกรย์แฮนด์ตอบ
“แล้วเจ้าตั้งใจจะทำอะไรต่อไป?” พระสันตะปาปาถาม
“ข้าจะออกไปตามล่าคนที่ทำลายแผนการอันยิ่งใหญ่ของพวกเราด้วยตัวเอง และช่วงชิง ‘ไพ่’ กลับมา”
“ไปด้วยตัวเองอย่างนั้นหรือ? ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของเจ้ายังไม่ถูกจุดประกายเลยไม่ใช่หรือไง?” พระสันตะปาปาย้อน
“นั่นก็จริง แต่มันไม่มีทางเลือก” เกรย์แฮนด์ถอนหายใจ
ผู้คนโดยรอบอดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบกัน
หากเกรย์แฮนด์ออกไปลงมือด้วยตนเองในตอนนี้ นั่นหมายความว่าเขาจะต้องล้มเลิกการจุดประกายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์กลางคัน
นี่เท่ากับเป็นการละทิ้งเส้นทางสู่การเป็นเทพ นับว่าเป็นบทลงโทษตนเองที่ร้ายแรงที่สุด
แต่ใครจะสามารถตำหนิเรื่องนี้ได้?
ในความเป็นจริง หากมิใช่เพราะเกรย์แฮนด์มีจุดประสงค์ที่จะจุดประกายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เขาก็คงจะไม่จากโลกทะเลทรายมา
หากมิใช่เพราะต้องการล่วงรู้วิธีสู่การเป็นเทพ เกรย์แฮนด์ก็ยังคงอยู่ในโลกใบนั้น และปกป้อง ‘ไพ่’ ใบสำคัญต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ พบว่าทุกเทคนิคมนตราทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับ ‘ไพ่’ ใบนั้นได้ถูกทำลายลงแล้ว
นั่นหมายความว่าการที่ทางคริสตจักรพยายามทุ่มเทอย่างหนักเป็นเวลากว่าหลายพันปี พริบตาเดียวพลันกลายเปล่าประโยชน์!
นี่นับว่าเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ และเป็นบทลงโทษที่เกรย์แฮนด์จะต้องได้รับ
พระสันตะปาปาพอได้ฟังก็เงียบไปสักพัก สุดท้ายถอนหายใจออกมา
ถึงเรื่องนี้จะร้ายแรง แต่เขาก็กำลังพอใจกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ในช่วงเวลาที่เส้นทางแห่งทวยเทพปรากฏขึ้นมา
แล้วอีกอย่าง ความสามารถของเกรย์แฮนด์มิใช่เลวร้าย แถมยังเป็นที่ยอมรับกันในวงกว้าง
ดังนั้นถ้าจะตัดสินโทษขั้นเด็ดขาดกับเขา มันคงได้ไม่คุ้มเสีย
แถมตอนนี้ เกรย์แฮนด์ก็กำลังแสดงท่าทีสำนึกเสียใจและจงรักภักดีของเขาในฐานะบิชอปที่ทรงพลัง
เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาก็เอ่ยเบาๆ “เอาเถอะ ข้าจะใช้คำทำนายของพระผู้เป็นเจ้าก็แล้วกัน”
ทันทีที่คำเมื่อครู่หลุดออก ทุกคนในสถานที่ปัจจุบันก็เร่งคุกเข่าข้างหนึ่งลงอย่างรวดเร็ว
พระสันตะปาปา หยิบกล่องโลหะสีดำออกมาอย่างระมัดระวัง
เขาเปิดฝากล่องออก
วูบ!
เสียงที่บาดลึกถูกปลดปล่อยออกมาจากในกล่อง แต่ทั้งหมดก็เงียบลงไปทันที
ท่ามกลางม่านยามค่ำคืนอันมืดมิด คำทำนายของเทพแห่งความตายที่ถูกเก็บเอาไว้มานานปี ก็ดังขึ้นในจิตใจของทุกผู้คนที่อยู่ภายในโถงโดยตรง
ม่านอันมืดมิดหยุดลง และหายไปอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของทุกคนแสดงออกถึงความกระจ่างชัด
“เป็นอย่างไร ชัดเจนแล้วหรือไม่?” พระสันตะปาปาถาม
“เป็นที่ชัดเจน” บิชอปคนหนึ่งกล่าว “เมื่อเส้นทางสู่ทวยเทพปรากฏขึ้น ผู้ศรัทธาทุกคนไม่ว่าจะลำดับชั้นใดก็ล้วนได้รับคำสั่งให้ทำตามเป้าหมายเดียวกัน และจะต้องห้ามละเมิด หรือเปลี่ยนแปลงใดๆ”
พระสันตะปาปามองเกรย์แฮนด์และยิ้ม “การก้าวสู่เส้นทางแห่งทวยเทพเป็นสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้ากำหนดเอาไว้แล้ว ฉะนั้นเกรย์แฮนด์ จงอย่าคิดละทิ้งจากมันไป เจ้าจะต้องเฝ้ารอจนกว่าจะสามารถจุดประกายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของตนขึ้น”
ทันใดนั้น เกรย์แฮนด์พลันก้มหัวโค้งกาย แสดงออกถึงความสำนึกคุณ
ก็ถ้าเขาเลือกได้ ใครมันจะไปอยากละทิ้งโอกาสที่ตนจะสามารถก้าวขึ้นไปเป็นเทพวิญญาณกัน?
ทันใดนั้นเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “พระสันตะปาปา ข้าขอคัดค้าน”
ฝูงชนหันไปมองเขาเป็นสายตาเดียว และพบว่าต้นเสียงคือบิชอปธรรมดาคนหนึ่ง
เขากล่าวอย่างขุ่นเคืองว่า “ทางคริสตจักรได้ทุ่มเทเวลาเตรียมการตั้งนานหลายปี จนในที่สุดก็สามารถคว้าโอกาสเดียวในชีวิต ในช่วงเวลาที่เธออ่อนแอที่สุด ที่จะสามารถจับตัวเธอได้ แต่สุดท้ายแผนดันพังทลายลง แบบนี้ไม่ใช่ว่าเกรย์แฮนด์สมควรถูกลงโทษหรอกหรือ?”
พระสันตะปาปากล่าวด้วยความกรุณา “เหตุผลที่เกรย์แฮนด์ออกจากโลกแห่งทะเลทราย นั่นก็เพื่อตอบสนองต่อคำเรียกร้องของพระผู้เป็นเจ้า กลับมายังที่นี่เพื่อจุดประกายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์”
“ส่วนเรื่องของไพ่ใบนั้น ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางคริสตจักรเรา”
“เมื่อเทียบเปรียบกับการที่เกรย์แฮนด์สามารถก้าวขึ้นสู่เส้นทางแห่งทวยเทพ แบบนั้นย่อมดีกว่า”
“บางทีพระผู้เป็นเจ้าอาจจะคิดว่า พวกเราไม่สมควรที่จะแสวงหาความลับ ดังนั้นจึงได้ดลใจส่งเกรย์แฮนด์กลับมาหาพวกเราก็ได้”
บิชอปธรรมดาขบริมฝีปากตนเอง สีหน้าของเขาเผยถึงความไม่ยินยอม “แต่ทั้งหมดมันเป็นเพราะเกรย์แฮนด์”
พระสันตะปาปาขัดจังหวะเขา “เส้นทางสู่การเป็นเทพคือประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า เจ้าคิดว่าความคิดเห็นของเจ้ามีค่ามากกว่าความคิดอ่านของทวยเทพหรือไม่?”
ในช่วงท้ายๆ น้ำเสียงของพระสันตะปาปาฟังแลดูเย็นชาลง
บิชอปตกใจ เร่งกล่าวด้วยความหวาดกลัว “มิกล้า มิกล้า”
พระสันตะปาปาหันไปมองรอบๆ
ปรากฏว่าไม่มีใครโต้แย้งใดๆ อีกๆ
นี่เป็นคำทำนาย ที่ท่านเทพได้ทิ้งเอาไว้เป็นการส่วนตน
ทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวข้องกับจุดประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ใครเล่าจะกล้าคัดค้าน!
เมื่อถึงจุดนี้ เกรย์แฮนด์ก็ค่อยๆ ยืนขึ้น กล่าวขอบคุณอย่างสุดซี้ง
พระสันตะปาปา “ไม่เป็นไรหรอก เพราะคำพูดของพระผู้เป็นเจ้าถือว่าเป็นที่สุด ไม่อนุญาตให้ดูหมิ่นได้”
ในช่วงเวลานี้ บรรยากาศในห้องโถงก็ค่อยๆ คลายลง
ใช่แล้วล่ะ เทพวิญญาณน่ะได้จัดเตรียมคำทำนายทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแล้ว
ฉะนั้น ท่านจะไม่สามารถสังเกตเห็นถึงทิศทางของคริสตจักรได้อย่างไร?
บางที เทพวิญญาณอาจจะไม่ต้องการให้พวกเขาตรวจสอบความลับของ ‘ไพ่’ ใบนั้นก็ได้
ในหัวใจของทุกคนขบคิดอย่างเงียบๆ
พวกเขาอดไม่ได้ที่จะหันไปมองลงตรงใจกลางโต๊ะกลมอีกครั้ง
เหรียญเก่าแก่บนโต๊ะ ค่อยๆ หมุนช้าลง
และหากคุณมีสายตาที่ดีมากพอ คุณจะสามารถมองเห็นถึงภาพที่แสดงอยู่บนเหรียญทั้งสองด้านได้
ด้านหนึ่งเป็นภาพของวัยรุ่นสาวที่กำลังหลับใหลอยู่
โดยรอบตัวของวัยรุ่นสาว มันสลับซับซ้อนไปด้วยเครื่องหมายที่แลดูลึกลับ
เครื่องหมายอันลึกลับเหล่านี้ คอยรายล้อมและปกป้องวัยรุ่นสาวที่อยู่ในกลางของเหรียญ
อีกด้านหนึ่งของเหรียญ คือกระแสมิติอันโกลาหลอันไร้ที่สิ้นสุด หากเฝ้ามองมันไปนานๆ คุณจักรู้สึกว่าภายในหัวใจสั่นสะท้าน
ใช่แล้วล่ะ นี่คือหนึ่งในเหรียญที่ถูกจัดอันดับจากเลขนับหนึ่งพันหนึ่ง มันคือเหรียญที่แข็งแกร่งเป็นอันดับที่สาม!
เหรียญหมายเลขเก้าร้อยเก้าสิบเก้า วัยรุ่นสาวที่กำลังหลับใหล
หากในแง่ของความลึกลับ เหรียญเลขเก้าร้อยเก้าสิบเก้านี้ นี้นับว่าเป็นเหรียญที่ลึกลับที่สุดจากทั้งหมดหนึ่งพันหนึ่งเหรียญ
หากเหรียญนี้ปรากฏขึ้นในโลก ย่อมไม่มีใครสามารถล่วงรู้ถึงชื่อที่แท้จริงของเหรียญได้
เพราะเหรียญทั้งสามอันดับแรก ต่างล้วนมีด้วยกันทั้งสิ้นอย่างละเหรียญเดียว
และเนื่องจากเหรียญนี้ไม่มีแม้แต่ข้อมูลพื้นฐานใดๆ ปรากฏมาก่อน
มันจึงเป็นหนึ่งในสามเหรียญที่ลึกลับที่สุดในดินแดนชิงอำนาจ
เหรียญนี้ไม่ได้เป็นตัวแทนของความมั่งคั่ง
แต่มันคือตัวแทนของความลึกลับที่มีค่ามหาศาลยิ่งกว่าเงินตราจะสามารถนับคำนวณได้
หากกู่ฉิงซานอยู่ที่นี่ เขาคงจะประหลาดใจไม่น้อย เพราะรูปของวัยรุ่นสาวที่ปรากฏขึ้นบนเหรียญ มันแทบจะไม่แตกต่างจากวัยรุ่นสาวที่เขาเพิ่งให้การช่วยเหลือไปเลย
น่าเสียดาย ที่เขาคงไม่อาจล่วงรู้ถึงเรื่องนี้ไปอีกนาน
ภายในห้องโถงใหญ่ เสียงของพระสันตะปาปาดังขึ้นอีกครั้ง
“เอาล่ะ เรื่องนี้ถูกตัดสินแล้ว เกรย์แฮนด์จะอยู่ที่นี่ คอยจุดประกายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง คนอื่นๆก็เช่นกัน จนกว่าจะสามารถจุดประกายได้ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปไหน”
“ขณะเดียวกัน พวกเราก็จะตั้งรางวัลนำจับสูงค่า ปล่อยออกไปทั่วทั้งดินแดนชิงอำนาจ เพื่อจับตัวคนคนนั้น”
“ผู้ศรัทธาทุกคนจะได้มุ่งมั่นในหนทางสู่การเป็นเทพ นี่คือเป้าหมายสูงสุด เรื่องอื่นสมควรโยนทิ้งเอาไว้เบื้องหลังก่อน!”
“เรื่องต่อไป”
“แอนนากำลังจะกลับมาแล้ว”
“เส้นทางสู่การเป็นเทพถูกเปิดออกโดยเธอกับซูเค่อเอ๋อจากวิหารแห่งโชคชะตา นี่นับว่าเป็นพรจากทวยเทพ และเกียรติยศสูงสุด”
…
ภายในโลกทะเลทราย
ท่ามกลางเนินทรายที่ถูกล้อมไปด้วยค่ายกลปกปิด
กู่ฉิงซานกำลังจีบออกด้วยวิชาลับ
ทันใดนั้นเม็ดทรายก็ถูกกวาดออกไปด้านข้าง ผลึกคริสทัลน้ำแข็งปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาและวัยรุ่นสาวในชุดขาว
ภายในผลึกน้ำแข็ง หญิงงามที่เปรอะไปด้วยเลือด สภาวะตกอยู่ในอาการโคม่า สลบไสลอยู่
ตัวตนทรงอำนาจระดับจ้าววงการ หยุนจี
“นี่น่ะหรือคนที่นายต้องการให้ฉันช่วย?” วัยรุ่นสาวในชุดขาวเอ่ยถาม
“ใช่ ช่วยดูให้หน่อยนะ” กูาฉิงซานกล่าว
วัยรุ่นสาวก้าวออกมาข้างหน้า นั่งคุกเข่าลงตรงข้ามผลึกน้ำแข็ง
“อำนาจเทวะผลึกน้ำแข็ง…ช่างเป็นความทรงจำที่ชวนให้คิดถึงจริงๆ”
วัยรุ่นสาวลูบไล้ผิวผลึก ท่าทีของเธอเต็มไปด้วยห้วงอารมณ์
กู่ฉิงซานยกคิ้วขึ้น ปากเอ่ยถาม “นี่เธอรู้ด้วยหรือว่าเจ้าสิ่งนี้คืออะไร? แล้วเธอรู้หรือเปล่าว่าใครเป็นคนใช้เทคนิคนี้?”
วัยรุ่นสาวส่ายหัว “อำนาจเทวะนี้มีมานานนมแล้ว มีเทพวิญญาณมากมายที่สามารถเปิดใช้งานมันได้ ฉะนั้นฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นฝีมือของใคร”
“แต่จากนี้ไป จะเข้าสู่ขั้นตอนการรักษาเธอ ตอนนี้นายอย่าเพิ่งพูดมาก”
“โอเค” กู่ฉิงซานรับคำ
เห็นแค่เพียงวัยรุ่นสาวจั่วไพ่หลายใบออกมาจากในความว่างเปล่า
เธอนำไพ่แตะลงบนผิวน้ำแข็ง ไพ่แล้วไพ่เล่า แตะเสร็จก็หยิบขึ้นมันมา ทำซ้ำไปเรื่อยๆ
ภายใต้ผลึกน้ำแข็ง สีหน้าของหยุนจีค่อยๆ ดีขึ้น บาดแผลตามร่างกายเธอเริ่มถูกฟื้นฟู
กู่ฉิงซานเมื่อได้เห็นก็รู้สึกสุขใจยิ่ง
แต่แล้วเมื่อเก็บไพ่ทั้งหมดกลับคืน วัยรุ่นสาวก็ผุดลุกและกล่าว “ไม่ดีแน่ ฉันไม่สามารถช่วยเหลือเธอได้”
กู่ฉิงซานตะลึงกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
เขาให้กำลังใจวัยรุ่นสาว “แต่คนในผลึกเหมือนจะถูกรักษาดีขึ้นแล้วนะ อย่าท้อแท้สิ ช่วยลองมันอีกครั้ง”
วัยรุ่นสาวส่ายหัว “หากเป็นฉันเพียงลำพัง ย่อมไม่สามารถช่วยเหลือได้”
ว่าแล้วเธอก็หยิบหนังสือ และดึงไพ่ออกมา
วัยรุ่นสาวหันมามองกู่ฉิงซาน และถอนหายใจ “ในเมื่อนายช่วยฉันไว้ ฉะนั้นฉันจะยอมปลดภูมิปัญญาของตัวเองก็แล้วกัน”
ไพ่เหล่านั้นพลันสาดแสง และค่อยๆ ผลุบหายเข้าไปในร่างกายของวัยรุ่นสาว
วัยรุ่นสาวยืนนิ่งงัน
ทว่าห้วงอารมณ์ของเธอกลับแปรเปลี่ยนไป
การแสดงออกของเธอดูเคร่งขรึมจริงจัง ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และสง่างาม
วัยรุ่นสาวไม่ได้พูดมากความ เธอวางมือลงบนผลึกน้ำแข็ง
“เทคนิคแห่งเทพวิญญาณเอ๋ย จงเปิดเผยถึงความลับของเจ้า” เธอเปล่งเสียงกระซิบ
ขณะเดียวกันกับการเคลื่อนไหวของวัยรุ่นสาว ผลึกคริสทัลก็เริ่มสั่นคลอนอย่างรุนแรง
กู่ฉิงซานเฝ้ามองด้วยความวิตกกังวล
หากผลึกน้ำแข็งพังทลายลง หยุนจีก็จะต้องตาย
อย่างไรก็ตาม การที่วัยรุ่นสาวสามารถสั่นคลอนผลึกน้ำแข็งได้ นี่ย่อมหมายความว่าเธอสามารถค้นพบวิธีการบางอย่างแล้ว
ถึงตอนนี้ กู่ฉิงซานจะยังไม่รู้ว่าการนำเด็กสาวคนนี้มาช่วยรักษา ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือเปล่าก็เถอะ
ในระหว่างนั้น วัยรุ่นสาวก็ชักมือกลับ และยืนขึ้นอีกครั้ง
เธอปาดเหงื่อบนหน้าผาก หันมาพูดกับกู่ฉิงซาน “สถานการณ์มันค่อนข้างซับซ้อน นายจะต้องเชื่อฟังคำสั่งจากนี้ไปของฉัน”
กู่ฉิงซานพยักหน้า
ฉันเกรงว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ถูกช่วยเหลือเอาไว้โดยท่านหญิงแบล็กซี คนอื่นที่เหลือคงถูกสังหาร และกลืนกินวิญญาณโดนสัตว์ประหลาดนั่นหมดแล้ว
วัยรุ่นสาว “อำนาจเทวะผลึกน้ำแข็งทั้งสามร้อยแปดสิบเอ็ดชิ้นก่อตัวกันเป็นวัฏจักร มันสร้างเครื่องมือดูดซับพลังงานขึ้นมา การทำงานของมันใกล้เคียงกับค่ายกลของผู้ฝึกยุทธ์แบบนาย”
“เครื่องมือที่คล้ายกันกับค่ายกลนี้ สามารถดูดซับพลังงานทั้งหมดจากในมิติของดินแดนชิงอำนาจ เพื่อเติมพลังงานให้กับตัวเองได้”
“ในกรณีนี้ ส่งผลให้ผลึกน้ำแข็งสามารถคงอยู่ได้เป็นระยะเวลานาน คนที่อยู่ภายในมันจึงยังสามารถรักษาพลังชีวิตเฮือกสุดท้ายเอาไว้ได้ ไม่ตกตายลง”
“แต่ปัญหาก็คือ ยามที่ผลึกน้ำแข็งถูกยกเลิก นายจะต้องช่วยรักษาทั้งสามร้อยแปดสิบเอ็ดคนได้พร้อมกัน ทั้งหมดจึงจะสามารถรอดชีวิตมาได้”
กู่ฉิงซานงง “ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ทำไมไม่สามารถช่วยทีละคนได้?”
วัยรุ่นสาวจ้องมองผลึกน้ำแข็ง สีหน้าของเธอแสดงออกถึงความชื่นชม
“ในความเป็นจริง อำนาจเทวะนี้สามารถตั้งค่าให้ช่วยเหลือทีละคนก็ได้ แต่อีกฝ่ายหนึ่งจงใจตั้งค่าให้ต้องช่วยเหลือพร้อมๆ กันเท่านั้น ซึ่งนี่มันมีความหมายที่ลึกซึ้งมากทีเดียว”
“ความหมายลึกซึ้งที่ว่าคืออะไร?”
“ก็คือ หากนายไม่มีความแข็งแกร่งชนิดเหนือจินตนาการ จนสามารถช่วยเหลือทุกคนได้ในครั้งเดียว ถ้าแบบนั้นก็อย่าสอดเข้ามาช่วยจะดีกว่าอย่างไรล่ะ ฉันคิดว่านี่คือสิ่งที่ผู้ใช้เทคนิคนี้อยากจะสื่อ” วัยรุ่นสาวกล่าว
“แล้วเธอสรุปแบบนั้นไปได้อย่างไร? นี่มันไม่มีเหตุผลเลยนะ” กู่ฉิงซานสวน
“ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลนะ เห็นผู้หญิงตรงหน้าไหม เพราะอาการบาดเจ็บของเธอเกิดจากสิ่งแปลกประหลาด เกิดจากสิ่งที่เทพวิญญาณหวาดกลัวเป็นที่สุด ทุกสิ่งมีชีวิตล้วนหวาดกลัวมันเช่นกัน ดังนั้นหากนายคิดจะช่วยเหลือพวกเขา ก็ต้องครอบครองพลังที่มากพอจะสามารถต่อกรกับมันได้!”
…………………………………………….