Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ - ตอนที่ 821 ร้อยแสงสาดส่อง
- Home
- Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์
- ตอนที่ 821 ร้อยแสงสาดส่อง
กู่ฉิงซานลอยขึ้นไปตามสายลม
ภูเขาน้ำแข็งตั้งอยู่สุดขอบเมืองอันไกลลิบ
เมื่อเทียบความเร็วการเหาะแล้ว มารทรงพลังตนอื่นที่ว่าเร็วกว่า
มารทมิฬที่ปกคลุมด้วยเปลวเพลิงสีเทาวูบไหวในอากาศหลายครั้ง ผ่านกู่ฉิงซานไปก่อนจะถึงท้องนภาเหนือภูเขาน้ำแข็งแทบจะในทันที
“หลบไป”
เขาคำราม
พวกมารที่กำลังโจมตีหยุดมือตนแล้วตนเล่าก่อนถอยออกมา
พวกมันสังเกตเห็นเช่นกันว่าการโจมตีนั้นทำให้งูทะเลยักษ์เต็มไปด้วยโลหิต งูทะเลยักษ์ไม่ตอบสนอง ทั่วร่างไม่ขยับไปไหน
ดูเหมือนการโจมตีเหล่านั้นจะไม่เป็นผลอะไรเลย
พวกมารหยุดมือ บาดแผลทั้งหมดของงูทะเลยักษ์เริ่มสมานตัวอย่างรวดเร็ว
มารทมิฬมองงูทะเลอายุสามสิบล้านปีที่อยู่ด้านล่าง
เปลวเพลิงสีเทาไม่มีสิ้นสุดทะยานออกมาจากตัวเขาก่อนค่อยๆ กลืนกินเข้าไปทั้งตัว
เขาพุ่งขึ้นสูงสู่ท้องนภาขณะถือกลุ่มเปลวเพลิงสีเทาที่ปกคลุมท้องนภาเอาไว้ในมือข้างหนึ่งก่อนพลันโยนลงมา
เปลวเพลิงสีเทากระแทกใส่งูทะเลราวกับดาวตก
เมื่อสัมผัสได้ถึงอันตรายที่อยู่ในเปลวเพลิงนี้ งูทะเลพลันโผล่ขึ้นมาจากท้องทะเล อ้าปากขนาดใหญ่แล้วกัดเปลวเพลิงสีเทาที่ตกลงมาจากท้องนภา
เบื้องหน้าฉากอันน่าตกตะลึงนี้ มารตนอื่นทำได้แค่ถอยออกมาด้วยความอับอาย
ไม่มีใครอยากได้รับผลจากการต่อสู้ครั้งนี้
ผู้ตัดสินที่ถือกิโยติน จ้าวแห่งความเงียบและกู่ฉิงซานล้วนหยุดอยู่กลางอากาศขณะมองการโจมตีอันเฉียบขาดนี้
ผู้ตัดสินถอนหายใจออกมา “ทันทีที่มาถึงก็ใช้เปลวเพลิงสีเทากลืนกินชีวิตทันที ดูท่าเรื่องราวคงจะจบแล้วล่ะ”
เมื่อรู้ว่าจ้าวแห่งความเงียบและราชาวิญญาณมารกำลังมองอยู่ เขาอธิบายว่า “มารทมิฬคือผู้ใช้เปลวเพลิงสีเทากลืนกินชีวิตได้ดีที่สุด เวลาเผชิญกับบางสิ่งที่ข้องเกี่ยวกับชีวิต เขาจะกลืนกินพลังชีวิตของอีกฝ่ายเพื่อรักษาการเผาไหม้ของตัวเองเอาไว้จนกว่าอีกฝ่ายจะตายจนไม่มีพลังชีวิตให้กลืนกินอีก เมื่อนั้นเปลวเพลิงสีเทาจึงจะดับลง”
หัวใจของกู่ฉิงซานสั่นสะท้าน
นี่เป็นทักษะที่เป็นปัญหาเอาเรื่อง ด้วยทักษะนี้ เกรงว่าไม่ใช่เรื่องยากนักที่จะจัดการศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าตัวเอง
ระบบลี้ลับเป็นเช่นนี้เสมอ ด้วยการหลอมรวมโดยบังเอิญของแหล่งกำเนิดโลกอันไร้ที่สิ้นสุดกับพลังวิญญาณ พลังวิเศษที่คาดไม่ถึงจะถือกำเนิดขึ้นมา
สำหรับการต่อสู้ ความสามารถจากระบบลี้ลับไม่ต้องใช้เหตุผลใดๆ เลย
ตอนนี้ เปลวเพลิงสีเทาไม่มีสิ้นสุดปะทะเข้ากับงูทะเลยักษ์
ซู่
เปลวเพลิงสีเทาร้อนแรงพลันปรากฏขึ้นบนร่างของงูทะเลยักษ์
เปลวเพลิงร้อนแรงโหมกระหน่ำจนถึงท้องนภา
งูทะเลยักษ์แผดเสียงกรีดร้องน่าสะพรึงออกมา
มันบิดตัวดิ้นรนไปมาท่ามกลางเปลวเพลิงราวกับกำลังหักห้ามความเจ็บปวดอันมหาศาล
สูงขึ้นไปบนท้องนภา มารทมิฬค่อยๆ เผยรอยยิ้มออกมา
อีกฝ่ายไม่ได้ซ่อนตัว
ช่างโง่เขลานัก
ขอแค่ถูกเปลวเพลิงแยกชีวิตเข้าไป สัตว์ประหลาดตัวนี้ก็มีแต่ต้องถูกเผาจนตัวตาย
มารทมิฬมองงูทะเลยักษ์ดิ้นไปมาจนถึงแก่ความตายในที่สุด เมื่อนั้นมารทมิฬจึงลงไป
มีคนกล่าวว่ามีสมบัติอยู่ในสัตว์ประหลาดทะเลที่มีชีวิตมาหลายพันปีเสมอ แต่ไม่รู้ว่าสัตว์ประหลาดทะเลตัวนี้จะมีอะไร
ตัวนี้เขาเป็นคนสังหารเอง จึงไม่มีใครสามารถเข้ามาแย่งได้
สมบัติต้องเป็นของนายท่าน หากนายท่านอนุมัติจึงจะเป็นของเขา
ดีมาก ต้องแบบนั้นแหละ
นี่คือความคิดสุดท้ายของมารทมิฬ
ท่ามกลางเสียงอุทานจำนวนมาก เปลวเพลิงสีเทาที่เข้มยิ่งกว่าพลันพวยพุ่งจากงูทะเลยักษ์ก่อนกระแทกใส่มารทมิฬโดยตรง เพียงอึดใจเดียวก็ถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
ในเวลาเดียวกัน งูทะเลยักษ์พลันเริงร่าขึ้นมาจนกลับมามีกำลังวังชาอีกครั้ง
เปลวเพลิงสีเทาหายไปสิ้น
บาดแผลทั้งหมดก็หายไป
ดูเหมือนมันจะกลับสู่ยุครุ่งเรืองอีกครั้ง
พวกมารต่างตกตะลึง
นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น
พวกมันเห็นร่องรอยความโหดเหี้ยมและความเหยียดหยันในดวงตาของงูทะเลยักษ์
มันส่งกระแสจิตไปทุกทิศทาง
“เผาชีวิตข้าอย่างนั้นหรือ เจ้าโง่ ข้ายังมีชีวิตเหลืออีกหลายร้อยล้านปีเลยนะ”
จากนั้นพวกมารจึงตอบสนอง
ใช่แล้ว นี่คือสัตว์ประหลาดทะเลโบราณ!
มันมีอายุขัยยืนยาวนัก
เปลวเพลิงแยกชีวิตจะเผาไหม้จนกว่าจะตาย ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกกี่ปีจึงจะเผาจนหมดสิ้น
แต่ทำไมเปลวเพลิงแยกชีวิตบนงูทะเลยักษ์ตัวนี้ถึงได้หายไปล่ะ
ทำไมมารทมิฬถึงถูกสังหารด้วยทักษะของตัวเองล่ะ
พวกมารต่างสับสน
ผู้ตัดสินคำรามออกมา “บัดซบ! ไม่อยากจะเชื่อ ทำไมมารทมิฬถึงถูกฆ่าด้วยเปลวเพลิงของตัวเองล่ะ!”
เขาหยิบกิโยตินที่อยู่ด้านหลังออกมา
กู่ฉิงซานเห็นแววตาของอีกฝ่ายก่อนเกลี้ยกล่อม “รอเดี๋ยวก่อน ดูเหมือนมันจะมีทักษะสะท้อนกลับพิเศษ อย่าโจมตีบุ่มบ่าม”
ผู้ตัดสินพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชา “ข้าก็สัมผัสได้เช่นกันว่าผิวหนังของมันอาจจะสะท้อนทุกการโจมตีได้ แต่มันเปล่าประโยชน์เมื่อเจอกับข้า”
เขาโยนกิโยตินออกไป
“สังเวย เก้าชีพช่วงชิงวิญญาณ!”
ผู้ตัดสินตะโกน
ฉับพลันนั้นเอง มารเก้าตนที่อยู่บนท้องนภาส่งเสียงคร่ำครวญ
พวกมันระเบิดเป็นโลหิตจำนวนมากก่อนกลับเข้าสู่กิโยตินตนแล้วตนเล่า
“มารพวกนี้เป็นลูกน้องของข้า ทีนี้ข้าสังเวยพวกมันเพื่อจะแก้แค้นให้กับมารทมิฬ ท่านลอร์ดทั้งสอง โปรดอย่าก้าวก่าย” ผู้ตัดสินกล่าว
หลังจากนั้น ไม่ว่าจ้าวแห่งความเงียบและราชาวิญญาณมารจะตอบสนองอย่างไร เขาก็ลงมือใช้งานทักษะลี้ลับแล้ว
กิโยตินได้รับโลหิตเก้าก้อนก่อนพองตัวเป็นโครงกระดูกสีโลหิต มันเหาะเข้าไปหางูทะเลยักษ์ด้วยความเร็วที่สูงยิ่ง
“วิชาวิญญาณ…” กู่ฉิงซานพึมพำ
เขารู้สึกถึงผลกระทบต่อวิญญาณจากวิชาลี้ลับนี้
เมื่องูทะเลยักษ์เห็นโครงกระดูกสีโลหิตนี้ ดวงตาเหยียดหยันพลันแข็งกร้าวมากขึ้น
มันอ้าปากแล้วดูดเข้าไป จากนั้นก็อาเจียนออกมา
โครงกระดูกโลหิตพลันหายไป
ไม่ช้า หัวกะโหลกปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
คราวนี้ หัวกะโหลกปรากฏขึ้นตรงหน้าผู้ตัดสิน
มันจมเข้าสู่ร่างของผู้ตัดสินทันที
เพียงอึดใจเดียว
ภูตผีพุ่งออกจากร่างของผู้ตัดสินก่อนทะยานสูงขึ้นสู่ท้องนภา
นั่นคือวิญญาณของผู้ตัดสิน!
โครงกระดูกโลหิตขยับเข้าใกล้ขณะคว้าวิญญาณของผู้ตัดสินเอาไว้แล้วกอดเอาไว้แน่น
“อย่า!”
วิญญาณของผู้ตัดสินกรีดร้องด้วยความสิ้นหวัง
โครงกระดูกโลหิตกลายเป็นกิโยตินก่อนฟาดฟันใส่อากาศ!
วิญญาณของผู้ตัดสินถูกฟันเป็นสองส่วนก่อนหายไปในท้องนภา
ร่างของเขาจมดิ่งสู่ท้องทะเล มีเพียงละอองเล็กๆ ปรากฏขึ้น จากนั้นจึงไม่เห็นอะไรอีก
ทั่วทั้งท้องนภา พวกมารทั้งหมดที่ออกไปสู้ถูกสังหารโดยงูทะเลยักษ์
มีเพียงจ้าวแห่งความเงียบและราชาวิญญาณมารที่ยังรอดอยู่เพราะไม่ได้ลงมือ
“วิชาวิญญาณก็สามารถส่งผลสะท้อนกลับได้ เจ้าจะทำยังไงล่ะ” กู่ฉิงซานถามเสียงต่ำ
จ้าวแห่งความเงียบรู้เช่นกันว่าสถานการณ์อันตรายยิ่งนัก นางจึงส่งกระแสจิตมาหากู่ฉิงซาน “ข้ามีวิชาลี้ลับมากมาย แต่ไม่กล้าโจมตีใส่น่ะ”
“เจ้าสามารถวางกับดักได้หรือไม่” กู่ฉิงซานถาม
ด้านหลังของเขา ดาบบินเจ็ดร้อยเล่มปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า
เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายดาบอันเย็นเยือกบนร่างกายของกู่ฉิงซาน ดวงตาของจ้าวแห่งความเงียบทอประกาย
ใช่แล้ว เพราะงูทะเลยักษ์ตัวนี้สะท้อนกลับวิชาลี้ลับทั้งหมด คงดีกว่าที่จะสังหารมันในครั้งเดียว!
“ถ้าการควบคุม…ข้าพอจะมีอยู่” จ้าวแห่งความเงียบกล่าว
“เอาเลย เจ้าขัดขวางและควบคุมมันจากด้านหลัง” กู่ฉิงซานกล่าว
“ได้” จ้าวแห่งความเงียบกล่าวอย่างยินดี
ค่ายกลดาบของกู่ฉิงซานขยับ
ดาบบินทุกเล่มเคลื่อนผ่านความว่างเปล่า ฟาดฟันใส่งูทะเลยักษ์ด้วยประกายดาบอันคมปลาบ
ตอนนี้ งูทะเลยักษ์มองมาที่พวกเขาทั้งสองแล้ว
มันเห็นดาบบินปกคลุมทั่วท้องนภา แววตาเกิดความคาดหวังเล็กน้อย
นี่คือการโจมตีกายภาพที่พื้นฐานและเรียบง่ายที่สุด
คาดไม่ถึง ในทะเลแห่งนี้ที่เต็มไปด้วยพลังลี้ลับ ยังมีมารที่ใช้วิธีโจมตีแสนเรียบง่ายแบบนี้
งูทะเลยักษ์เงยหน้าขึ้น
ฉับพลันนั้นเอง ดาบบินพุ่งเข้าหางูทะเลยักษ์!
ดาบบินทุกเล่มฟาดฟันใส่งูทะเลยักษ์ก่อนหายไปทันที
ดาบบินเหล่านี้พลันปรากฏตรงหน้ากู่ฉิงซานก่อนฟาดฟันใส่
กู่ฉิงซานยืนนิ่ง
ดาบบินทุกเล่มรีบหยุดขณะส่งเสียงฮัมในอากาศอย่างเกรี้ยวกราด
ดาบบินมีชีวิตและจะไม่มีวันฆ่าเจ้านาย
“พลังทวีคูณ แม้กระทั่งการโจมตีกายภาพก็สามารถสะท้อนได้…ดูท่านี่คือความสามารถลี้ลับที่สะท้อนกลับทวีคูณล่ะนะ”
กู่ฉิงซานถอนหายใจเล็กน้อย เขาเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว
ความสามารถนี้ทรงพลังเกินไป
ไม่สงสัยเลยว่าอีกฝ่ายถึงสามารถมีชีวิตมาได้นานกว่าสามสิบล้านปี
จ้าวแห่งความเงียบกำลังร่ายวิชา นางลังเลเมื่อเห็นฉากนี้
“ไม่เป็นไร เจ้าทำต่อเถอะ ข้าจะหาทางเอง” กู่ฉิงซานกล่าว
เขาเหาะเข้าไปหางูทะเลยักษ์
งูทะเลยักษ์มองเขาอย่างคาดไม่ถึง
กล้าเข้ามาหาแบบนี้เลยหรือ
ลูกตาของมันกลอกไปมาขณะถอยห่างเล็กน้อย หลังจากนั้นร่างกายของงูขดงอราวกับเตรียมพร้อมจะพุ่งออกมา
หัวใจของกู่ฉิงซานดิ่งวูบ
งูทะเลยักษ์ตัวนี้ไม่เพียงแค่ทรงพลังเท่านั้น แต่ยังฉลาดและระแวดระวังอีกด้วย
เขากุมดาบเสียงคลื่นเอาไว้
เมื่อเขากำลังจะลงมือ ถุงเก็บของพลันขยับ
จี้น้ำเต้าหยกพุ่งออกมาอีกครั้ง
มันยังคงบินรอบกู่ฉิงซานพร้อมกับส่งเสียง ‘ฟิ่ว’ ไปมา
การเคลื่อนไหวของกู่ฉิงซานชะงัก
ต้องขอบคุณความสามารถวิญญาณที่ได้รับมาจากโลกของเทพ เขาจึงสามารถสื่อสารด้วยวิญญาณได้
ไม่เพียงแค่คุยกับดาบเสียงคลื่นได้เท่านั้น แต่ยังคุยกับจี้น้ำเต้าหยกได้อีกด้วย แถมเขายังเข้าใจความหมายที่อีกฝายสื่อมา
จี้หยกนี้เพิ่งตื่นขึ้นมา ตอนนี้มันกำลังต้องการพลังวิญญาณ…
“อย่าสร้างปัญหา ตอนนี้ข้ากำลังสู้อยู่” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างจนใจ
จี้น้ำเต้าหยกหันไปรอบๆ จนพบงูทะเลยักษ์
‘ฟิ่ว…’
จี้น้ำเต้าหยกส่งเสียงอีกครั้ง
“โจมตีหรือ เจ้าจะให้ข้าใช้การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดเพื่อเล่นงานมันอย่างนั้นหรือ” กู่ฉิงซานถามด้วยความประหลาดใจ
‘ฟิ่ว! ฟิ่ว!’
จี้น้ำเต้าหยกกล่าว
กู่ฉิงซานลังเลแล้วกล่าวว่า “ไม่เป็นไรแน่หรือ”
เขาไม่มีเวลาจะมาสื่อสารกับจี้น้ำเต้าหยกแล้ว
งูทะเลยักษ์ที่อยู่อีกฝั่งเห็นเขานิ่ง มันจึงเป็นฝ่ายลงมือก่อน
งูทะเลยักษ์พุ่งเข้าใส่ทันที!
กู่ฉิงซานไม่มีเวลามาคิดอะไรอีกแล้ว
เขาอัญเชิญดาบบินทั้งหมดแล้วถ่ายพลังวิญญาณจำนวนมากเข้าไปทันที
ดาบเจ็ดร้อยเล่ม
วิชาดาบลับ โหมกระหน่ำอย่างหนัก!
ดาบบินทั้งหมดใช้วิชาดาบลับ “โหมกระหน่ำอย่างหนัก” พร้อมกัน ท้องนภาปกคลุมด้วยประกายดาบนับไม่ถ้วนทันที
นี่คือคลื่นวิชาดาบในยุคก่อนประวัติศาสตร์!
งูทะเลยักษ์พุ่งเข้าใส่คลื่นดังกล่าว ขัดขืนประกายดาบก่อนเคลื่อนเข้าหากู่ฉิงซาน
ฉับพลันนั้นเอง มันพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ
มีความเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเกิดขึ้นกับร่างกายเป็นจำนวนมาก
งูทะเลยักษ์พลันเข้าใจ
นี่หมายความว่าวิชาวิเศษลี้ลับของมันล้มเหลว!!
ไม่ ไม่ใช่ล้มเหลว แต่ถูกชดเชยด้วยวิชาลี้ลับที่มีระดับและธาตุแบบเดียวกัน
ตอนนี้ มันมีแต่ต้องฝืนทนคลื่นดาบอันเกรี้ยวกราดนี้!
งูทะเลยักษ์อยากหันหลังกลับ
แต่ตอนนี้ มันไม่สามารถขยับได้เลย!
เมื่อเห็นการทุ่มสุดกำลังของกู่ฉิงซาน จ้าวแห่งความเงียบใช้วิชาพันธนาการที่แข็งแกร่งที่สุดทันที
ช่างเป็นการจับคู่ที่สมบูรณ์แบบ!
ท้องนภาและปฐพีเต็มไปด้วยประกายดาบ งูทะเลยักษ์ไม่สามารถหลบหนีได้!
ประดายดาบเจิดจ้ากระหน่ำใส่ร่างกายของมัน ร่างกายขนาดใหญ่เปรียบเสมือนสำลีในสายลมที่ถูกพัดและฟันจนเละก่อนจะหายไปในที่สุด
คลื่นดาบที่ปกคลุมท้องนภาค่อยๆ หายไป
งูทะเลยักษ์ไม่เหลือแม้แต่กระดูก
กู่ฉิงซานอยู่กลางอากาศ
เขาไม่ยินดีที่ตัดศีรษะอีกฝ่ายได้
เพราะตอนนี้ จี้น้ำเต้าหยกกำลังบินรอบตัวเขาราวกับเชื้อเชิญบางอย่างขณะส่งเสียง “ฟิ่ว” “ฟิ่ว” เพื่อบอกว่ามันพยายามมากแค่ไหน
ใช่แล้ว มันคือเทวภัณฑ์จากยุคโบราณ
ตอนมันเริ่มพูด ในที่สุดกู่ฉิงซานก็ได้ทราบความสามารถของมัน
ข้อความแจ้งเตือนต่อเนื่องปรากฏบนหน้าต่างต้นเพลิง
“จี้หยก: ให้ความเคารพท่านด้วยการบอกความลับ”
“ท่านได้เรียนรู้หนึ่งในวิชาวิเศษ”
“ร้อยแสงสาดส่อง: เป็นการช่วงชิงความสามารถของศัตรูชั่วคราว หลังจากใช้ความสามารถนี้หนึ่งครั้ง เพื่อปกปิดเอาไว้ ความสามารถนี้จะหายไปจากท่านทันที”
“คำอธิบาย: หนึ่งแสงกระจายออกเป็นร้อยแสง”
กู่ฉิงซานมองข้อความแจ้งเตือนเหล่านี้ด้วยความสับสนและอดที่จะกล่าวไม่ได้ว่า “ร้อยแสงสาดส่องอะไรกัน นี่ก็แค่ช่วงชิงสกิลของผู้อื่นมาก็เท่านั้น…”
จี้น้ำเต้าหยกไม่ยินดีที่ได้ยินเช่นนั้น
มันยังคงส่งเสียง “ฟิ่ว” “ฟิ่ว” ราวกับกำลังยืนกรานอธิบายอะไรบางอย่าง
กู่ฉิงซานฟังอยู่สักพักก่อนจะเข้าใจในที่สุด
“ถ้าในมุมของผู้ฝึกยุทธ มันก็เรียกว่าการช่วงชิงนั่นแหละ”
นี่คือความหมายที่จี้น้ำเต้าหยกต้องการจะสื่อ
ในเวลาเดียวกัน ขณะที่มันส่งเสียง ข้อความทั้งหมดบนหน้าต่างต้นเพลิงขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ !
นี่คือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
เขาเห็นแถวข้อความโลหิตชุดใหม่ปรากฏขึ้นมา
“ร้อยแสงสาดส่อง…ช่วงชิงความสามารถจากศัตรูไปชั่วคราว หลังจากใช้ความสามารถนี้หนึ่งครั้ง ความสามารถนี้จะหายไปจากตัวท่าน”
“คำอธิบาย…หนึ่งแสงกระจายออกเป็นร้อยแสง”
“หมายเหตุพิเศษ…ท่านมีการเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยม ข้าจะช่วยทำการสนับสนุนท่านต่อไป”