Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ - ตอนที่ 951 ใครกินไก่
ตกกลางคืน
ประตูของเมืองศักดิ์สิทธิ์เปิดดังครืน
อัศวินสวมเกราะโอ่อ่านั่งบนม้าศึกเกราะหนัก ในมือถืออาวุธก่อนก้าวออกจากประตูอย่างเป็นระเบียบ
ผู้ติดตามของกลุ่มจอมเวทนั่งในรถม้าตรงกลางและได้รับการปกป้องโดยกลุ่มอัศวิน
เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ม้าเหล็กของเมืองศักดิ์สิทธิ์มารวมตัวกันอีกครั้ง
ภายใต้คำสั่งของทวยเทพ พวกเขาจะต้องเดินทางไปจักรวรรดิทางใต้เพื่อจัดการกับทุกสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นที่นั่น
ฉากนี้ทำเอาทั้งโลกตกตะลึง
กองกำลังทั้งหมดสอบถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่คริสตจักรไม่มีเวลาอธิบายให้พวกเขาฟัง พวกเขาพูดได้แค่ว่า…
ทวยเทพต้องการให้กองทัพศักดิ์สิทธิ์ไปถึงจักรวรรดิทางใต้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้!
สมเด็จพระสันตะปาปานำพระคาร์ดินัลและยอดฝีมือจากสำนักวาติกันมากกว่าหนึ่งร้อยคนไปเป็นแนวหน้า
พวกเขาใช้ทรัพยากรราคาแพงแล้วส่งตรงไปจักรวรรดิทางใต้ ไปยังนอกเมืองไกลลิบนั่น
กษัตริย์ของจักรวรรดิทางใต้ปิดเมืองไกลลิบตามความต้องการของทวยเทพ
ทุกสิ่งยังคงเหมือนเดิม เขารอให้คนจากคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์มาตรวจสอบ
พ่อค้าเหล่านั้นที่เพิ่งออกมาจากเมืองถูกควบคุม
รวมถึงเด็กที่หลบหนีออกมาจากภัยพิบัติได้เพราะเลี้ยงแกะอยู่บนเขาก็ถูกกักตัวด้วยเช่นกัน
“นายท่าน ท่านเห็นปัญหาที่ข้าทำหรือ”
กษัตริย์ถาม
สีหน้าของเขาวิตกเล็กน้อย
ในฐานะกษัตริย์ เขาเป็นคนที่ฉลาดและมากความสามารถจริงๆ หลังจากครุ่นคิดแล้ว เขาก็สามารถเดาบางสิ่งได้อย่างง่ายดาย
…นี่เป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษที่ทวยเทพมาเยือนโลกใบนี้
อีกอย่าง ตอนคริสตจักรก่อตั้งหน่วยข่าวกรองขึ้นมา มีคนพูดถึงเช่นกัน
พวกเขากล่าวว่าทวยเทพสั่งให้ก่อตั้งหน่วยข่าวกรองรอบโลกเพื่อตรวจจับสัญญาณการทำลายล้างโลก
แหล่งกำเนิดของการทำลายล้างอยู่ที่นี่หรือ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ราชาของจักรวรรดิทางใต้รู้สึกไม่สบายใจมาก
สมเด็จพระสันตะปาปามองกษัตริย์ทางใต้อย่างสงบแล้วตอบว่า “เจ้าทำหน้าที่ได้ดีมาก ข้าไม่คิดว่าจะมีใครทำได้ดีไปกว่านี้แม้ว่าตัวข้าเองจะเป็นคนดูแลก็ตาม”
กษัตริย์ทางใต้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขากำลังจะพูด แต่ถูกสมเด็จพระสันตะปาปายกมือขึ้นห้ามเอาไว้
สมเด็จพระสันตะปาปาคล้ายกับกำลังฟังบางอย่างอยู่
ผ่านไปสักพัก สมเด็จพระสันตะปาปาเผยสีหน้าแปลกประหลาดออกมา
“กษัตริย์เอ๋ย โปรดส่งผู้รอดชีวิตเหล่านั้นมาให้อารักขาพวกข้าด้วย” สมเด็จพระสันตะปาปากล่าว
“ไม่มีปัญหา” กษัตริย์ทางใต้กล่าวอย่างมีความสุข
สมเด็จพระสันตะปาปาพยักหน้าให้พระคาร์ดินัลทั้งสองที่อยู่ด้านหลังก่อนสั่งให้ไปรับคนเหล่านั้น
“พวกเจ้าทุกคนต้องจำไว้ว่าให้ระแวดระวังความชั่วร้ายที่ซ่อนอยู่ภายในคนเหล่านี้ พวกเจ้าต้องอย่าให้มีอาวุธอยู่ใกล้ตัว ต้องติดตั้งอาคมขับไล่รอบตัวพวกเขา ห้ามใครเข้าใกล้พวกเขาเด็ดขาด ห้ามให้กินหรือดื่ม ห้ามสนทนาด้วย”
“ขอรับ นายท่าน!”
พระคาร์ดินัลทั้งสองคำนับ
พวกเขาพาทหารม้าสองกลุ่มเข้าไปรับอย่างรวดเร็ว
สมเด็จพระสันตะปาปาสั่งคนที่เหลือว่า “ทุกคน เข้าเมืองแล้วเริ่มค้นหาข้อมูลที่น่าสงสัย ให้ความสนใจกับการรวบรวมกระดูก ตรวจสอบสิ่งต่างๆ ในเมือง อย่าให้พลาดแม้แต่นิดเดียว”
“ขอรับ!”
อาร์คบิชอปแดงและอัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือตอบรับ
การค้นหาดำเนินไปสองวันเต็ม
คนจากคริสตจักรมาถึงคนแล้วคนเล่า
ตามคำขอของคริสตจักร กองกำลังจำนวนมากส่งมือดีทั้งหมดมาค้นหาที่นี่
ต่อหน้าพลังของคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงการร่วมมือของจักรวรรดิทางใต้กับกองกำลังจำนวนมาก ทั่วเมืองถูกค้นหาอย่างละเอียด
เพื่อตรวจสอบผู้คนและกระดูก อัศวินศักดิ์สิทธิ์ นักล่าและนักรบได้ทำการตรวจสอบกระดูกอย่างละเอียด
เพื่อระบุสาเหตุการตายของสัตว์ทุกตัวในเมือง นักบวชถึงขั้นใช้วิชาเวทมนตร์
ไม่มีสิ่งที่น่าสงสัยหลบหนีไปได้
เมื่อกู่ฉิงซานมาถึงนอกเมือง ชิ้นส่วนข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำถูกนำส่งถึงที่
นี่คือพลังที่เขาสั่งสมมาหลายปี…
ผลที่ได้
เขานั่งบนบัลลังก์ขณะตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด
“สัตว์ปีกทั้งหมดตายจากการสังเวยอันชั่วร้าย เหลือเพียงแค่ไก่หนึ่งตัว”
“ไก่ตัวนี้ถูกพบในพื้นที่ไกลลิบ พอไปเจอก็พบว่ามันถูกกินจนเหลือแต่กระดูก มีร่องรอยของมนุษย์แทะกระดูกด้วย”
“จากการตรวจสอบ ตอนที่ทั้งเมืองตายไปแล้ว ไก่ตัวนี้ถูกย่างไปแล้ว”
“ส่วนประชากร มีปัญหากับประชากรของเมืองตอนตรวจสอบซากศพ”
“มีหลายคนหายไปอย่างไม่มีสาเหตุ”
“ในบรรดาคนที่รู้จักพวกเขาในพื้นที่อื่น ไม่มีใครพบเห็นคนที่หายไปเหล่านี้เลย”
“สิ่งเดียวที่มั่นใจได้คือคนเหล่านี้น่าจะอยู่ในเมืองเล็กที่เหตุการณ์เกิดขึ้น”
“กองกำลังทั้งหมดในโลกเคลื่อนไหวแล้ว พวกเขาพยายามสุดความสามารถที่จะตามหาร่องรอยของคนเหล่านี้”
หลังจากได้อ่านแล้ว กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพัก
ในห้อง สมเด็จพระสันตะปาปา กษัตริย์แห่งจักรวรรดิทางใต้และพระคาร์ดินัลล้วนสูดลมหายใจเข้าเบาๆ ด้วยเกรงว่าจะไปขัดความคิดของทวยเทพเข้า
“พวกพ่อค้ากับเด็กอยู่ไหน” กู่ฉิงซานถาม
“ตามที่ท่านสั่ง พวกเขาถูกกักตัวในค่ายชั่วคราว พวกเราส่งทหารหนักไปดูแล ทันทีที่มีความผิดปกติ พวกเราจะพยายามสุดความสามารถในการฆ่า” สมเด็จพระสันตะปาปาตอบ
“พวกเขาได้กินอะไรหรือยัง” กู่ฉิงซานถามต่อ
“ยัง” สมเด็จพระสันตะปาปาตอบ
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “พาผู้รอดชีวิตเหล่านั้นมาที่นี่ ข้าจะดูพวกเขาสักหน่อย”
“ขอรับ”
เพียงไม่นาน
คนเหล่านั้นมาอยู่ตรงหน้ากู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานชำเลืองมอง
พ่อค้าในประเทศต่างๆ ไม่รู้ตัวตนของเขา เมื่อเห็นเขาถูกห้อมล้อมโดยคนอื่น พวกเขารู้ทันทีว่าอีกฝ่ายต้องเป็นบุคคลที่เหลือเชื่อมากแน่ๆ
พวกเขาหมอบลงกับพื้น พูดทำนองร้องขอชีวิตคนแล้วคนเล่า
เด็กหยิ่งทะนงเล็กน้อย จนกระทั่งเขาเห็นพ่อค้าร้องขอชีวิต เขาจึงทำตาม
“ไม่มีปัญหากับตัวตนพวกเขาใช่หรือเปล่า” กู่ฉิงซานถาม
“ขอรับ ข้าทำงานร่วมกับจักรวรรดิทางใต้เพื่อสืบสวน พวกเขาคือพ่อค้าในชนบทอย่างแท้จริง ไม่มีปัญหาเรื่องวันที่เกิด องค์ประกอบครอบครัว การเดินทางหลายปี บันทึกการค้าขาย ภาษีและอื่นๆ” สมเด็จพระสันตะปาปาตอบ
“แล้วเด็กล่ะ”
“ไม่มีปัญหา มาจากชนบทเช่นกัน”
กู่ฉิงซานมองคนเหล่านั้นแล้วพลันถามแปลกๆ ว่า “ทำไมพวกเขาดูหิวโซจังเลย”
สมเด็จพระสันตะปาปาลอบกล่าวในใจว่าเป็นเพราะท่านสั่งเองไม่ใช่หรือ จะมาถามทำเพื่ออะไร…เดี๋ยวนะ ทวยเทพตั้งใจจะทำแบบนี้หรือ
สมเด็จพระสันตะปาปาตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “เพราะคนเหล่านี้ถึงกับรอดจากการสังเวยมาได้ ข้าจึงกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่คาดไม่ถึง เพราะงั้นข้าเลยไม่ให้อาหารกับพวกเขา”
“นี่ก็สองวันมาแล้ว เจ้ายังปล่อยไว้แบบนี้อีกหรือ” กู่ฉิงซานถอนหายใจ
เขากล่าวกับคนด้านข้างว่า “ไป แบ่งมื้อเย็นให้พวกเขากิน”
“ขอรับ”
อัศวินข้างเขาเดินออกไป
ไม่กี่นาทีต่อมา
อัศวินเข้ามาพร้อมหม้อก๋วยเตี๋ยวขนาดใหญ่กับอุปกรณ์การกิน
“กินซะ ข้าจะให้คนพาพวกเจ้ากลับบ้านหลังจากกินเสร็จแล้ว พวกเจ้าทั้งหมดเป็นคนโชคดีที่รอดจากหายนะนี้มาได้”
กู่ฉิงซานกล่าวด้วยน้ำเสียงเห็นอกเห็นใจ
เมื่อคนเหล่านี้ได้ยินเช่นนั้น พวกเขาโล่งอกทันที
พวกเขาไม่ได้กินมาสองวันสองคืน ตอนนี้ พวกเขาได้รับข่าวว่าจะถูกปล่อยตัว เมื่อโล่งใจแล้ว พวกเขาก็อดที่จะตักแบ่งก๋วยเตี๋ยวในหม้อไม่ได้
เด็กมองรอบข้างก่อนพบว่าพ่อค้าทุกคนไปแบ่งก๋วยเตี๋ยวกินกันแล้ว มีเพียงเขาที่ยังยืนบื้ออยู่
ตอนนี้ อัศวินและนักบวชรอบข้างค่อยๆ มองมาที่เขา
เด็กรีบทำตามก่อนแบ่งก๋วยเตี๋ยวใส่ชามมากิน
กลิ่นหอมมาก!
คนปรุงก๋วยเตี๋ยวต้องมีฝีมือทำอาหารดีมากแน่ๆ
เมื่อเด็กกัดเข้าไป ความคิดนี้ก็เกิดขึ้นในใจ
ยังไงเสีย เขาก็เป็นเด็ก แถมหิวมาสองวันสองคืนแล้ว ตอนนี้ เขาอดใจไม่ไหวแล้วก่อนเริ่มกลืนกินมันเข้าไป
เมื่อพวกเขากำลังกินอย่างกระตือรือร้น ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“ตอนชาวเมืองตาย มีใครได้กินไก่หรือเปล่า”
พ่อค้าและเด็กหันศีรษะพร้อมกันก่อนเห็นว่าคนที่ถามคืออัศวินที่อยู่ข้างกู่ฉิงซาน
ทุกคนที่อยู่รอบข้างมองพวกเขาแล้วไม่กล่าวอะไร
พวกเขารู้ตัวว่าจะต้องตอบคำถามนี้
“ข้าไม่ได้กิน”
“ไม่ใช่ข้า”
“ตอนนั้นพวกข้าเพิ่งออกจากเมือง”
“ไม่ได้กิน”
“ข้าอยู่บนเขา”
พวกเขาตอบคนแล้วคนเล่า
ด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเขาพลันพบว่าบรรยากาศในห้องกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง
จิตสังหารแผ่มาจากคนของสำนักวาติกัน
แต่สมาชิกหลักของคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์ก้มศีรษะ เมื่อมองดูพวกเขา มันช่างน่านับถือยิ่งนัก
ตอนนี้ กู่ฉิงซานพูดขึ้นว่า
“ใครกินไก่ตอนชาวเมืองตาย” เขาถาม
นี่นับว่าแปลก
ใครบางคนเพิ่งถามไปหยกๆ แต่ตอนนี้คนใหญ่โตกลับถามคำถามเดิมเสียอย่างนั้น
แต่พวกพ่อค้ากลับไม่กล้าขัดขืน
“ข้าไม่ได้กิน”
“ไม่ใช่ข้า”
“ตอนนั้นพวกข้าเพิ่งออกจากเมือง”
“ไม่ได้กิน”
“ข้าอยู่บนเขา”
พวกเขาตอบเหมือนเดิม
กู่ฉิงซานพยักหน้า
เกิดความเงียบรอบข้าง ทุกคนยังคงเงียบ
ตอนนี้ สีหน้าเด็กดูสับสนก่อนกล่าวว่า
“ข้าเป็นคนกินเอง”
………………………………….