Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ - ตอนที่ 928 การแพร่กระจายของโลกที่ล่มสลาย
- Home
- Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์
- ตอนที่ 928 การแพร่กระจายของโลกที่ล่มสลาย
โลกภูเขาไฟ
ทุกคนตายหมด
ร่างหนึ่งที่ปกคลุมท้องนภาและดวงอาทิตย์เคลื่อนลงมา กลายเป็นผู้ชายที่มีสองเขา
แสงและเงาหลากสีสันห้อมล้อมเขาเอาไว้ก่อนหลบหนี ยอดฝีมือที่กำลังกรีดร้องอยู่นับไม่ถ้วนต่างหลบหนีอย่างรวดเร็วไปทุกทิศทาง
“โห มีวิญญาณมากมายที่รู้วิธีหลบหนีเป็นพิเศษหรือ ช่างหยิ่งทะนงและอวดดีนักที่มาหลบหนีต่อหน้าข้า!”
ดวงตาของมังกรหุบเหวเผยความโหดเหี้ยมอันเย็นเยือกออกมา
เขาอ้าปากออกก่อนสูดหายใจเข้า ดูดแสงและเงาทั้งหมดที่อยู่ระหว่างสวรรค์กับปฐพีเข้าท้อง
โลกกลับสู่ความมืด
‘ตูม!’
ภูเขาไฟเริ่มปะทุ เป็นการบอกว่าโลกใบนี้จะเผยโฉมหน้าที่แท้จริงแล้ว
มังกรมารยืนนิ่ง
ลำแสงสิบสองสายเคลื่อนลงมาจากท้องนภาก่อนคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้ามังกรหุบเหว
หัวหน้าเทพรายงานว่า “นายท่าน ท่านเรียกพวกข้ามาหรือ”
มังกรมารไม่ตอบ
เขาหลับตาลง เผยสีหน้ายินดีออกมา
เผ่าพันธุ์เทพทั้งสิบสองตนไม่กล้าขยับ
ผ่านไปเนิ่นนาน มังกรมารจึงกระซิบอย่างแผ่วเบาว่า “วิญญาณหนึ่งแสนเก้าหมื่นหกพันสามร้อยยี่สิบสี่ดวง ช่างเป็นงานเลี้ยงที่แสนวิเศษนัก”
ทันใดนั้น เสียงของเขากลับเกรี้ยวกราด เสียงคำรามอันดุดันทะยานขึ้นสู่ท้องนภา แม้กระทั่งทั่วปฐพียังสั่นสะเทือน
“กู่ฉิงซาน ทำไมถึงไม่มีเจ้า!”
…
อีกด้านหนึ่ง
โลกชายฝั่ง
โรงแรม
เมื่อได้ยินเสียงของเสี่ยวเมียว กู่ฉิงซานตอบทันทีว่า “ข้าเอง เสี่ยวเมียว ข้าคือกู่ฉิงซาน!”
เขาได้ยินเสียงของเสี่ยวเมียวกำลังคุยกับคนอื่นทางฝั่งนั้น คำว่า “กู่ฉิงซาน” ได้ยินมาอย่างแผ่วเบา
ผ่านไปสักพัก เสียงของเสี่ยวเมียวดังขึ้นอีกครั้ง “ขอบคุณพระเจ้า เป็นเจ้าจริงๆ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
กู่ฉิงซานตอบว่า “ข้าสบายดี ทางเจ้าล่ะ”
เสี่ยวเมียวตอบว่า “หนึ่งปีก่อน โลกของข้าถูกรวมเข้าด้วยกันก่อนหยุดสั่นไหว ในตอนนั้น พวกข้าฟื้นคืนการติดต่อจากโลกภายนอกได้ แต่กลับพบว่าพื้นที่จ้าวโลกได้หายไปแล้ว!”
กู่ฉิงซานถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “จริงสิ นั่นมันวิธีของเผ่าพันธุ์เทพนี่นะ ตอนนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้างล่ะ”
“ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หลายคนได้รับบาดเจ็บ พวกเขาต้องซ่อนอยู่ในโลกที่พวกข้าได้มาจากเจ้าอย่างลับๆ ตอนนี้ความโกลาหลภายนอกยิ่งมาก็ยิ่งรุนแรงขึ้น พวกข้าทำได้เพียงซ่อนตัวอยู่ที่นี่ก่อน” เสี่ยวเมียวตอบ
“หืม มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ” กู่ฉิงซานตื่นตัวขึ้นมา
“พวกข้าตรวจสอบจนพบว่าสัตว์ประหลาดที่ทำลายหอคอยกับสหพันธ์โลกเก้าร้อยล้านชั้นถึงกับมาจากหุบเหวนิรันดร์ มันมีชื่อว่าวิญญาณกรีดร้อง”
“เรื่องมันเป็นอย่างไรกันแน่”
“มันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ พื้นที่ที่ถูกควบคุมโดยบัญญัติราชามารแทบจะถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้ว”
“บัญญัติก็ถูกมันทำลายงั้นหรือ”
“เปล่า ขณะที่บัญญัติเผชิญหน้ากับมัน มันได้ควบคุมพวกมารเพื่อออกล่าผู้คนทุกหนแห่ง”
หลังจากเสี่ยวเมียวพูดเรื่องนี้จบก็กลับมาตั้งสติได้ “อย่าพูดถึงมันเลย ตอนนี้เจ้าอยู่ไหน ข้าจะไปรับ”
“เจ้ามาได้งั้นหรือ” กู่ฉิงซานถามอย่างไม่มั่นใจ “ข้าอยู่ไกลจากที่นั่นมาก น่าจะราวๆ สุดขอบพื้นที่จ้าวโลก ใกล้กับหุบเหวนิรันดร์”
“ทำไมถึงไกลขนาดนั้น!” เสี่ยวเมียวถามเสียงหลง
“มีบางอย่างเกิดขึ้น ข้าก็เลยอยู่ที่นี่น่ะ” กู่ฉิงซานตอบ
“ข้าเกรงว่าจะไม่สามารถผ่านพื้นที่ควบคุมและพื้นที่จ้าวโลกระหว่างพวกเราได้” เสี่ยวเมียวกล่าว
“ไม่มีทางอื่นเลยหรือ?” กู่ฉิงซานถามด้วยความไม่เต็มใจ
“พื้นที่จ้าวโลกยังคงล่องหน ข้าเสียจุดเคลื่อนย้ายพริบตาทั้งหมดในโลกนั้นไป แถมเจ้ายังอยู่อีกฝั่งของพื้นที่จ้าวโลก ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถไปรับได้” เสี่ยวเมียวอธิบายอย่างอดทน
นางนึกบางอย่างขึ้นมาได้อีกก่อนรีบถามว่า “จะว่าไปแล้ว ผ้าไหมว่างเปล่าของสโมสรยังอยู่กับเจ้าไม่ใช่หรือ เจ้าสามารถใช้ผ้าไหมว่างเปล่าส่งกลับสโมสรโดยตรงได้เลยนี่ แบบนั้นข้าก็จะได้กลับไปรับเจ้าที่สโมสรได้”
“เรื่องนั้น ข้าใช้ไปแล้วน่ะ” กู่ฉิงซานถอนหายใจ
ตอนเดินทางไปยุคโบราณ กู่ฉิงซานใช้ผ้าไหมว่างเปล่าเพื่อช่วยให้ตัวเองหลบหนีจาก “คำถามสังหาร” ของเซี่ยเต้าหลิง
ในตอนนั้น วิธีสุดท้ายใช้ไม่ได้ผลจนดูเหมือนจะไม่มีทางได้พบกับแบร์รี่และเสี่ยวเมียวสักพักใหญ่
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ฟังนะ เสี่ยวเมียว สิ่งที่ข้าจะพูดต่อไปสำคัญมาก เจ้าต้องตั้งใจฟัง”
“ได้!”
กู่ฉิงซานพูดเกี่ยวกับมังกรมาร จากนั้นพูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้ในหุบเหวนิรันดร์
“โลกคู่ขนานต่อสู้กับวันสิ้นโลก…” น้ำเสียงผิดหวังของเสี่ยวเมียวดังขึ้น
“ใช่ เจ้าต้องเตรียมตัวล่วงหน้า คงดีกว่าถ้าจะซ่อนตัวก่อน” กู่ฉิงซานกล่าว
ไม่ว่าจะวิญญาณกรีดร้องหรือหุบเหวที่กวาดล้างไปทั่ว มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เสี่ยวเมียวจะสามารถรับมือได้
แน่นอนว่ากู่ฉิงซานไม่สามารถรับมือกับมันได้เช่นกัน
ถึงแม้เขาจะไม่สามารถปลุกเหรียญปฐพีในตอนนี้ได้ ทำได้เพียงซ่อนตัว แต่เขาก็เป็นผู้ปกครองดินแดนเสาศักดิ์สิทธิ์ สักวันเขาจะเติบโต
เสี่ยวเมียวกล่าวว่า “พวกข้าซ่อนอยู่ในโลกประปราย ตอนนี้ยังไม่เป็นไร แต่เจ้าต้องระวังตัวไว้ด้วย”
กู่ฉิงซานเงียบแล้วถามว่า “ถ้าข้าผ่านไปแถวพื้นที่จ้าวโลกจนไปถึงใกล้กับพื้นที่ควบคุม เจ้าสามารถหาตำแหน่งข้าพบได้หรือเปล่า”
“แน่นอนว่าทำได้!” เสี่ยวเมียวตอบอย่างมั่นใจ
ทั้งสองสนทนาสักพัก จากนั้นตัดการเชื่อมต่อชั่วคราว
ตอนกู่ฉิงซานและเสี่ยวเมียวสนทนากันอยู่นั้น หลินยังคงเงียบ จากนั้นจึงกล่าวขึ้นว่า “ดูท่าสหายของเจ้าจะมาไม่ได้นะ”
“ใช่” กู่ฉิงซานถอนหายใจ “กลายเป็นปัญหาเลยล่ะ”
ทันใดนั้น บางสิ่งสั่นไหวในกระเป๋าของเขา
กู่ฉิงซานมองดูจนพบว่าเป็นตรานักฆ่า
เขากดลงไป
เด็กผู้หญิงส่งเสียงร้องไห้ทันที “เย่เฟยหลี นั่นเจ้าหรือเปล่า”
“อา ข้าเอง มีอะไรหรือ” กู่ฉิงซานถามด้วยความประหลาดใจ
“ทุกคนตายหมดแล้ว”
“ว่าอย่างไรนะ!”
“จู่ๆ โลกภูเขาไฟก็พังทลาย ไม่มีใครรอดเลยสักคน”
เด็กผู้หญิงสะอื้นขณะบอกรายละเอียดอีกครั้ง
กู่ฉิงซานทราบว่าไม่เพียงแค่คนจากสมาคมนักฆ่าเท่านั้น แต่กองกำลังอื่นหรือแม้กระทั่งเจ็ดวิหารใหญ่ รวมถึงคนที่ไปโลกภูเขาไฟล้วนหายไปสิ้นด้วยการทำลายล้างของโลกนั้น
เด็กผู้หญิงกล่าวต่อว่า “เย่เฟยหลี ศูนย์บัญชาการสมาคมของพวกเรากำลังเตรียมการจะมาที่นี่โดยไวหลังจากทราบสถานการณ์ แต่ก่อนที่หัวหน้าจะมาถึง วัตถุดิบลับและของมีค่าที่เก็บไว้ในสมาคมของโลกใบนี้จะต้องมีใครบางคนมาคุ้มกัน ศูนย์บัญชาการได้มอบหมายให้ท่านเป็นผู้คุ้มกัน”
“ข้าหรือ ข้าเป็นเพียงนักฆ่าระดับกลางนะ”
“ในโลกนับพันที่อยู่ใกล้ๆ หัวหน้าของกองกำลังอื่นตายเกือบหมดแล้ว ถึงแม้ท่านจะเป็นนักฆ่าระดับกลางเท่านั้น แต่พละกำลังก็นับว่าแข็งแกร่งที่สุด”
เด็กผู้หญิงเน้นเสียงพูดมากขึ้น “นี่คือภารกิจฉุกเฉินพิเศษ โปรดมาด้วย”
“…ได้ รอสักครู่ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” กู่ฉิงซานกล่าว
หลังจากสื่อสารจบ กู่ฉิงซานมองหลิน
“ข้าเดาว่าเป็นกับดัก แต่คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะกินทุกคน นี่มันเกินไปหน่อยแล้ว” กู่ฉิงซานขมวดคิ้ว
หลินกอดอกแล้วกล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “ทำไม เจ้าควรดีใจนะที่มันไม่ใช่วิญญาณกรีดร้องหรือร่างหุบเหวอย่างข้า”
“ถ้าเป็นเจ้าจะทำเช่นไร?” กู่ฉิงซานถาม
หลินตอบว่า “ถ้าวิญญาณกรีดร้องไม่บ้าพอ มันจะกวาดล้างโลกทั้งใบ แต่ถ้าเป็นข้า แค่รับรู้ความคิดจากภายในใจของเจ้าก็พอ ไม่ต้องฆ่าคนให้เสียเวลาก็สามารถตามหาตัวเจ้าเจอได้”
หัวใจของกู่ฉิงซานสั่นสะท้านขณะถามว่า
“ตอนนี้เจ้าฟื้นตัวเท่าไหร่แล้ว”
หลินตอบอย่างสงบว่า “ร่างกายข้ากำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ระดับวิชายุทธ์ก็ค่อยๆ กลับมาเช่นกัน ข้าแค่เสียแหวนสาบานไป ทำให้ไม่สามารถเข้าใจถึงแก่นของมันได้ ส่งผลให้ความสามารถที่นอกเหนือจากวิชายุทธ์หายไปชั่วคราว”
กู่ฉิงซานกำลังจะพูด แต่ทันใดนั้น เขารู้สึกถึงการสั่นไหวในกระเป๋า
เขาหยิบตรานักฆ่าออกมาอีกครั้ง
เสียงแตกตื่นของเด็กผู้หญิงมาจากข้างใน “เย่เฟยหลี ท่านต้องมาสมาคมนักฆ่าได้แล้ว ข้ามีอุปกรณ์หลบหนีพิเศษอยู่ที่นี่ พวกเราต้องออกจากโลกเดี๋ยวนี้”
กู่ฉิงซานรู้สึกถึงความหนักอึ้งในใจก่อนรีบถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”
“โลกภูเขาไฟถูกทำลายแล้ว โลกรอบข้างถูกทำลายอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ดูท่ามันจะใกล้มาถึงพวกเราในไม่ช้า!”
“ได้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” กู่ฉิงซานกล่าว
เขาปิดตรา
หลินลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนยิ้มเจื่อนออกมา “การที่ไล่ล่าเจ้าไม่ได้คงทำให้มันบ้าคลั่งพอตัว”
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างหงุดหงิดว่า “ปล่อยให้มันเป็นฝ่ายไล่ล่าแบบนี้มันน่าหงุดหงิดจริงๆ”
“แน่นอนสิ มังกรหุบเหวควบคุมพื้นที่จ้าวโลกทั้งหมด หากอยากตามหาพวกเรา มันก็มีทรัพยากรและกำลังคนนับไม่ถ้วนให้ใช้ พวกเราทำได้แค่หนี” หลินกล่าว
“จุดจบของหุบเหวกำลังจะปะทุขึ้น ตอนนี้ มันยังคงสร้างปัญหาไม่หยุด ทำให้การฝึกฝนล่าช้าจนส่งผลกับการฟื้นตัวของข้าไปด้วย”
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างหงุดหงิด
“น่าเสียดายที่พวกเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้” หลินเห็นด้วย
กู่ฉิงซานเงียบ
“ข้าทนแบบนี้ต่อไปไม่ได้…” เขาพึมพำ
“เจ้ามีทางหรือไง หรือว่ามีสถานที่ที่หลีกเลี่ยงมันได้” หลินถาม
ตรงข้ามนาง ดวงตาของกู่ฉิงซานค่อยๆ คมปลาบ
“สถานการณ์เลวร้ายสุดๆ …มันไล่ล่าพวกเราอย่างไม่ลดละ ดูท่าพวกเราต้องคุยกับมันแล้วล่ะ”
“คุยกับมันหรือ” หลินสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไปหรือเปล่า
“ใช่ พวกเรามีหลายสิ่งที่ต้องทำมากเกินไป ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องมอบบทเรียนบ้างแล้ว ต้องคุยกันตรงๆ แล้วล่ะ”
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างแผ่วเบา
…………………………………………..