World’s Best Martial Artist - ตอนที่ 103
ตอนที่ 103 ความฝันตัวแทนขายของมือสอง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ณ แผนกโลจิสติกส์ของมหาลัย
แผนกโลจิสติกส์เป็นอาคารสามชั้นใหญ่ อาคารส่วนใหญ่ของโม่อู่มีโครงสร้างเป็นศูนย์บริการแผนกโลจิสติกส์ก็ไม่มีข้อยกเว้น
ชั้นแรกแบ่งออกเป็นสามส่วน มีหน้าต่างห้าบานอยู่มุมนึงของฝั่งซ้าย นั่นคือศูนย์บริการนักศึกษาใหม่
ด้านขวามีทั้งหมดยี่สิบบาน และด้านซ้ายมีอีกสิบห้าบาน หน้าต่างทั้งสามสิบห้าบานล้วนมีไว้บริการนักศึกษาเก่า รวมถึงตรวจสอบและเก็บคะแนน
มีหน้าต่างอีกสิบบานอยู่ตรงหน้า รับผิดชอบในการแลกเปลี่ยนทรัพยากร
เมื่อฟางผิงและฟูชางดิ่งมาถึง ก็มีทั้งนักศึกษาเก่าและนักศึกษาใหม่อยู่ในห้องโถงอยู่แล้ว
มีนักศึกษารุ่นพี่บางคนพกอาวุธติดตัวมาด้วย แผ่รังสีอันตรายออกมา ดูเหมือนพวกเขาจะพึ่งกลับมาจากภารกิจ
นักศึกษารุ่นพี่สงบมาก พวกเขาต่อแถวเข้าคิวเงียบๆ สายตาไม่วอกแว่ก รอให้ถึงตาตนเอง
ในทางกลับกัน นักศึกษาใหม่ไม่อาจระงับความอยากรู้อยากเห็นได้ พวกเขามองไปรอบๆไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าพวกเขาประหลาดใจกับการจัดการของโม่อู่อย่างยิ่ง ซึ่งแตกต่างจากมหาลัยธรร มดาโดยสิ้นเชิง
นี่เป็นครั้งแรกเช่นกันที่ฟูชางยิ่งมาที่นี่ เขามองไปรอบๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่เขาดีงดูดสายตาของคนรอบข้างหลายคนเลยทีเดียว
เขาเด่นเกินไป หน้าเขาบวมหนักขึ้นเรื่อยๆ เขาแทบเป็นคนละคนกับหนุ่มหล่องามสง่าที่ฟางผิงเห็นก่อนหน้านี้
นักศึกษาใหม่หลายคนยังมาไม่ถึง มีเพียงไม่กี่คนที่อยู่ในแถวตรงหน้าฟางผิงกับฟูชางยิ่ง
ไม่นานก็ถึงตาพวกเขา
ฟูชางยิ่งรีบสาวเท้าก้าวเข้าไปและโน้มตัวเข้าไปถาม ” ช่วยตรวจสอบคะแนนผมหน่อย”
เจ้าหน้าที่เจอหัวหมูจนชินแล้ว เขาจึงตอบนิ่งๆ “ชื่อ เลขนักศึกษา และเลขห้องหอพัก”
“ถ้าได้ใบอนุญาตวิชายุทธ เธอจะรูดได้เลย แต่ตอนนี้ผมจําเป็นต้องยืนยันตัวตน”
“ปู่ชางยิ่ง นักศึกษาใหม่เขตหนึ่ง ห้อง15 เลขนักศึกษา…”
“โปรดรอสักครู่”
หลังจากนั้นสักครู่ เจ้าหน้าที่ก็เงยหน้าแล้วพูด “เธอเริ่มต้น 50 คะแนน เมื่อกี้อาจารย์ถังเฟิงบอกว่าคณบดีหวงจึงมอบให้เธออีก 45 คะแนน ทั้งหมดคือ 95 คะแนน
” แค่ 45 คะแนน?”
ฟูชางยิ่งรู้สึกท้อแท้ ” แค่นี้เหรอ? ผมจําได้ว่าจัดการผู้ฝึกยุทธไปหลายคนเลยนะ ทําไมถึงได้น้อยแบบนี้ล่ะ?”
เจ้าหน้าที่โบกมือปัดคําบ่นเขา “อาจารย์ถังเฟิงเป็นคนจัดการ ถ้าเธอต้องการ เธอไปร้องเรียนได้”
ฟูชางซึ่งอยู่ในตําแหน่งที่น่าอึดอัด เขาไม่กล้าร้องเรียน เมื่อเขาเลือกอาจารย์หลัวอี้ชวนบางที่อาจารย์ถังเฟิงอาจไม่พอใจ
ฟางผิงไม่สนใจเช่นกัน เขาก้าวไปข้างหน้า “ฟางผิง นักศึกษาใหม่เขตหนึ่ง ห้อง 86 เลขนักศึกษา…”
“เธอเริ่ม 50 คะแนน และได้รางวัล 152 คะแนน!”
เจ้าหน้าที่เงยหน้ามองฟางผิงอย่างช็อคๆ ”เธอมีทั้งหมด 202 คะแนน ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของเรา มันหาได้ยากมากที่นักศึกษาจะมีคะแนนมากขนาดนี้ตั้งแต่เข้าเรียน!”
ฟางผิงถาม ”นอกจากแลกเป็นยา คะแนนเอาไปใช้อย่างอื่นได้ไหม?”
“แน่นอน คะแนนมีประโยชน์มากมาย”
เจ้าหน้าที่อธิบาย ” ภายใต้สถานการณ์ปกติ จะมีพื้นที่สาธารณะที่ใช้ฝึกฝนและมีอุปกรณ์ให้ใช้ฟรี”
“อย่างไรก็ตามถ้าเธออยากใช้อุปกรณ์คุณภาพสูง เธอจําเป็นต้องใช้คะแนน”
“นอกจากนี้คะแนนนําไปใช้ซื้ออาหารได้ ผมหมายถึงอาหารที่มีฤทธิ์ฟื้นฟูปราณและเลือดแถมเธอยังใช้คะแนนย้ายหอพักได้ ยกตัวอย่างถ้าเธอไม่ชอบหอพักที่อาศัยอยู่ เธอจะย้ายไปอยู่หอพักที่ดีกว่าได้”
” สรุปสั้นๆ ในโม่อู่ไม่มีปัญหาไหนที่แก้ไม่ได้ด้วยคะแนน”
“แน่นอน ผมขอแนะนํา นักศึกษาใหม่มีคะแนนน้อย ควรใช้จ่ายอย่างประหยัด”
”เน้นใช้แลกเปลี่ยนกับเม็ดยาที่ต้องใช้ในการฝึกฝน สิ่งนี้สําคัญกว่าความสะดวกสบาย
“เธอยังสามารถแลกคะแนนเป็นเงินสด 1 คะแนนแลกได้หมื่นหยวน”
” แถมเธอยังใช้เงินสดแลกคะแนนได้ด้วยเช่นกัน สามหมื่นหยวนแลกได้ 1 คะแนน!”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ฟูชางยิ่งก็รู้สึกปวดฟันขึ้นมา “หน้าเลือดเกินไปแล้ว! แลกคะแนนเป็นเงินสดได้แค่หมื่นหยวน แต่เราต้องใช้สามหมื่นหยวนเพื่อแลกหนึ่งคะแนน!”
“เธอไม่จําเป็นต้องแลก มหาลัยไม่ได้สนับสนุนให้นักศึกษาแลกเงินสดเป็นคะแนน”
“มันเป็นเพราะ ถ้าไม่มีระบบแลกเปลี่ยน นักศึกษาบางคนจะมีปัญหาเรื่องอาหารและการฝึกฝนเพราะงั้นเราถึงมอบโอกาสนี้ให้กับเด็กที่ร่ํารวย”
“อย่าพูดแบบนั้น ผมไม่มีแผนจะแลกเปลี่ยน”
ฟูชางยิ่งสงสัยว่า เขาจะบริหารคะแนนซื้ออาหารกับเก็บไว้ฝึกฝนได้ย่ําแย่จนต้องแลกเงินสดเป็นคะแนนไหม
เขามีอยู่ 95 คะแนน ถ้าเขาใช้เงินจ่าย เขาต้องใช้เงิน 2.85 ล้าน แม้แต่เงินก็มีค่า
ส่วนฟางผิง เขาได้มา 152 คะแนนเป็นเงิน 4.56 ล้าน บวกกับที่มีแต่เดิม 50 คะแนน รวมทั้งหมดเป็น 6.06 ล้าน!
รอบนี้ฟางผิงได้รับความมั่งคั่งมามากมาย!
แน่นอน ถ้าเขาอยากเปลี่ยนเป็นเงินสด มันได้แค่ 2.02 ล้าน ฟางผิงไม่ได้สมองปวย เขาย่อมไม่มีทางแลกเป็นเงินสด
จากนั้นสักครู่ ฟางผิงก็เอ่ยถามอีกครั้ง ”คะแนนเก็บไว้นี่ได้อย่างเดียวเหรอ?”
“ย่อมไม่ หลังออกใบอนุญาตวิชายุทธ มันจะใช้เป็นบัตรอเนกประสงค์ของมหาลัยได้ ใบอนุญาตวิชายุทธเป็นบัตรประจําตัวนักศึกษา บัตรอเนกประสงค์ของมหาลัยและบัตรประชาชนรวมกันมันจึงใช้ประโยชน์ได้มากมาย”
“ส่วนตอนนี้ เธอทําได้แค่ตรวจสอบคะแนน เธอยังแลกเปลี่ยนทรัพยากรไม่ได้”
“ใบอนุญาติวิชายุทธของเธอจะออกเร็วๆนี้ มหาลัยมีประสิทธิภาพมาก เธอไม่ต้องกังวล”
ฟางผิงพยักหน้า มหาลัยมีประสิทธิภาพมากจริงๆ พวกเขาพึ่งผ่านการคัดเลือกสาขา แต่รางวัลก็เข้าแล้ว ในแง่ของประสิทธิภาพการทํางาน โม่อู่สุดยอดมาก
เหตุผลที่ใบอนุญาตวิชายุทธของพวกเขายังไม่ออกเป็นเพราะความแข็งแกร่งของนักศึกษาต่างจากตอนประเมิณร่างกาย
นักศึกษาบางคนทะลวงเป็นผู้ฝึกยุทธแล้ว ความแข็งแกร่งของทุกคนได้รับการประเมิณในสองวันนี้
“เราไปดูศูนย์แลกเปลี่ยนได้ไหม?”
เจ้าหน้าที่ยิ้ม “ได้ครับ เธอเป็นนักศึกษาใหม่ รายการการแลกเปลี่ยนทรัพยากรจะไม่เปิดทั้งหมด จะเปิดให้แค่บางส่วนเท่านั้น”
“ขอบคุณ!”
ฟางผิงกับฟูชางยิ่งไม่ได้ออกนอกลู่นอกทาง พวกเขาเดินตรงไปศูนย์แลกเปลี่ยนทันที
คะแนนของพวกเขายังใช้แลกเปลี่ยนอะไรไม่ได้ แต่แค่ได้เห็นก็ยังดี
รายการทรัพยากรนักศึกษาใหม่
ยาปราณและเลือดสามัญ : 3 คะแนนต่อเม็ด
ยาปราณและเลือดขั้นหนึ่ง : 10 คะแนนต่อเม็ด
ยาปราณและเลือดขั้นสอง : 20 คะแนนต่อเม็ด
ยาเสริมสร้างกระดูกขั้นหนึ่ง : 15 คะแนนต่อเม็ด
ยาเสริมสร้างกระดูกขั้นสอง : 30 คะแนนต่อเม็ด
ยาป้องกันอวัยวะภายในขั้นหนึ่ง : 20 คะแนนต่อเม็ด
ยาป้องกันอวัยวะภายในขั้นสอง : 60 คะแนนต่อเม็ด
อาวุธอัลลอยระดับอี : 10 คะแนนต่อหนึ่งกิโลกรัม
อาวุธอัลลอยระดับดี : 20 คะแนนต่อหนึ่งกิโลกรัม
ฟางผิงกับฟูชางยิ่งได้ใบรายการแลกเปลี่ยนทรัพยากรคนละใบ
เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจัดหาทรัพยากรไม่ใช่พนักงานธรรมดา เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ เขาสังเกตเห็นทั้งสองนั่งดูใบรายการแลกเปลี่ยนทรัพยากรแล้วเผยรอยยิ้มออกมา “ในรายการแลกเปลี่ยนของนักศึกษาใหม่จะมีไม่มากนัก แต่มันเพียงพอให้พวกเธอที่ต่ํากว่าขั้นสามแล้ว”
“สําหรับเตรียมผู้ฝึกยุทธที่อยากทะลวงเป็นผู้ฝึกยุทธ ยาปราณและเลือดขั้นหนึ่ง ยาเสริมสร้างกระดูกขั้นหนึ่ง ยาป้องกันอวัยวะภายในขั้นหนึ่งอย่างละเม็ดก็พอแล้ว มันปลอดภัยมากพอเช่นกัน”
“เม็ดยาทั้งสามราคาแค่ 45 คะแนน เพราะงั้นทางมหาลัยจึงให้คะแนนเริ่มต้นคนละ 50
คะแนน
“บางคนอาจมีคําถามว่า แล้วการฝึกฝนตามปกติล่ะ?”
“อันนั้น เธอไม่มีทางเลือกนอกจากต้องพึ่งพาตัวเอง ไม่งั้นเธอก็เลือกไม่เอายาป้องกันอวัยวะภายในก็ได้ มีบางคนที่ไม่ใช้ยาป้องกันอวัยวะภายในหรือยาเสริมสร้างกระดูก ใช้แค่ยาปราณและเลือดขั้นหนึ่งเพียงอย่างเดียวเพื่อประหยัดคะแนน”
” หลังเธอทะลวงขั้นหนึ่ง ทางมหาลัยจะมอบรางวัลให้เธอ ทะลวงผ่านขั้นหนึ่งจะได้รางวัล 50 คะแนนซึ่งเพียงพอให้เธอใช้ได้ระยะหนึ่ง…”
ฟูชางมิ่งรีบถาม “แล้วนักศึกษาที่เป็นผู้ฝึกยุทธอยู่แล้วล่ะ?”
“ไม่ได้อะไร!”
อาจารย์ที่รับผิดชอบการแลกเปลี่ยนอธิบาย ”มันเป็นทางเลือกของเธอที่ทะลวงเป็นผู้ฝึกยุทธและนั่นทําให้เธอมีข้อได้เปรียบในการแข่งขันช่วงแรกๆ”
เพราะเธอเป็นผู้ฝึกยุทธ เธอถึงเลือกสาขาดีๆได้ เลือกอาจารย์ดีๆได้ นี่เป็นการลง ทุนของเธอ”
” ทางมหาลัยจะไม่ชดเชยให้!”
ฟูชางยิ่งและคนอื่นๆเป็นผู้ฝึกยุทธด้วยทรัพยากรของตนเอง มันเหมือนขาดทุน แต่ที่จริงถ้าพวกเขาไม่ได้เป็นผู้ฝึกยุทธและอยู่เหนือกว่า พวกเขาก็จะไม่ได้อาจารย์ขั้นหก
ด้วยเหตุผลนี้ ทางมหาลัยจึงไม่ชดเชยให้ มีเพียงความพยายามเท่านั้นที่จะได้รับรางวัลของฟรีไม่มีบนโลก
ฟูชางยิ่งผิดหวังเล็กน้อย 50 คะแนนไม่ใช่จํานวนน้อยๆ เขาถูกกระทืบจนเป็นหัวหมู แต่ก็ได้มาแค่ 45 คะแนนมาชดเชยความเจ็บปวด
ฟางผิงไม่สนใจเรื่องนี้นัก เพราะเขายังไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ
ฟางผิงดูรายการแลกเปลี่ยนแล้วพูด ”อาจารย์ ระดับของอาวุธคืออะไรหรือ?”
“อาวุธเย็นตอนนี้ส่วนใหญ่ทํามาจากอัลลอย”
“อัลลอยมีแข็งมีอ่อน ความยืดหยุ่นต่างกัน เธอควรเข้าใจเรื่องนี้นะ เพราะงั้นมันจึงถูกแบ่งเป็นห้าระดับ เอ บี ซี ดี อี ตามความแข็ง”
“นอกจากนี้ยังมีระดับเอฟกับระดับจีเช่นกัน แต่มันไม่ได้ต่างไปจากความแข็งของโลหะทั่วไป”
“ผู้ฝึกยุทธจะใช้แค่อาวุธห้าระดับแรกเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีความต่างของขนาดอาวุธ การแลกเปลี่ยนยังมีเรื่องน้ําหนักอาวุธอีก”
“อัลลอยระดับอีแข็งแกร่งมากแล้ว ผมจะไม่บอกว่ามันนั่นเหล็กได้เหมือนนั่นเนย แต่ถ้าปะทะกับมีดทําครัวธรรมดา มีดพักแน่นอน”
” พวกเธอยังไม่ต้องแลกเปลี่ยนอาวุธ มันยังไม่จําเป็น มันต้องใช้อัลลอยอย่างน้อยห้ากิโลกรัมเพื่อสร้างอาวุธหนึ่งชิ้น แม้ว่ามันจะเป็นอัลลอยระดับอีที่ถูกที่สุด เธอก็ยังต้องใช้ถึง 50 คะแนน
“สิ่งสําคัญที่สุดก็ยังเป็นการกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ เชี่ยวชาญวรยุทธและมีความรู้ทางทฤษฎี”
“เมื่อเธอเข้าปีสองและเริ่มทําภารกิจ เธอค่อยแลกเปลี่ยนตอนนั้นก็ไม่สาย”
“เราจะยอมรับภารกิจได้ตอนปีสองเท่านั้นหรือ?”
“ไม่เสมอไป มันขึ้นอยู่กับว่าเธอจะแข็งแกร่งแค่ไหน ผมกําลังพูดถึงกรณีทั่วไป เพราะไม่ใช่ทุกคนที่ทะลวงเป็นผู้ฝึกยุทธได้เร็วนัก ปีหนึ่งจะเป็นปีที่ทุกคนสร้างความก้าวหน้า”
“งั้นเราต้องทําอะไรถึงรับภารกิจได้?”
” ขอแค่เธอเป็นผู้ฝึกยุทธก็พอ อย่างไรก็ตามเมื่อเธอรับภารกิจ เธอต้องรับผิดชอบชีวิตตนเองอย่ารับภารกิจมั่วๆ เธอจะตายเปล่าเอา ภายใต้สถานการณ์ปกติ จะดีที่สุดถ้าเธอรับภารกิจหลังทางมหาลัยจัดให้มีการทดลองทําภารกิจเพื่อเก็บประสบการณ์
อาจารย์คนนี้ตอบทุกคําถาม จุดประสงค์ของมหาลัยคือการไขข้อข้องใจ เว้นแต่ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าฟางผิงจะถามอะไร เขาย่อมตอบทุกคําถาม
เมื่อพวกเขาออกจากแผนกโลจิสติกส์ ฟางผิงก็ส่ายหน้าและกล่าว “200 คะแนนดูเหมือนเยอะแต่ที่จริงมันพอซื้อยาขั้นสองไม่กี่เม็ด ยาชักจะแพงเกินไปแล้ว”
ฟูชางยิ่งกล่าวแกมรําคาญ “รู้จักพอซะบ้าง!”
” เพราะไม่อู่มีส่วนร่วมในการผลิตยา มันถึงถูกขนาดนี้!”
ยาป้องกันอวัยวะภายในขั้นสองหนึ่งเม็ดมีราคาตลาด 2 ล้าน แต่ที่โม่อู่แค่ 60 คะแนน ซึ่งก็คือหกแสนหยวนแน่นอน ถ้านายอยากใช้เงินซื้อ มันจะเป็น 1.8 ล้าน ซึ่งเกือบเท่าราคาตลาด”
“มหาลัยทําแบบนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้นักศึกษาใช้เงินซื้อยาแล้วเอาไปขายต่อ”
ยาป้องกันอวัยวะภายในขั้นสองมีราคาสองล้าน ภายใต้สถานการณ์ปกติ 1.8 ล้านก็พอ อหากซื้อด้วยช่องทางที่ถูกต้อง
ในโม่อู่ การใช้คะแนนซื้อจะมีราคา 60 คะแนน ซึ่งดูเหมือนไม่มาก อย่างไรก็ตามถ้าพวกเขาใช้ เงินซื้อ พวกเขาต้องใช้เงิน 1.8 ล้าน
เพราะเหตุนี้ โม่อู่จึงไม่ได้กําหนดขีดจํากัด แต่ที่จริงมันเป็นขีดจํากัดสูงสุดแล้ว!
นักศึกษาเป็นคนขายของมือสองไม่ได้!
ฟางผิงทอดถอนใจ ครั้งนี้เขาได้กําไรมาเยอะจริงๆ
เขาได้มา 202 คะแนนและยาปราณและเลือดสามัญ 10 เม็ด ซึ่งรวมแล้วได้ 232 คะแนน!
ก่อนได้คะแนน ค่าทรัพย์สินของฟางผิงไม่เพิ่ม
อย่างไรก็ตาม เมื่อกี้พอเขาตรวจสอบดู ค่าทรัพย์สินของฟางผิงเพิ่มขึ้นมาทันที
สิบนาทีก่อน ค่าสถานะของฟางยิ่งคือ
ทรัพย์สิน : 1,900,000
ปราณและเลือด : 209แคล
จิตใจ : 210เฮิรตซ์
เพื่อรักษาสภาพสูงสุดเอาไว้ ฟางผิงจึงใช้ค่าทรัพย์สินเติมเต็มปราณและเลือดและจิตใจให้อยู่จุดสูงสุด
เมื่อวานเขามีค่าทรัพย์สิน 2.1 ล้าน แต่เมื่อกี้เขาใช้ค่าทรัพย์สินไปสองแสนในคราเดียว!
แต่ทั้งหมดมันคุ้มค่า!
ตอนนี้ค่าทรัพย์สินของฟางผิงพุ่งขึ้นสูง!
ทรัพย์สิน : 6,640,000
ปราณและเลือด : 209แคล
จิตใจ : 210เฮิรตซ์
ค่าทรัพย์สินของเขาเพิ่มขึ้น 4.74 ล้านทันที 1 คะแนนเทียบเท่ากับค่าทรัพย์สิน 20,000 แต้มจากการคํานวณ ค่าทรัพย์สินเกินมาหนึ่งแสนแต้ม
(ผู้แปล : 232 คะแนนเท่ากับ 4.64 ล้าน)
แววตาของฟางผิงเปล่งประกาย เขาตระหนักว่าค่าทรัพย์สินแสนแต้มที่เกินมาน่าจะมาจากยาปราณและเลือดสามัญสิบเม็ด!
ที่โม่อู่ ยาปราณและเลือดสามัญมีค่า 3 คะแนน ถ้า 1 คะแนนเท่ากับค่าทรัพย์สิน 20,000 แต้มงั้นมันก็จะมีส่วนต่างหมื่นแต้มต่อเม็ด
พูดอีกนัยนึ่ง ถ้าฟางยิ่งใช้ 202 คะแนนแลกเปลี่ยนยาปราณและเลือดสามัญ 67 เม็ด มันก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ค่าทรัพย์สินจะเกินมา 670,000 แต้ม!
(ผู้แปล : จากการทํางานของระบบ ถ้าใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่ทํากําไรได้เกินราคาที่ระบบตั้งค่าทรัพย์สินจะเพิ่ม ระบบประเมิณว่า 1 คะแนน = 20000 แต้ม สามคะแนนก็หกหมื่น แต่ระบบประ เมิณเม็ดยาเท่ากับ 70000 แต้ม ฟางผิงจึงได้เพิ่มมาเม็ดละหมื่นแต้ม)
“ฉันควรลองดูไหม?”
ฟางผังหวั่นไหวเล็กน้อย ถ้าเขาแลกยาปราณและเลือดสามัญมา 67 เม็ด ค่าทรัพย์สินของเขาจะเพิ่มอีก 670,000 แต้ม
นอกจากนี้ถ้าเขาขายยา 67 เม็ดนี้ มีโอกาสเป็นไปได้มากที่เขาจะได้กําไรก้อนโต ทั้งค่าทรัพย์สินและเงินในกระเป๋าก็จะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
สําหรับคนอื่นแล้ว มันเป็นการแลกเปลี่ยนที่ไม่คุ้มค่า เมื่อพวกเขาขาย พวกเขาจําเป็นต้องเพิ่มเงินอีกสองเท่าเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นคะแนน มันไม่มีกําไรเลย
ต่อให้พวกเขาได้กําไร มันก็เป็นเงินเพียงเล็กน้อย ไม่มีความหมาย
อย่างไรก็ตามฟางผิงต่างออกไป ถ้าเขาขาย ต่อให้เขาไม่ได้กําไรในแง่คะแนนและเงินสดเขาก็ยังได้ค่าทรัพย์สินมากมาย
“ถ้าฉันขายเม็ดยาเยอะๆ ทางมหาลัยจะเพ่งเล็งฉันไหม?”
“ถ้าฉันขายผ่านช่องทางต่างๆ ถ้ามีแค่ไม่กี่เม็ดมันคงไม่เป็นปัญหา ถ้าฉันอยากขายเม็ดยาเยอะๆ ฉันอาจต้องลดราคา ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันก็จะได้เงินไม่มาก สิ่งสําคัญที่สุดคือค่าทรัพย์สิน
ฟางผิงคิดคํานวณและตัดสินใจรอดูก่อน
ตอนนี้เขามีคะแนนไม่มากเท่าไหร่ เขาไม่มีช่องทางซื้อยาอย่างยาขั้นสองเช่นกัน เขาอาจจําเป็ นต้องใช้ภายหลัง ดังนั้นตอนนี้เขาเก็บคะแนนไว้ก่อนดีกว่า
สิ่งสําคัญที่สุดคือเขามีค่าทรัพย์สินพอใช้แล้ว ค่าทรัพย์สินที่เขาผลาญไปไม่กี่วันมานี้ฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว
ค่าทรัพย์สินกว่าหกล้านพอให้เขาใช้ไปพักนึง!
“วันพรุ่งนี้หยุดพอดีเลย ฉันจะไปหาอาจารย์แล้วทะลวงเป็นขั้นหนึ่ง!”
ฟางผิงแทบอดใจรอไม่ไหว ไม่ว่าขัดเกลาสามครั้งจะสุดยอดแค่ไหน แต่มันก็เป็นแค่ขัดเกลาสามครั้ง
ถ้าเขาประลองกับจ้าวเหล่ยหรือฟูชางยิ่งและไม่ได้โกง ฟางผิงอาจประมือกับพวกเขาไม่ได้ อย่างน้อยถ้าเป็นเรื่องความแข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งของกระดูกฟางผิงเทียบกับอีกฝ่ายไม่ได้
ถ้าผู้ฝึกยุทธขัดเกลาแขนขาบางส่วนลงลึก ประสิทธิภาพของมันจะดีกว่าการขัดเกลากระดูกทั้งตัว