World’s Best Martial Artist - ตอนที่ 127.1 อันดับ (1)
วันรุ่งขึ้น วันพฤหัสบดี
วิชาความรู้ทั่วไปของไป๋รั่วซีมีขึ้นตอนกลางคืนตามปกติ
ทุกคนรู้ว่าวิชาความรู้ทั่วไปเป็นความรู้พื้นฐานที่ทราบกันดีในยุทธภพที่ทางมหาลัยวิชายุทธพยายามถ่ายทอดให้นักศึกษา
ณ อาคาร 6
คืนนี้ ไป๋รั่วซีนำเอกสารมาด้วยกองใหญ่
เมื่อตกกลางคืน เธอก็แจกเอกสารให้ทุกคน
“สิ่งที่พวกเธอกำลังดูตอนนี้คืออันดับของปรมาจารย์ที่ทรงอิทธิพลส่วนใหญ่ แน่นอนในนี้มีแค่อันดับของประเทศจีนเท่านั้น ที่อื่นไม่มีบันทึกไว้”
…..
ฟางผิงเคยค้นหาอันดับปรมาจารย์บนโลกออนไลน์มาก่อน อย่างไรก็ตามเวอร์ชั่นออนไลน์เป็นเวอร์ชั่นเรียบง่าย แถมคนส่วนใหญ่ที่ถูกบันทึกไว้จะเป็นนักธุรกิจ
รายชื่ออันดับใหม่ที่พวกเขาได้รับมาแตกต่างจากเวอร์ชั่นออนไลน์มาก
“อันดับปรมาจารย์ :
อันดับหนึ่ง : หลี่เจิ้น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ขั้น 9
อันดับสอง : จางเทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขั้น 9
อันดับสาม : เสิ่นฮ่าวเทียน ผู้พิทักษ์เขตเหนือ ขั้น 9
อันดับสี่ : เฉินกู่หยาง ผู้พิทักษ์เขตตะวันออก ขั้น 9
…”
ฟางผิงกวาดสายตาอ่านรายชื่ออย่างรวดเร็วและรู้สึกมึนงง เขาถามฟู่ชางติ่งที่อยู่ข้างๆเบาๆอย่างอดไม่ได้ “ผู้พิทักษ์คืออะไร?”
ฟู่ชางติ่งมองเขาด้วยความประหลาดใจก่อนจะอธิบายให้ฟัง “นายไม่รู้เรื่องการเมืองเลยจริงๆ”
“ในประเทศจีน รัฐบาลกลางเป็นผู้ปกครองโลก”
“ภายใต้อำนาจของรัฐบาลกลาง กองทัพ กระทรวงศึกษา และกรมสืบสวนอาจมีชื่อเสียงที่สุด แต่ที่จริงผู้คนมักมองข้ามบางอย่างไป”
“นั่นก็คือรัฐบาลของภาคต่างๆ!”
“ผู้สำเร็จราชการมีอำนาจในการปกครองส่วนภูมิภาค และพวกเขาอยู่ใต้อำนาจของรัฐบาลกลาง อย่างไรก็ตามใจกลางมีผู้มีอำนาจอีกหนึ่งคือผู้พิทักษ์สี่ทิศ เหนือ ใต้ ออก ตก”
“ปกติแล้วหน้าที่หลักของผู้พิทักษ์ทั้งสี่คือตรวจตราแต่ละภูมิภาค แม้ว่าพวกเขาจะถือว่าเหนือกว่ารัฐบาล แต่พวกเขาก็อยู่ภายใต้หน่วยงานตรวจสอบเช่นกัน”
“ทำเนียบผู้พิทักษ์มีอำนาจอย่างยิ่ง ยิ่งกว่านั้นเขตอำนาจศาลของพวกเขายังครอบคลุมพื้นที่มหาศาล ปกติแล้วพวกเขาจะไม่ประจำการอยู่ที่เดียว…”
“อย่างนั้นเหรอ?”
ฟางผิงขมวดคิ้ว “ฉันไม่คิดหรอกนะว่าจะเจอข้อมูลพวกนี้บนโลกออนไลน์”
“ตามนั้น ทำเนียบผู้พิทักษ์มักจะเก็บตัวอยู่เงียบๆ พูดตามตรงมีไม่กี่คนที่รู้จักหน้าที่ของผู้พิทักษ์”
“ฉันเคยไม่มั่นใจเรื่องนี้มาก่อน แต่ฉันพอเดาได้เล็กน้อย บางทีทำเนียบผู้พิทักษ์อาจไม่เลือกเป็นบุคคลสาธารณะ เพราะพวกเขาต้องรับผิดชอบปราบปรามทางเข้าถ้ำใต้ดินด้วยเช่นกัน”
“ผู้พิทักษ์ทรงพลังขนาดนั้นเลย?”
ฟางผิงเหลือบมองรายชื่อ ในรายชื่อสิบอันดับแรกของปรมาจารย์ มีผู้พิทักษ์หลักทั้งสี่ของทำเนียบผู้พิทักษ์ครบทุกคน!
บวกกับรัฐมนตรีสามคนจากสามกระทรวงก็กินไป 7 ตำแหน่งแล้ว
นอกจากนั้น อีกสองคนที่มาจากรัฐบาลกลางก็ติดสิบอันดับแรกเช่นกัน แน่นอนคนที่อยู่ในรายชื่อไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่อันดับต้นๆของรัฐบาล
ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้นไม่ได้อยู่ในรายชื่อ ไม่รู้ว่าเพราะความแข็งแกร่งของพวกเขามีแค่กลางๆแต่มีความสามารถในการบริหารที่โดดเด่น หรือเพราะพวกเขาไม่อยากโดดเด่นก็ไม่ทราบได้
ไม่ว่ายังไง พวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในรายชื่อ
สามรัฐมนตรี ทำเนียบผู้พิทักษ์ และรัฐบาลกลางรวมแล้วเป็น 9 อันดับในสิบอันดับ เห็นได้ชัดว่าด้วยความสามารถในการควบคุมยอดยุทธมากมาย รัฐบาลกลางจึงมีความมั่นใจเหลือล้น
ในหมู่สิบอันดับ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ใช่ผู้มีอำนาจของรัฐบาล
“อันดับที่แปด จ้าวซิงอู่ ผู้นำพันธมิตรนิกาย”
ฟางผิงเหลือบดูแล้วถามอย่างสงสัยอีกครั้ง “พันธมิตรนิกายคืออะไร?”
ก่อนที่ฟู่ชางติ่งจะได้ตอบ ไป๋รั่วซีก็เดินมาหาพวกเขา เธอยิ้มและกล่าว “อาจารย์เคยพูดเรื่องนี้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ก่อนการก่อตั้งสมาคมวิถียุทธปักกิ่ง มรดกยุทธถูกถ่ายทอดผ่านนิกาย สำนัก และโรงเรียนวิชายุทธ”
“หลังจากนั้นมหาลัยวิชายุทธก็ถือกำเนิดขึ้น แม้ว่านิกายจะสูญเสียอำนาจไป แต่มรดกของพวกเขาถูกส่งต่อกันมาอย่างยาวนาน มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะยอมแพ้”
“นอกจากนี้ นิกายยังมีเอกลักษณ์ของตนเอง เนื่องจากเหตุผลที่เกี่ยวข้องและทรัพยากร พวกเขาจึงมีสมาชิกน้อยลง ความสามารถโดยรวมจึงอ่อนแอลง กระนั้นพวกเขาก็ยังมียอดยุทธอยู่”
“รัฐบาลได้ก่อตั้งฝ่ายบริหารนิกาย แล้วรวมนิกายไว้ในระบบบริหาร”
“พันธมิตรนิกายแสดงให้เห็นถึงความพยายามของนิกายเพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขามีสิทธิ์มีเสียง ดังนั้นจึงก่อตั้งระบบพันธมิตรขึ้นมา ท่านจ้าวซิงอู่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำ เขาเป็นตัวแทนของนิกายเพื่อต่อสู้เพื่อทรัพยากรและตำแหน่ง”
“ผมคิดว่านิกายถูกกำจัดไปแล้วซะอีก” ไอรีนโนเวล
ฟางผิงงงหน่อยๆ มันน่าแปลกใจที่นิกายยังคงดำรงอยู่
ไป๋รั่วซียิ้ม “ไม่จำเป็นต้องแปลกใจหรอก มักจะมีคนดื้อรั้นอยู่เสมอ นิกายมีการสืบทอดกันมานานหลายปี เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะให้ทุกคนยอมแพ้”
“รัฐบาลไม่ได้ปฏิเสธการดำรงอยู่ของนิกายเช่นกัน ตราบใดที่พวกเขาปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ พวกเขาจะทำอะไรก็ได้”
“อันที่จริง เราคิดซะว่าพวกเขาเป็นมหาลัยวิชายุทธอีกรูปแบบนึงก็ได้ ผู้นำนิกายเป็นเหมือนอาจารย์ใหญ่ ผู้อาวุโสปกป้องกฎก็เป็นเหมือนอาจารย์”
“นิกายแข็งแกร่งไหม?”
“พวกเขาแข็งแกร่งพอควร”
ไป๋รั่วซียิ้มอีกครั้ง “แต่พวกเขาเหลือเพียง 20-30 นิกายเท่านั้น อาจารย์ก็ไม่รู้ตัวเลขจริงๆ”
“ถ้าพวกเขาอยู่เป็นพันธมิตรกัน งั้นพวกเขาก็ไม่อ่อนแอ บางทีเทียบได้กับโม๋อู่เลยทีเดียว”
“อย่างไรก็ตาม ถ้าอีกฝ่ายอยู่แยกเป็นนิกายเดียว งั้นบางนิกายก็อ่อนแอ บางนิกายมีขั้นกลางแค่คนเดียว ขั้นต่ำสามถึงห้าคน เธอคิดว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนเชียวล่ะ?”
“ในโลกสมัยใหม่ นิกายอ่อนแอขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่ใช่เพราะประธานจ้าว จำนวนนิกายคงน้อยกว่านี้มาก”
ฟางผิงครุ่นคิดเล็กน้อยและตัดสินว่ามันเป็นเรื่องปกติ
ถ้ามีผู้ฝึกยุทธน้อยกว่า นิกายก็จะมีอำนาจสำคัญ เป็นแผนกพิเศษ
อย่างไรก็ตามถ้ามีผู้ฝึกยุทธมากกว่ามหาลัยวิชายุทธ แต่รัฐบาลกลางปกครองทั้งประเทศ มีทรัพยากรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรการฝึกฝนหรือทรัพยากรมนุษย์ นิกายย่อมเทียบด้วยไม่ได้
มหาลัยวิชายุทธรับสมัครนักศึกษาได้ทั่วประเทศ แต่นิกายจะทำแบบนั้นได้เหรอ?
มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่นิกายจะเริ่มอ่อนแอลง
ฟางผิงหยุดถามคำถาม กลับกันเขาอ่านส่วนที่เหลือต่อ
ชื่อบางคนเขาก็เคยได้ยิน บางคนเขาก็ไม่เคยได้ยิน
มีนักธุรกิจ มีข้าราชการ มียอดยุทธของกองทัพ และมียอดยุทธของมหาลัยวิชายุทธ แน่นอนฟางผิงเห็นผู้ฝึกยุทธของนิกายอีกสองสามคนที่อยู่ในรายชื่อด้วย
อาจารย์ใหญ่ของมหาลัยวิชายุทธปักกิ่งอยู่อันดับที่ 36 ของรายชื่อ เขาอยู่ขั้นแปดสูงสุด
ข้างหน้าเขามีขั้นแปดสูงสุดอีกสองคน พูดอีกนัยนึงประเทศจีนมีผู้ฝึกยุทธขั้นเก้าถึง 33 คน!
มันมากกว่าที่ฟางผิงจินตนาการไว้เสียอีก!
อาจารย์ใหญ่โม๋อู่ อยู่อันดับที่ 41 เป็นยอดยุทธขั้นแปดสูงสุดเช่นกัน
ผ่านมาถึงอันดับที่ 100 ในที่สุดฟางผิงก็เห็นพี่หม่าที่อันดับ 104
ในฐานะยอดยุทธขั้นแปด คนที่มีชื่อเสียงดังก้องไปทั่วประเทศ เขาอยู่อันดับเกิน 100 อันดับแรกอย่างไม่คาดคิด
อันดับปรมาจารย์ยาวไปถึงอันดับที่ 300 ก่อนจะหยุดลงกะทันหัน
ฟางผิงไม่ได้อ่านทั้งหมดโดยละเอียด หลังดูเสร็จ เขาก็ถามฟู่ชางติ่ง “มีปรมาจารย์ในประเทศจีนทั้งหมด 300 คนเหรอ?”
ฟู่ชางติ่งส่ายหน้า “ฉันไม่รู้ ฉันเดานะ อาจมีมากกว่านี้อีก อาจมีถึง 400-500 คนก็ได้”
“แน่นอน…มันอาจน้อยกว่านั้นก็ได้”
“ที่ฉันรู้จักมีน้อยกว่านี้มาก มีหลายคนที่ฉันไม่รู้จักมาก่อน”
“ฉันเดาว่า ส่วนใหญ่คงพิทักษ์ถ้ำใต้ดิน”
“ปรมาจารย์ที่มีบทบาทในประเทศจริงๆน่าจะมีเกือบร้อย”
ฟางผิงพยักหน้า เกือบร้อย เขาก็คาดเดาไว้แบบนั้นเหมือนกัน
ยอดยุทธระดับปรมาจารย์ที่อยู่ในแวดวงธุรกิจน่าจะมีประมาณ 30 คน ทางฝั่งรัฐบาล อาจมีผู้สำเร็จราชการระดับปรมาจารย์ที่มีบทบาทประมาณ 10 คนเท่านั้น
ฟางผิงคำนวณจำนวนยอดยุทธของกองทัพคร่าวๆ ถ้านับรวมกันสองหน่วยงาน มียอดยุทธประมาณ 40-50 คนเท่านั้น
บวกกับยอดยุทธของมหาลัยวิชายุทธ ก็มีจำนวนเกือบร้อยคน
จากที่เขาเห็น เขาประเมิณจำนวนปรมาจารย์ของประเทศจีนต่ำไป
“ด้วยจำนวนปรมาจารย์มากขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาจะปกป้องทางเข้าถ้ำใต้ดินทั้ง 22 แห่งไว้ได้
“ตอนแรก ฉันคิดว่าขั้นกลางก็ถือว่าเป็นยอดยุทธแล้ว ดูเหมือนฉันจะมองแง่ดีไป”
ที่จริงแล้วด้วยประชากรในประเทศจีนมากกว่า 1 พันล้านคน การสร้างปรมาจารย์สัก 300-400 คนเป็นอัตราส่วนประมาณ 1 : 5 ล้านคน
อัตราส่วนนี้ไม่สูงนัก
ประเทศเล็กๆบางประเทศถือว่าประชากรหลายสิบล้านคนก็สูงจนน่าเหลือเชื่อแล้ว ถ้าพวกเขามีอัตราส่วนเหมือนประเทศจีน ประเทศนึงคงมีปรมาจารย์เพียงหยิบมือเดียวเท่านั้นงั้นเหรอ?
แน่นอนมันไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับจำนวนประชากรอย่างเดียว ประเทศเล็กๆอาจอยู่รอดได้ดีกว่าก็ได้ เพราะมีทรัพยากรสมบูรณ์มากกว่า
มีหลายสิบมณฑลในประเทศจีน หลังแบ่งออกไปเท่าๆกัน ในมณฑลอาจมีปรมาจารย์ประมาณ 10 คนเท่านั้น
นี่ไม่ได้นับรวมเหล่าปรมาจารย์ที่พิทักษ์ถ้ำใต้ดินและผู้ที่ไม่เปิดเผยตัวตน มีปรมาจารย์ไม่กี่คนเท่านั้นที่เปิดเผยต่อสาธารณะ การมีปรมาจารย์สองสามคนในหนานเจียงก็ถือว่าไม่เลวแล้ว