World’s Best Martial Artist - ตอนที่ 127.2อันดับ (2)
หลังอ่านอันดับปรมาจารย์เสร็จ ไป๋รั่วซีก็ยิ้มอีกครั้ง “ระดับปรมาจารย์ยังอยู่ห่างไกลจากเรา ในฐานะนักศึกษามหาลัยวิชายุทธ เธอควรสนใจรายชื่อต่ำกว่าขั้นสามมากกว่า”
“ไม่ว่ายังไง ผู้ฝึกยุทธต่ำกว่าขั้นสามก็เป็นกลุ่มคนที่มีจำนวนมากที่สุด!”
“ประเทศจีนมีผู้ฝึกยุทธเป็นล้านคน ผู้ฝึกยุทธต่ำกว่าขั้นสามถือเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นจำนวนแปดแสนคน!”
“เธอจินตนาการได้ไหมด้วยจำนวนผู้ฝึกยุทธมากมายขนาดนี้ โดยที่ไม่ได้ประลองกัน มันจะเป็นเรื่องยากแค่ไหนที่เราจะสร้างรายชื่ออันดับที่เชื่อถือได้!”
“ดังนั้นนี่เป็นเหมือนทำตามใจตัวเองมากกว่า รายชื่อทำมาจากทุกคน มันไม่สำคัญว่าจะมีใครไม่เห็นด้วยไหม”
“ในรายชื่อต่ำกว่าขั้นสาม มีสามรายชื่อที่เชื่อถือได้ อันแรกพวกเราโม๋อู่เป็นผู้จัดทำ อีกอันจัดทำโดยมหาลัยวิชายุทธปักกิ่ง และอันสุดท้ายจัดทำโดยกรมสืบสวน”
“รายชื่อที่จัดทำโดยกรมสืบสวนมีจุดประสงค์มากกว่าของรายชื่ออื่นเล็กน้อย”
ไป๋รั่วซีพูดต่อ “เมื่อกี้อาจารย์แจกจ่ายให้พวกเธอแล้ว มันอยู่หน้าสุดท้าย”
ฟางผิงพลิกไปหน้าสุดท้ายอย่างรวดเร็ว มันต่างจากอันดับปรมาจารย์ที่มี 300 อันดับ อันดับต่ำกว่าขั้นสามมีเพียงหน้าเดียว 100 อันดับเท่านั้น
หลังกวาดสายตามองอย่างรวดเร็ว ฟางผิงก็ไม่คุ้นกับชื่อพวกนี้เลย
แต่มันก็เป็นไปตามคาด ผู้ฝึกยุทธต่ำกว่าขั้นสามไม่ค่อยมีชื่อเสียงเท่าไหร่
คนที่อยู่ในรายชื่อมีทั้งคนจากมหาลัยวิชายุทธปักกิ่ง โม๋อู่ รวมไปถึงมหาลัยวิชายุทธแห่งอื่นๆ
ฟางผิงพิจารณาอยู่ครู่นึงก่อนจะพบกับชื่อหวังจินหยาง
รายชื่ออาจไม่ใช่รายชื่อล่าสุด ตอนนั้นหวังจินหยางยังไม่ได้ทะลวงขั้น เขาถูกจัดให้อยู่ในรายชื่อผู้ฝึกยุทธต่ำกว่าขั้นสาม
“อันดับที่ 27 มหาลัยวิชายุทธหนานเจียง หวังจินหยาง”
“เหล่าหวังอยู่แค่อันดับที่ 27 เองเหรอ?”
ฟางผิงรู้สึกว่ามันทำใจเชื่อได้ยาก เหล่าหวังที่พวกเขาพูดถึงคือคนที่กวาดผู้ฝึกยุทธต่ำกว่าขั้นสามจนโม๋อู่และมหาลัยวิชายุทธปักกิ่งเสียชื่อเชียวนะ
ฟางผิงรู้สึกไม่พอใจแทนเหล่าหวังเล็กน้อย เขาพูดขึ้นมาทันที “อาจารย์ไป๋ หวังจินหยางจากมหาลัยวิชายุทธหนานเจียงอยู่แค่อันดับที่ 27 เองเหรอ?”
ไป๋รั่วซียิ้มบางๆ “เธอเป็นเพื่อนกับหวังจินหยางเหรอ?”
“อันดับที่ 27 ถือว่าสูงแล้ว!”
“เธอรู้ไหม ประเทศจีนนั้นกว้างใหญ่มาก นอกจากมหาลัยวิชายุทธของรัฐ ยังมีนิกาย มีกองทัพ มีกรมสืบสวน และยังมีผู้พิทักษ์ถ้ำใต้ดินอีก”
“อันดับนี้จัดทำขึ้นด้วยการรวบรวมข้อมูลจากผู้ฝึกยุทธชื่อดัง”
“หวังจินหยางอาจประสบความสำเร็จอย่างมากในโม๋อู่และจิงอู่ แต่ตอนมาโม๋อู่ เขาเป็นแค่ขั้นหนึ่งเท่านั้น จากนั้นก็ขั้นสามที่มหาลัยวิชายุทธปักกิ่ง ดังนั้นเขาจึงไม่ถือว่าเป็นคนที่เก่งที่สุด”
“ที่จริงผู้ฝึกยุทธขั้นสามสูงสุดหลายคนยังอยู่ที่ถ้ำใต้ดิน พวกเขาไม่สนใจการประลองแบบนี้หรอก อย่างไรก็ตามผลงานของพวกเขาในถ้ำใต้ดิน รวมถึงผลงานการทำภารกิจนั้นดีมาก!”
“สามารถเข้าสู่ร้อยอันดับแรกได้ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งสุดยอดของพวกเขาแล้ว”
“ส่วนในร้อยอันดับนี้ อันดับไม่ได้แสดงถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกเขา เพราะยังไงเสียพวกเขาก็ไม่เคยประมือกัน”
ฟางผิงพยักหน้าเล็กน้อย เขาเห็นด้วยกับเรื่องนี้
หยางเสี่ยวม่านที่กำลังนั่งอยู่แถวหน้ารู้สึกอิจฉา “ฉันสงสัยจังเมื่อไหร่ชื่อของเราจะปรากฏในรายชื่ออันดับนี้นะ”
ไป๋รั่วซียิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไร มีผู้ฝึกยุทธต่ำกว่าขั้นสามมากเกินไป คิดว่าใครก็ติดรายชื่ออันดับยุทธก็ได้งั้นเหรอ?
หวังจินหยางขั้นสามสูงสุดได้สร้างสถิติความสำเร็จที่น่าทึ่งมากมาย แต่เขาก็อยู่อันดับที่ 27 เท่านั้น
ในโม๋อู่ มีผู้ฝึกยุทธต่ำกว่าขั้นสาม 6 คนเท่านั้นที่ติด 100 อันดับแรก
นักศึกษา 6 คนนี้ส่วนใหญ่เป็นปีสี่ ทุกคนไม่ได้อยู่มหาลัยตอนนี้ พวกเขาต่างพยายามทะลวงสู่ขั้นสี่ บางทีตอนนี้พวกเขาทะลวงขั้นไปแล้วก็ได้
ในหมู่นักศึกษาใหม่ ความสามารถของหยางเสี่ยวม่านพอใช้ได้ แต่ต่อให้เธออยู่ปีสี่ มันยากจะพูดว่าเธอจะเข้าสู่ร้อยอันดับแรกได้ไหม
บางคนก็อาจแข็งแกร่งมาก อย่างไรก็ตามถ้าพวกเขาไม่ได้สู้และเก็บเงียบมาตลอด พวกเขาก็อาจไม่ถูกเสนอชื่อ ไอลีนโนเวล
คำพูดของหยางเสี่ยวม่าน ฟางผิงไม่ได้สนใจนัก
ฟางผิงดูอันดับตรงหน้าเขาอีกครั้ง คนที่ได้อันดับแรกคือผู้ฝึกยุทธขั้นสามจากกองทัพ สิบอันดับแรกส่วนใหญ่มาจากกองทัพ
ฟางผิงคาดเดา บางทีเพราะพวกเขาตะลุยอยู่ในถ้ำใต้ดิน พวกเขาจึงมีโอกาสแสดงความสามารถได้มากกว่า ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ฝึกยุทธต่ำกว่าขั้นสามของกองทัพถึงแข็งแกร่งกว่า
ในโม๋อู่ คนที่มีอันดับสูงสุดคือรุ่นพี่อันดับ 16 เฉินเหวินหลง
ฟางผิงสอบถามเรื่องนี้เล็กน้อย น่าแปลกใจที่แม้แต่ฟู่ชางติ่งก็รู้เรื่อง เขาเป็นนักศึกษาปีสาม แถมยังเป็นรองประธานชมรมวิถียุทธ แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยอยู่มหาลัยก็ตาม
ฟู่ชางติ่งกล่าวอย่างเสียใจ “ตอนที่หวังจินหยางมาโม๋อู่ รุ่นพี่เฉินไม่อยู่ ไม่งั้นเราคงมีโอกาสได้เห็นการประลองกันของผู้ฝึกยุทธขั้นสามสูงสุด”
“สำหรับเราแล้ว ผู้ฝึกยุทธขั้นกลางและขั้นสูงยังไกลตัว”
“ต่ำกว่าขั้นสามใกล้ตัวเรามากกว่า…”
“…”
ทุกคนพูดคุยกันไม่หยุด บางคนก็ทะเยอทะยานอยากติดอันดับในอนาคต บางคนก็สงสัยความน่าเชื่อถือของอันดับ ท้ายที่สุดแล้วนักศึกษาขั้นสามที่แข็งแกร่งที่สุดของโม๋อู่ยังอยู่แค่อันดับที่ 16
นอกจากนี้อันดับปรมาจารย์ยังเกินความคาดหมายของทุกคน อาจารย์ใหญ่ของโม๋อู่อยู่แค่อันดับที่ 41 ทุกคนคิดกันว่าอาจารย์ใหญ่ต้องติดสิบอันดับแรกแน่นอน!
แม้จะไม่ได้อยู่สิบอันดับแรก อย่างน้อยก็ควรมีอันดับสูงกว่าอาจารย์ใหญ่มหาลัยวิชายุทธปักกิ่ง!
ไปๆมาๆไม่เพียงอาจารย์ใหญ่จะอ่อนแอกว่าเท่านั้น นักศึกษาก็อ่อนแอกว่า!
ในมหาลัยวิชายุทธปักกิ่ง ผู้ฝึกยุทธต่ำกว่าขั้นสาม 8 คนติดร้อยอันดับแรก คนที่แข็งแกร่งที่สุดติดสิบอันดับแรก อยู่ถึงอันดับ 6
เมื่อเทียบกับโม๋อู่แล้ว พวกเขาประสบความสำเร็จยิ่งกว่า
โม๋อู่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในสองมหาลัยชั้นยอด แต่ตอนนี้พวกเขาอ่อนแอกว่าอีกฝ่ายทุกด้าน หลายคนจึงรู้สึกไม่พอใจ
ที่จริงคนที่แข็งแกร่งที่สุดยังคงมาจากกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นอันดับปรมาจารย์หรือขั้นต่ำกว่า ยอดยุทธหลายคนมาจากกองทัพทั้งนั้น
เมื่อได้ยินความเห็นของนักศึกษา ไป๋รั่วซีก็พูดเบาๆ “คนเหล่านี้เสี่ยงชีวิตจนได้รับเกียรตินี้ เมื่อเทียบกับผู้ฝึกยุทธของกองทัพ นักศึกษามหาลัยวิชายุทธโชคดีกว่ามาก”
ผู้ฝึกยุทธของกองทัพบางคนยังไม่ได้กลายเป็นผู้ฝึกยุทธด้วยซ้ำ แต่พวกเขาก็ต้องต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายในถ้ำใต้ดินแล้ว
เมื่อพวกเขากลายเป็นผู้ฝึกยุทธ พวกเขาก็ไปสู้อยู่ทัพหน้าทันที
แน่นอนพวกเขาอาจไม่ได้เก่งรอบด้านอย่างนักศึกษาของโม๋อู่ เป้าหมายหลักของนักศึกษาโม๋อู่ไม่ได้เน้นที่การต่อสู้อย่างเดียว พวกเขาต้องเรียนหลักสูตรอย่างวัฒนธรรมศึกษาและบริหารด้วย
อย่างไรก็ตามการเก่งรอบด้านหมายความว่าไม่ได้มุ่งเน้นที่ด้านเดียว เมื่อรวบกับการขาดประสบการณ์และขาดการฝึกฝน มันเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะล้าหลังกว่าในด้านวิชายุทธ
“อาจารย์จะสอนวิชาความรู้ทั่วไปในสองวันนี้ พอถึงสุดสัปดาห์ เราจะเริ่มเรียนวิชาอื่น”
หลังพูดกับนักศึกษาไม่กี่ประโยค ไป๋รั่วซีก็เตือนพวกเขา
เมื่อถึงช่วงพัก ไป๋รั่วซีอยู่ๆก็เรียกฟางผิงและจ้าวเสวี่ยเหมย “อาจารย์ของพวกเธอไปถ้ำใต้ดินเมื่อวาน ถ้าพวกเธอมีคำถามอะไร มาถามอาจารย์ได้เลยนะ”
“อาจารย์ของเราไปถ้ำใต้ดินแล้ว?”
ฟางผิงขมวดคิ้วเล็กน้อย สถานการณ์ในถ้ำใต้ดินตึงเครียดขึ้นอีกแล้วเหรอ?