World’s Best Martial Artist - ตอนที่ 132.1 ภารกิจแรก (1)
แน่นอนฟางผิงย่อมไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหยางเฉิง
เขาอยากเก็บค่าคุ้มครอง แต่ไม่กล้าลอง
ฟางหยวนไม่มีความตั้งใจจะเก็บค่าคุ้มครอง แต่ดันเป็นคนอื่นที่มาหาเธอถึงหน้าประตูบังคับให้เธอรับเงิน
โชคดีที่ฟางผิงไม่รู้เรื่อง ไม่งั้นเขาอาจรีบกลับบ้านและบีบแก้มยัยเด็กนี่จนตาย
…..
วันที่ 1 พฤศจิกายน
วันเสาร์
คลาสฝึกพิเศษดำเนินมาเกือบเดือนแล้ว ในที่สุดฟางผิงก็มีโอกาสได้พบกับคณบดีหวงจิง
ณ โรงฝึก
หวงจิงสีหน้าเรียบเฉยพูดอย่างช้าๆ “เนื่องจากสถานการณ์ไม่ปกติที่ถ้ำใต้ดิน กองทัพในเซี่ยงไฮ้จึงสูญเสียผู้ฝึกยุทธขั้นกลางหลายสิบคนและผู้ฝึกยุทธต่ำกว่าขั้นสามอีกหลายร้อยคน!”
“ในโม๋อู่ อาจารย์สามคนเสียชีวิต! วันนี้เรายังไม่มีข่าวคราวของนักศึกษาอีกหลายคน”
“ถ้ำใต้ดินเริ่มอันตรายหนักขึ้นเรื่อยๆ เราถูกบังคับให้แจ้งเตือนสถานการณ์กับพวกคุณล่วงหน้าเพื่อให้พวกคุณเข้าใจถึงความอันตราย”
“โม๋อู่ จิงอู่ มหาลัยวิชายุทธทั่วไป มหาลัยวิชายุทธชั้นสอง…”
“เราไม่ได้ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของเรา!”
“เราหวังว่านักศึกษาโม๋อู่จะได้รับทรัพยากรมากขึ้น จ่ายในราคาที่ถูกลง และมียอดยุทธมากขึ้น”
“ด้วยเหตุนี้เราถึงมีชีวิตได้นานขึ้นเมื่อออกไปทำภารกิจ”
“พวกเราต่างเป็นมนุษย์ ถ้านี่คือสิ่งที่เราหวัง ผู้อื่นก็จะหวังเช่นเดียวกับเรา”
“พวกคุณเป็นลูกศิษย์ของเรา เป็นของล้ำค่าของเรา ศิษย์ของพวกเขาก็เป็นของล้ำค่าของพวกเขาเช่นกัน”
“ไม่มีใครอยากให้ใครตาย เราไม่อยากเห็นนักศึกษามหาลัยวิชายุทธทั่วไปตาย แต่ถ้าฉันถูกบีบให้เลือกช่วยชีวิตนักศึกษาของโม๋อู่หรือนักศึกษาของมหาลัยอื่น ฉันก็ได้แต่เลือกโม๋อู่”
“เรื่องนี้ไม่มีถูกผิด ถ้าฉันมองในมุมมองของมหาลัยวิชายุทธทั่วไป ฉันก็คงไม่เต็มใจและรู้สึกไม่ยุติธรรมพอกัน”
“ไม่ว่ายังไง ถ้าเราเป็นสมาชิกของโม๋อู่ เราก็ควรพิจารณาสิ่งที่ดีต่อโม๋อู่”
มีร่องรอยความเหนื่อยล้าในน้ำเสียงหวงจิง ไม่มีใครอยากสู้หรอก
แต่พวกเขาจำเป็นต้องสู้!
ใครบ้างจะอยากตาย?
การมีความแข็งแกร่งเพิ่มก็หมายความว่าจะมีโอกาสรอดชีวิตสูงขึ้น
“ดังนั้นการประลองสิ้นเทอมนี้จึงต้องมี ไม่มีทางหยุดได้ ฉันต้องบอกพวกคุณด้วยว่ามันจะโหดร้ายมาก!”
หวงจิงพูดอย่างดุร้าย “โหดร้าย มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้!”
“มีโอกาสเป็นหรือตาย”
“ทรัพยากรมีมากมาย แต่การผลิตเม็ดยา อาวุธ และทรัพยากรที่เป็นประโยชน์อย่างอื่นที่ถูกใช้ฝึกฝนทุกปีมีจำกัด”
“เมื่อคุณได้มาก ฉันก็จะได้น้อย”
“แต่ถ้าฉันได้มาก คุณก็จะได้น้อย”
“เราไม่เคยมีความตั้งใจปล่อยให้นักศึกษาใหม่มีอิทธิพลต่อโควต้า หรือตัดสินเรื่องความเป็นความตาย อย่างไรก็ตามทำไมเราถึงตัดสินใจปล่อยให้นักศึกษาใหม่เข้าร่วมงานประลองนี้ล่ะ?”
สีหน้าของหวงจิงเริ่มดูเย็นชาและแข็งกร้าว “นี่เป็นเพราะนักศึกษาใหม่อ่อนแอ ถ้าพวกเขาตาย มันก็ไม่น่าเสียดาย”
“เพราะเราลงทุนกับนักศึกษาใหม่น้อย เมื่อพวกเขาตาย ก็ไม่สูญเปล่ามากนัก”
“ก็ทำนองเดียวกัน นักศึกษาต้องอยู่มหาลัยมากกว่า พวกคุณจะได้รับผลประโยชน์ในอนาคต”
“ถ้าพวกคุณไม่สู้ นักศึกษาปีสามปีสี่ก็ไม่สนใจจะสู้ เพราะพวกเขามีความแข็งแกร่งระดับนึงแล้ว และกำลังจะจบการศึกษา”
“สรุปแล้ว มีแต่พวกคุณที่ต้องก้าวไปข้างหน้า”
“ควรแบกรับความรับผิดชอบและก้าวไปข้างหน้า”
เหล่านักศึกษาไม่ได้พูดอะไร น้ำเสียงของหวงจิงเบาลงมาก เขาฉีกยิ้มเล็กน้อย “แน่นอนมหาลัยไม่อยากให้คุณตาย พวกคุณเป็นอัจฉริยะ ถ้ามีการบาดเจ็บล้มตาย มันจะเป็นการสูญเสียของมนุษยชาติ”
“ดังนั้นงานประลองจึงมีมาตรการที่จำเป็นปกป้องพวกคุณ เรื่องนี้จะพูดกันภายหลัง”
“มาพูดถึงคลาสฝึกพิเศษกันต่อ”
“เนื่องจากเหตุผลเหล่านี้ เราย่อมมีความคาดหวังต่อคลาสฝึกพิเศษสูงขึ้น”
“ยิ่งพวกคุณแข็งแกร่งก็ยิ่งดี พวกเราเป็นนักศึกษามหาลัยวิชายุทธ ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธทั่วไป ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธที่มีแต่ปราณและเลือด พวกเราไม่ตัดสินคุณแค่ปราณและเลือดและความเร็วการขัดเกลากระดูก”
“เดือนก่อน ทุกคนได้เรียนรู้พื้นฐานแล้ว”
“ดังนั้นเดือนนี้จะเป็นเวลาให้พวกคุณก้าวสู่ขั้นต่อไป!”
เมื่อสิ้นคำพูด หวงจิงก็อธิบาย “สภาพแวดล้อมที่สงบสุขจะไม่ทำให้เกิดยอดยุทธ!”
“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป พวกคุณจะแบ่งออกเป็นห้าทีม ทีมละสิบคน แต่ละทีมจะมีอาจารย์ท่านนึงพานักศึกษาออกไปทำภารกิจ!”
“เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีกว่าและเงื่อนไขการเติบโตที่ดีกว่าให้ทุกคน ทางมหาลัยตัดสินใจว่าแต่ละภารกิจที่พวกคุณทำสำเร็จ รางวัลที่ได้แต่เดิมนั้นจะเพิ่มเป็นสองเท่า!”
“ตอนแรก ทำภารกิจสำเร็จภารกิจนึงจะได้ 5 คะแนน แต่ตอนนี้เป็น 10 คะแนน!”
“ระหว่างภารกิจ ผู้ที่แสดงความพยายามมากจะได้รับรางวัลมาก เรื่องนี้จะถูกสังเกตและตัดสินโดยอาจารย์ประจำทีม”
“เดือนพฤศจิกายน คุณจะได้เห็นโลกเป็นครั้งแรก”
“เมื่อถึงเดือนธันวา ใน 50 คน จะมี 10 คนถูกเลือกไปฝึกพิเศษเพื่อร่วมงานประลอง!”
“ตอนนี้วันประลองยังไม่ถูกกำหนด อย่างไรก็ตามช้าสุดจะเป็นเดือนมกราคม อาจเป็นกลางเดือนหรือเร็วกว่านั้น” Aileen-novel
“เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว!”
ขณะที่หวงจิงพูด เขาก็พูดต่ออย่างลึกซึ้ง “อย่ามองว่าตัวเองเหนือกว่านักศึกษามหาลัยวิชายุทธทั่วไป!”
“จากที่ทราบมา ทุกมหาลัยต่างก็พยายามเต็มที่เพื่อฝึกฝนเฟ้นหาอัจฉริยะ”
“ตอนนี้ ฉันได้รับแจ้งมาว่าแต่ละมหาลัยมีผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งสามถึงห้าคน!”
“มีมหาลัยวิชายุทธทั่วไปเป็นจำนวนมาก จำนวนผู้ฝึกยุทธของพวกเขารวมกันแล้วไม่น้อยไปกว่าโม๋อู่หรือจิงอู่”
“พวกเขาไม่มีอะไรจะเสีย ถ้าพวกเขาชนะ พวกเขาก็จะได้รับผลประโยชน์ ถ้าพวกเขาแพ้ พวกเขาก็ไม่เสียอะไร”
“พวกเขาแพ้ได้ แต่พวกเราไม่ได้”
“นี่คือทั้งหมดที่ฉันอยากพูด เราจะแบ่งกลุ่มกันวันนี้ ตัดสินใจว่าจะติดตามอาจารย์ท่านใด นักเรียนไม่ควรอยู่กลุ่มเดียวกับอาจารย์ของตนเอง!”
หลังพูดสรุป เหล่านักศึกษาก็เริ่มซุบซิบกัน
ถ้าพวกเขาติดตามอาจารย์ของตนเองไม่ได้ จะเกิดอะไรขึ้นล่ะถ้าอาจารย์คนอื่นที่พวกเขาเลือกไม่ยอมช่วยพวกเขาในช่วงอันตราย?
หวงจิงไม่สนใจพวกเขา ในแง่นึง การเตรียมการแบบนี้มีไว้เพื่อทำให้นักศึกษารู้สึกถึงความวิกฤต อีกแง่นึงก็เพื่อความเป็นธรรม
ในระหว่างดำเนินภารกิจ อาจารย์จะเป็นผู้ตัดสิน ถ้าพวกเขาชี้แนะศิษย์ของตน มันคงเกิดการลำเอียงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
…..
หวงจิงแค่มาอธิบายเท่านั้น จากนั้นเขาก็จากไปอย่างเร่งรีบ
ปัญหาในถ้ำใต้ดินยังไม่ได้ถูกแก้ไข
หลังจากนี้ เขาต้องไปหารือกับแต่ละมหาลัยเพื่อจัดเตรียมรายละเอียดของงานประลอง
ไม่มีความจำเป็นที่เหล่าปรมาจารย์จะมาเกี่ยวข้องกับข้อโต้แย้งในเรื่องเหล่านี้ แต่เพื่อผลประโยชน์และส่วนได้ส่วนเสีย มันจึงจัดการยากหากไม่มีปรมาจารย์
“เงียบ!”
เมื่อหวงจิงจากไป ถังเฟิงก็คำราม เสียงพูดคุยของเหล่านักศึกษาจึงเงียบไป
“พวกคุณจะถูกแบ่งเป็นกลุ่มเดี๋ยวนี้!”
ผู้ฝึกยุทธเป็นคนตรงไปตรงมามาก ถังเฟิงไม่พูดจาไร้สาระ เขาพูดขึ้นมาทันที “ฟางผิง จ้าวเหล่ย ฟู่ชางติ่ง หยางเสี่ยวม่าน และเฉินหยุนซีจะเป็นหัวหน้าทีม พวกคุณจะเป็นผู้นำของแต่ละทีม!”
ฟู่ชางติ่งพูดอย่างขมขื่น “ฉันคิดว่าฉันจะได้อยู่ทีมเดียวกับสาวสวย จัดทีมแบบนี้ยุติธรรมตรงไหน?”
ถังเฟิงไม่ได้ตำหนิ กลับกันเขาเผยรอยยิ้มออกมา “แน่นอน จางเยว่ เซี่ยเหวินโยว ทั้งสองจะอยู่ทีมกับฟู่ชางติ่ง!”
ท่ามกลางเหล่านักศึกษา สาวสวยสองคนที่ได้สิทธิพิเศษเข้ามามีสีหน้าเขินๆ พวกเธอเดินมาอยู่ข้างๆฟู่ชางติ่งอย่างเขินอาย
ฟู่ชางติ่งสีหน้าเขียวคล้ำ!
‘ฉันแค่พูดเล่น อาจารย์ดันเอาจริง!’
เขาไม่ได้โง่ การแบ่งทีมครั้งนี้ควรเน้นเพื่อนร่วมทีมที่มีความสามารถแข็งแกร่ง ตอนนี้มีตัวถ่วงสองคนแล้ว เขาย่อมมีปัญหา!
เรื่องนี้ไม่ใช่เล่นๆ ฟู่ชางติ่งไม่ใช่มือใหม่ไร้เดียงสา เราอาจตายได้ระหว่างทำภารกิจ
เนื่องจากถังเฟิงตัดสินใจแล้ว จึงไม่มีทางแก้ไขสถานการณ์ ถังเฟิงผู้ฝึกยุทธขั้นหกสูงสุดย่อมไม่ล้อเล่นอยู่แล้ว
สีหน้าของฟู่ชางติ่งดูอึดอัดเล็กน้อย เขายิ้มแห้งให้สาวๆ รอยยิ้มดูขมขื่นเล็กน้อย
ถังเฟิงไม่สนใจ หลัวอี้ชวน อาจารย์ของฟู่ชางติ่งไม่ได้มองเขาเช่นกัน ‘ปากพล่อยเอง คิดเหรอว่าจะไม่มีใครสนบทเรียนให้จริงๆ?’
ฟางผิงดูมีความสุขกับความทุกข์คนอื่น เขากระซิบเสียงเบา “พอใจแล้วใช่มั้ย? สาวสวยสองคน อาหารตา…”
“ไสหัวไป!”
“ฟางผิง คุณแข็งแกร่งที่สุด แถมยังเป็นหัวหน้าคลาส คนเก่งควรมีงานเพิ่ม”
ถังเฟิงพูดต่อ “จ้าวชิง อู่เค่อเผิง โจวเยว่หง…จะอยู่ร่วมทีมกับคุณ!”
“อาจารย์!”
ฟางผิงสลด ‘คุณไม่ใช้ตำแหน่งแก้แค้นเรื่องส่วนตัวไม่ได้รึไง?’
ทุกคนรู้ว่าการมีเพื่อนร่วมทีมที่แข็งแกร่งหมายความว่าภารกิจจะง่ายขึ้น ทำให้เสร็จเร็วขึ้น
การบังคับให้เขานำทีมผู้ฝึกยุทธอ่อนแอ…มันดูเหมือนพยายามสร้างปัญหาให้เขา
ในทีม นอกจากฟางผิงที่มีฝีมือแข็งแกร่ง จ้าวเสวี่ยเหมยก็อยู่ทีมด้วย ถังซ่งถิงก็อยู่ด้วย ทั้งสองมีฝีมือไม่เบา
ส่วนคนอื่นอีก 7 คน 5 คนมักอยู่อันดับล่างสุดของคลาสฝึกพิเศษ
ถังเฟิงพูดสีหน้าไม่เปลี่ยน “คุณมีความเห็นอะไรอยากพูดไหม? ถ้ามีอะไรก็พูดมาเลย อย่างไรก็ตามเพื่อเฉลี่ยความแข็งแกร่ง การจัดทีมถูกตัดสินแล้ว!”
“ผม…”
ฟางผิงแทบกระอักเลือด ถ้ามันถูกตัดสินแล้ว ความเห็นเขาจะมีประโยชน์อะไร!