World’s Best Martial Artist - ตอนที่ 164.1 ความจริงในโลกของผู้ฝึกยุทธ (1)
บนเวทีประลอง
ฟางผิงกินยาปราณและเลือดขั้นหนึ่งสองเม็ดรวด ปราณและเลือดเขาฟื้นฟูขึ้นมาครึ่งนึงในพริบตา
เมื่อเห็นฝั่งจิงอู่คนสุดท้ายเข้ามาในสนามประลอง ฟางผิงก็ยิ้ม อย่าหนี ถ้าผ่านไปสามดาบแล้วนายไม่ตาย นายทำตามอำเภอใจได้เลย
หลิวฮ่าวหมิงอยากร้องไห้
เขาเป็นเพียงสมาชิกทีมสำรอง แม้ว่าเขาจะเป็นขั้นหนึ่งสูงสุด แต่เขาอ่อนแอกว่าทีมหลักมากโข
พวกเขาให้หานซวี่เป็นคนที่สามและฟางเหวินเสียงเป็นคนที่สี่ จิงอู่คิดว่าคนที่ห้าไม่ต้องขึ้นประลองด้วยซ้ำ
แล้วตอนนี้ล่ะเกิดอะไรขึ้น?
หานซวี่แพ้ยับเยิน เขาถูกผู้หญิงจัดการอย่างดุดัน ส่วนฟางเหวินเสียงย่ำแย่กว่านั้นอีก เขาเกือบถูกดาบฟันตาย
ตอนนี้ฟางผิงจากโม๋อู่ฟื้นฟูปราณและเลือดแล้ว แถมเขายังสำเร็จกระบวนท่าไม้ตาย เขาควรสู้ยังไงดี?
หลังผ่อนลมหายใจออกเบาๆ หลิวฮ่าวหมิงก็ยอมรับว่าเขาจะแพ้ แต่เขาหลีกเลี่ยงการประลองรอบนี้ไม่ได้
กรรมการประกาศเริ่ม
กระบวนท่าแรกของฟางผิงเป็นการฟันโดยใช้กระบวนท่าไม้ตาย!
หลิวฮ่าวหมิงถอยร่นไปอย่างเร่งรีบ
นายคิดว่าท่าร่างฉันช้ากว่านายจริงเหรอ!
ฟางผิงก้าวย่างกลางอากาศไล่กวดคู่ต่อสู้!
…
นี่คือ…?
หลิวหัวหรงตะลึง เฉินเสวี่ยเยี่ยนมองอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างไม่แน่ใจ เขา…กำลังอวดความสามารถเหรอ?
เอ่อ…น่าจะเป็นอย่างที่คุณพูด!
หลิวหัวหรงพูดไม่ออก ฟางผิงกำลังอวดวิชา!
ให้ตายเถอะ คุณจำเป็นต้องก้าวย่างผ่านอากาศเพียงเพื่อไล่กวดคนๆนึงจริงสิ?
ต่อให้ฟางผิงบรรลุขั้นว่างเปล่า แต่มันก็ทำได้แค่ระยะสั้นๆเท่านั้น นอกจากนี้ถ้าใช้โดยไม่จำเป็น มันไม่มีอะไรคุ้มเลย เพราะอัตราการผลาญปราณและเลือดสูงมาก
ฟางผิงดูไม่สนใจเลย!
เมื่อทะยานขึ้นบนอากาศ ดาบในมือก็ฟันลงมา!
หลิวฮ่าวหมิงกลิ้งตัวหลบอย่างเลิ่กลั่ก
ฟางผิงฟันพื้นเวทีจนเป็นหลุมด้วยดาบเดียว!
วินาทีถัดมา ฟางผิงก็ใช้กระบวนท่าไม้ตายอีกครั้ง ไล่ตามอีกฝ่ายไปติดๆ เขาไม่สนใจว่าหลิวฮ่าวหมิงจะถอยหลบหรือไม่ เขาเล็งที่เสาแล้วฟันลงมา!
เกิดเสียงดังปัง เสาที่สองแตกเป็นชิ้นๆ
กรรมการสีหน้าอึมครึม เจ้าเด็กนี่กำลังทำอะไร?
ฟางผิงไม่สนใจ เขาหยุดครู่หนึ่ง ควักเม็ดยาออกมากินและเผยรอยยิ้มเหี้ยม นายจะยอมแพ้ไหม? ฉันฟันมั่ว ถ้านายตาย จะยอมแพ้ก็สายไปแล้ว!
ด้วยการฟันมั่ว ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะโจมตีลงที่ไหน ถ้าเขาเผลอฆ่าคนไป มันก็ไม่น่าแปลกใจเลย
หลิวฮ่าวหมิงยังคงเงียบ
ฟางผิงไม่เปิดโอกาสให้พูด เขาทะยานขึ้นบนอากาศอีกครั้งและฟันลงมา!
ปัง!
คราวนี้หลิวฮ่าวหมิงหลบไม่พ้น เขาถูกโจมตีกระเด็นไปไกล
เลือดกระเซ็นซ่านกลางอากาศ เป็นภาพที่บีบรัดหัวใจ
ฟางผิงไม่ได้ยินเสียงใครยอมแพ้ เขาจึงฟันลงมาอีกครั้งโดยไม่ลังเล!
ใช้กระบวนท่าไม้ตายเหมือนไม่มีอะไร…มันยังเป็นกระบวนท่าไม้ตายได้อยู่เหรอ?
หลิวฮ่าวหมิงสับสน กระบวนท่าไม้ตายอะไรกัน!
กระบวนท่าไม้ตายมักถูกใช้เป็นทางเลือกสุดท้าย หลังใช้ไปแล้วก็ต้องหาทางหลบหนีไม่ให้ถูกสวนกลับจนตาย
แล้วตอนนี้ล่ะ?
ฟางผิงทำเหมือนกับไม่ต้องการเงิน ตั้งแต่ประลองรอบก่อน เขาฟันไปกี่ครั้งแล้ว?
แถมเขายังก้าวย่างกลางอากาศอวดความสามารถ ที่บ้านผลิตยาปราณและเลือดรึไง?
หลิวฮ่าวหมิงสติเลือนราง เขาไม่ได้เชี่ยวชาญการป้องกันเหมือนฟางเหวินเสียง เขาแทบถูกฆ่าตายในดาบเดียว
…
บนชั้นสอง อาจารย์จิงอู่หลายคนแลกเปลี่ยนสายตากัน จากนั้นก็มีคนถอนหายใจออกมา ยอมแพ้!
พวกเขาได้แต่ยอมแพ้เท่านั้น รอบนี้ไม่ใช่คู่มืออีกฝ่ายจริงๆ
หวงจิ่งแทบหุบยิ้มไม่ได้ กลับกันถังเฟิงมีสีหน้าแปลกๆ เขารู้สึกสงสัยอยู่ในใจ รอบนี้ฟางผิงจะขอเม็ดยาชดเชยกี่เม็ดกัน?
ฟางผิงกินยาปราณและเลือดขั้นหนึ่งไปแล้วสี่เม็ด!
เขาไม่ได้สู้เพื่อการประลอง เขาสู้เพื่อเงิน!
ฟางผิงเจตนาทำ ก็ต่อเมื่อเขากินเม็ดยา เขาถึงจะได้เม็ดยามาใหม่ แล้วค่าทรัพย์สินเขาถึงเพิ่มขึ้น ถ้าเขาไม่ใช้ยาเลย ทางมหาลัยก็ไม่มีทางชดเชยให้!
…
โม๋อู่ชนะ!
กรรมการประกาศชัยชนะ หลิวฮ่าวหมิงถูกหามลงจากสนาม
หลิวหัวหรงพูดไม่ออก เวลาผ่านไปสักครู่เขาถึงพูดขึ้นมา ฟางเหวินเสียงบาดเจ็บสาหัส หลิวฮ่าวหมิงบาดเจ็บสาหัส สามคนก่อนหน้านี้ก็บาดเจ็บสาหัส…
พรุ่งนี้จิงอู่จะประลองได้อย่างไร?
นี่เป็นความจริง พรุ่งนี้จิงอู่จะประลองได้อย่างไร?
จางเจิ้งกวงกับหลี่หรานจะประลองไหวเหรอ?
ต่อให้พวกเขาไหว แต่พวกเขาจะใช่คู่มือของเฉินเจียเซิงเหรอ?
ผลการประลองคาดเดาได้ยากขึ้นเรื่อยๆ พันธมิตรมหาลัยวิชายุทธอาจมีโอกาสพลิกสถานการณ์ หลิวหัวหรงพูด
พวกเขาอาจมีโอกาสจริงๆ!
ถ้าพรุ่งนี้จิงอู่แพ้ กรณีที่แย่ที่สุดพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธจะได้อันดับสอง จิงอู่จะตกเป็นอันดับสาม
จิงอู่ที่เริ่มต้นมาอย่างไร้ความเกรงกลัวแทบถูกโม๋อู่ทำลาย
แต่อันที่จริง สมาชิกครึ่งนึงก็ถูกทำลายไปแล้ว
หากฟางเหวินเสียงที่บรรลุระเบิดปราณและเลือดถึง 80แคลเพียงคนเดียวไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถ้าเขาเผชิญกับเฉินเจียเซิง เขาอาจมีโอกาสชนะ
แต่ตอนนี้ จิงอู่มีใครที่ต่อกรกับเฉินเจียเซิงได้อีกเหรอ?
…
นอกเวทีประลอง
ฟางผิงดูผ่อนคลายมาก เขาเห็นถังเฟิงแล้ว แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูด ถังเฟิงก็ถอนหายใจออกมา ห้าเม็ด
อาจารย์…
ถ้าคุณกินยาโดยไม่มีเหตุผลอีก ฉันจะทำให้คุณถอนตัวจากการประลอง!
ถังเฟิงก็พูดไม่ออก เจ้าหนูนี่อวดความสามารถในเวทีประลอง!
ให้ตายเถอะ เหยียบอากาศไม่ใช่การก้าวย่าง แต่เป็นการเผาเงิน!
แค่ย่างก้าวเดียวก็มีค่าใช้จ่ายครึ่งนึงของเม็ดยาปราณและเลือดขั้นหนึ่ง!
ขณะที่เขาพูด ถังเฟิงก็เริ่มสงสัย คุณดูดซับยาได้เร็วแค่ไหน?
ถ้ายาขั้นหนึ่งก็ประมาณสองสามวิ ขั้นสองจะเริ่มช้าลง ผมเลยใช้ยาขั้นสูงในการประลองไม่ได้…
มันเป็นคำอธิบายที่เหมาะสมว่าทำไมเขาถึงไม่ใช้ยาขั้นสอง ขณะเดียวกันมันยังทำให้ทุกคนสบายใจด้วย เขาทำให้ทุกคนคิดว่าเขาย่อยได้แต่ยาที่อยู่ระดับขั้นเดียวกัน ทุกคนจะได้ไม่กังวลว่าเขาทรงพลังเกินไป
ฟางผิงอธิบายแล้วเอ่ยถามทันที พรุ่งนี้จิงอู่ยังประลองได้ไหม?
ไม่แน่ใจ หลี่หรานกับจางเจิ้งกวงอาจร่วมประลอง บวกกับขั้นหนึ่งสูงสุดอีกสามคน พวกเขาอาจจะยังมีโอกาส
พันธมิตรมหาลัยวิชายุทธก็สภาพไม่สมบูรณ์…
พันธมิตรมหาลัยวิชายุทธมีใครอีกที่ยังสู้ไหว?
นอกจากเฉินเจียเซิง ก็มีผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งชั้นสูงที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนอื่นๆบาดเจ็บสาหัส
แต่ทีมสำรองของจิงอู่แข็งแกร่ง จากผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งสูงสุดห้าคน ตอนนี้ยังเหลืออีกสามคน
แม้ว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ให้กับโม๋อู่ แต่พวกเขาก็ยังมีพลังต่อสู้
รอดูเอาเถอะ ยังไงเราก็ต้องรอประลองรอบสุดท้ายในวันมะรืน ไม่ว่าจะประลองกับพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธหรือประลองกับจิงอู่ มันก็เหมือนๆกัน
ฟางผิงไม่แยแสเรื่องนี้ เขาถอนหายใจออกมา อาจารย์ หานซวี่อ่อนแอเกินไป ผมไม่ได้เจอเขาด้วยซ้ำ ผมยังจะได้ 100 คะแนนนั้นอยู่ไหม?
หานซวี่ถูกทำลายด้วยความพยายามของฟู่ชางติ่งกับหยางเสี่ยวม่าน ฟางผิงไม่ได้ประมือกับอีกฝ่าย ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่ามหาลัยจะคำนวณรางวัลอย่างไร
ไว้ค่อยว่ากัน!
ถังเฟิงแค่นเสียง เจ้าเด็กนี่ ช่วงนี้เขาใช้ทรัพยากรไปมากเท่าไหร่แล้ว?
พวกเขาคุยกันไปพลาง เดินไปห้องพยาบาลไปพลาง
ถังซ่งถิงสองมือตบโต๊ะ รีบเอ่ยถามขึ้นมา เป็นไงบ้าง?
ฟางผิงตอบอย่างเรียบเฉย ฉันบอกนายแล้วว่าไม่จำเป็นต้องให้ได้รับบาดเจ็บ แต่นายไม่ฟังฉัน
มีฉันอยู่บนเวทีประลอง นายคิดว่าเป็นไงล่ะ?
ฟางเหวินเสียงบาดเจ็บสาหัส หลิวฮ่าวหมิงบาดเจ็บสาหัส…
ฉันเห็นแล้วเมื่อกี้ ถังซ่งถิงพูดเสริม เมื่อกี้เขาพึ่งเห็นพวกเขาถูกหามมา สิ่งเดียวที่เขาคาดไม่ถึงก็คือเสื้อผ้าของฟางผิงอยู่ในสภาพเดิม!
เวลานี้หยางเสี่ยวม่านก็ได้สติเช่นกัน เธอยังคงสับสนเล็กน้อย เธอพึมพำอะไรบางอย่าง แต่ฟางผิงไม่เข้าใจว่าเธอพูดอะไร
ฟางผิงพูดขึ้นมา เจอผลกระทบจนเป็นเอ๋อไปแล้วเหรอ?
ไสหัวไปเลย!
หยางเสี่ยวม่านตะโกนอย่างอ่อนแรง จากนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนหัวถูกแยกเป็นสองส่วน เธอฝืนพูดออกมา หน้าฉัน…
ฟางผิงอดเบือนหน้าหนีไม่ได้
ฟู่ชางติ่งก็ถอนหายใจเช่นกันแล้วก้มหน้างุด
ทุกคนก็ก้มหน้าลงโดยไม่พูดอะไร
ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่อยากพูด แต่ทั้งสองถลึงตามองพวกเขา พวกเขาจึงไม่กล้าตอบ
เฉินหยุนซีกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฟางผิงก็ถอนหายใจออกมา ไม่เป็นไรหรอก ผู้ฝึกยุทธหญิง เธอไม่ถูกปฏิบัติเหมือนผู้หญิงอยู่แล้ว…
ฉะ…ฉัน จริงเหรอ…
หยางเสี่ยวม่านพึ่งฟื้นสติกลับมา เมื่อได้ยินคำพูดพวกเขา เธอก็ริ้นด้วยหยาดน้ำตา
‘ฉันเสียโฉมแล้วจริงเหรอ?’
ฟางผิงพยายามปลอบเธอ ไม่เป็นไรจริงๆ ครอบครัวเธอรวย เธอไปศัลยกรรมก็ได้แล้ว…
ฟางผิง!
เฉินหยุนซีตำหนิเขาทันทีแล้วรีบหันไปปลอบ เสี่ยวม่าน ไม่เป็นไรหรอก เธอแค่หน้าผากแตก ไม่นานก็หายแล้ว
จริงเหรอ?
จริงสิ
งะ…งั้น มีกระจกไหม?
…
ฟางผิงเบ้ปาก เขามองจ้าวเสวี่ยเหมยที่กำลังนอนอยู่บนอีกเตียง เวลานี้เธอยังคงหลับลึกอยู่
พวกนายก็นะ ถ้าสู้ไม่ได้ ฉันก็บอกให้ยอมแพ้แล้วไม่ใช่เหรอ? พวกนายดันดื้อ ไม่ยอมฟังฉัน
ฉันคนเดียวก็พอแล้ว
เอายาของนายมาให้ฉัน แล้วฉันจะจัดการเอง ดูสภาพพวกนายตอนนี้สิ พวกนายต้องหยอดน้ำข้าวต้ม เสียเวลาฝึกวิชา
มหาลัยก็อีก ให้ฉันเป็นคนสุดท้ายเพื่อปรามฉัน…
ไป๋รั่วซีที่ปกติโกรธยากตะคอกอย่างอดไม่ได้ ฟางผิง หุบปาก!
ฟางผิงขำแห้งและรีบเปลี่ยนหัวข้อ อาจารย์ วันมะรืนเราจะจัดทีมยังไง?
ขึ้นอยู่กับสถานการณ์พรุ่งนี้
ขึ้นอยู่กับว่าจิงอู่เหลือความแข็งแกร่งแค่ไหน เราจะพยายามเต็มที่เพื่อให้ทุกคนมีประสบการณ์บนสนามประลอง
ตอนนี้มีหลายคนที่ยังไม่ได้สู้ จ้าวเหล่ย จินเหลย สวี่อี้ข่าย หลี่จ้าวสวี่ และเฉินหยุนซี
ถ้าทุกคนต้องขึ้นประลอง งั้นฟางผิงก็หมดหน้าที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้แต่ราชสีห์ยังทุ่มสุดกำลังเพื่อล่ากระต่าย ไม่มีเหตุผลที่ไม่ให้ฟางผิงประลอง แต่เป็นไปได้มากสุดก็คือเขาเป็นคนเก็บกวาดเฉยๆ
ฟางผิงกล่าวอย่างเสียใจ เมื่อวานผมควรจัดการห้าคนติดไปเลย ผมอาจไม่มีโอกาสแบบนั้นอีกแล้ว
การประลองมีความสำคัญเพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากร พูดตามตรง มันเป็นการประลองของผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งเท่านั้น มันไม่ได้สำคัญนัก
คำพูดของไป๋รั่วซีกระแทกเข้าที่กลางอกของทุกคน
มันเป็นการประลองของผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะมันเป็นการต่อสู้เพื่อชัยชนะของแต่ละมหาลัย คงไม่มีใครพูดเรื่องนี้ด้วยซ้ำ
ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งสี่สิบคน ขอแค่มีขั้นสี่สักคน พวกเขาถูกบีบตายได้ง่ายๆเลย
ฟางผิงถอนหายใจ ถ้าไม่ใช่เพราะการประลอง ผมคงทะลวงขั้นสองไปนานแล้ว ถ้าผมรู้ว่าคนพวกนี้อ่อนแอแบบนี้ ผมทะลวงขั้นสองไปเลยดีกว่า
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับงานประลอง เขาต้องทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อฝึกวิชาต่อสู้
ไม่งั้น เขาทะลวงขั้นสองก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริง
ไป๋รั่วซีไม่รู้จะตอบยังไง เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
เวลานั้นเอง ถังเฟิงก็โผล่มาอีกครั้ง เขาแค่นเสียงทันทีเมื่อผ่านประตูเข้ามา มั่นใจแบบนี้ พองานประลองจบ ฉันจะส่งคุณไปถ้ำใต้ดินทันที!
ฟางผิงสบถอยู่ในใจ สิงโตถังไม่เคยชอบใจเขา!
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาอ่อนแอ เขาจะทุบสิงโตเป็นก้อนเนื้อแน่!
หลังคุยกันสักพัก ผู้บาดเจ็บทุกคนยังต้องพักผ่อน ทุกคนจึงแยกย้ายกันไป