World’s Best Martial Artist - ตอนที่ 71
ตอนที่ 71 ฝึกฝนเคล็ดวิชาต่อสู้
สองวันต่อมา ฟางผิงได้รับน้ำยาเสริมสร้างร่างกายและแผ่นซีดีชี้แนะที่ส่งมาจากหวังจินหยาง
พนักงานส่งของไม่ได้สะเพร่าเหมือนครั้งก่อน พนักงานได้ตรวจสอบตัวตนของฟางผิงอย่างเคร่งครัด รวมทั้งยังตรวจบัตรประชาชนและหมายเลขโทรศัพท์มือถือ…
หลังจากนั้นเขาถึงได้ส่งพัสดุให้ฟางผิงอย่างระมัดระวัง
มีน้ำยาเสริมสร้างร่างกายอยู่สามขวด มันเป็นขวดคริสตัลใส แต่ละขวดมียาอยู่ 100 มิลลิลิตร
แถมยังมีวิธีการใช้อย่างละเอียดแถมมาด้วย…
มันมีเพียงไม่กี่ประโยคเท่านั้น น้ำยาสามารถเทใส่อ่างได้ อัตราส่วนของน้ำยาต่อน้ำถูกระบุไว้
แน่นอน น้ำยาไม่ต้องใช้อาบก็ได้ จะเอามาใช้กับผิวหนังเลยก็ได้ แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะทาให้ทั่วตัวอย่างเสมอกัน ดังนั้นเอาไปอาบจะเหมาะสมมากกว่า
แม้ว่ามันจะถูกจัดเป็นของเหลว แต่น้ำยาเป็นสารเหมือนกาวมากกว่า
ยาขวดนึงใช้ได้สิบครั้ง และใช้ได้ตลอดเวลา ตราบใดที่เรารู้สึกว่าความแข็งแกร่งของร่างกายตามความแข็งแกร่งของปราณและเลือดไม่ทัน เราก็ใช้น้ำยาได้ทุกเมื่อเลย
ฟางผิงไม่ได้สนใจน้ำยาเสริมสร้างร่างกายมากนัก
สิ่งที่ฟางผิงสนใจตอนนี้คือแผ่นซีดีชี้แนะการฝึกฝนเคล็ดวิชาต่อสู้
สองวันก่อน เมื่อฟางผิงบอกว่าเขาจะส่งแผ่นซีดีมา ฟางผิงจึงได้ซื้อคอมพิวเตอร์มาเพื่อการนี้
…..
ย่านกวนหูหยวน
ไม่กี่วันมานี้ พ่อแม่เขายังไม่ได้ย้ายมาอยู่นี่อย่างเป็นทางการ แต่ฟางผิงกับฟางหยวนเริ่มอาศัยอยู่ในบ้านใหม่แล้ว
สองพี่น้องแค่กลับไปกินข้าวเย็นที่บ้านหลังเก่าแล้วกลับมานอน
หลี่อวี้อิงจะมาทำความสะอาดตอนช่วงบ่ายที่เธอว่าง แต่เธอยังไม่ได้ย้ายมาอยู่บ้านใหม่
เรื่องที่ลูกชายกับลูกสาวมาอยู่ที่ใหม่ก่อนที่พวกเขาจะย้ายมาอยู่จริง เธอทำอะไรไม่ได้นัก
ฟางผิงบอกว่าบ้านใหม่มีอุปกรณ์ออกกำลังกาย เขาจึงอยากมาฝึกฝนที่นี่
ลูกสาวเธอบอกว่า ฟางผิงไม่อยู่บ้าน เธอกลัวเหงา เธอจึงย้ายมาอยู่กับฟางผิงเพื่อที่จะได้ดูแลพี่ชายไปด้วย
คำพูดของฟางผิงยังคงน่าเชื่อถืออยู่ ส่วนที่ฟางหยวนบอกว่าอยากดูแลฟางผิง หลี่อวี้อิงกับฟางผิงไม่เชื่อเลย
ห้องหนังสือชั้นบน
เขาใส่แผ่นซีดีแล้วกดเล่น
มีคลิปวีดีโอหลายคลิปปรากฏบนหน้าจออย่างรวดเร็ว
“วีดีโอชี้แนะการฝึกฝนเพลงหมัดขั้นพื้นฐาน”
“วีดีโอชี้แนะการฝึกฝนเพลงเตะขั้นพื้นฐาน”
“ฝึกฝนเพลงดาบ”
“ฝึกฝนเพลงหอก”
“ภาพรวมปัญหาการฝึกฝน”
…..
รวมทั้งหมดแล้ว มีคลิปวีดีโอมากกว่าสิบคลิปอยู่ในเมนู
นอกจากคลิปวีดีโอ ยังมีบันทึกเขียนด้วยลายมือของหวังจินหยางด้วย
“เพลงหมัดและเพลงเตะฝึกฝนได้โดยไม่มีอาจารย์มาคอยชี้แนะด้วยตัวเอง ส่วนอาวุธเย็นอย่าแตะต้อง แค่ดูก็พอ – หวังจินหยาง”
เมื่อฝึกฝนเพลงหมัดและเพลงเตะด้วยตัวเอง ต่อให้มันไม่มีผล อย่างน้อยมันก็ทำร้ายตัวเองได้ยาก
อย่างไรก็ตาม อาวุธเย็น ความประมาทเล็กน้อยก็ทำให้บาดเจ็บได้ นี่เป็นสิ่งที่ฟางผิงเข้าใจ
ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังไม่มีคุณสมบัติฝึก อาวุธเย็นเฉพาะทางในเมืองหยางเฉิงหาได้ยากยิ่ง แถมจะฝึกฝนในบ้านก็ไม่ได้
ดังนั้นคลิปวีดีโอแรกที่ฟางผิงเปิดจึงเป็น’เคล็ดเพลงเตะ’
เมื่อเขาเล่นวีดีโอ ชายสุภาพอายุสามสิบสี่สิบก็ปรากฏบนหน้าจอ ดูเหมือนมันจะถูกถ่ายในห้องฝึกซ้อม
ชายคนนั้นมีสีหน้าอ่อนโยน เขาสวมชุดฝึกฝนรัดรูปที่ขับเน้นแขนและขาอันยาว
เมื่อวีดีโอเริ่ม ชายคนนั้นก็พูด “การฝึกฝนเคล็ดเพลงเตะเริ่มจากความมั่นคง!”
“ถ้ายืนได้ไม่มั่นคง คุณจะล้มด้วยหมัดเดียวและกระเด็นด้วยลูกเตะเดียว งั้นเพลงเตะของคุณจะมีไว้แสดงเท่านั้น”
“ถ้าจวงกงไม่ถึงขั้นยืนมั่นคง ไม่ว่าคุณจะฝึกเคล็ดเพลงเตะดีแค่ไหน มันก็เป็นแค่ของไว้แสดงเท่านั้น…”
ชายคนนั้นพูดอย่างชัดเจน เขาไม่ได้ข้ามไปเรื่องวิธีฝึกฝนในทันที กลับกันเขาอธิบายพื้นฐานโดยรวมของเพลงเตะแทน
การฝึกจวงกงจนถึงขั้นยืนมั่นคงเป็นรากฐานของเคล็ดวิชาต่อสู้มากมาย
ยืนมั่นคงไม่ได้จำกัดความหมายตามตัวอักษรเท่านั้น การมาถึงขั้นยืนมั่นคงยังหมายถึงความสามารถในการควบคุมร่างกายได้ดีอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เพลงเตะจะพลาดเป้าและจบลงด้วยผู้เตะเสียสมดุลและล้มลง
เคล็ดวิชาต่อสู้แบบศาสตร์ต่อสู้แตกต่างจากวรยุทธแบบดั้งเดิม วรยุทธแบบดั้งเดิมเน้นการแสดงและความดูดี
ในทางตรงกันข้าม เคล็ดวิชาต่อสู้เน้นการระเบิดพลังและถึงตาย
รวบรวมพลัง ระเบิดพลัง และมั่นใจว่าการโจมตีจะสร้างความเสียหาย…นี่เป็นหัวใจหลักของเคล็ดวิชาต่อสู้มากมาย
ชายคนในวีดีโออธิบายด้วยวิธีที่เข้าใจง่าย ฟางผิงเคยอ่านแนวทางการฝึกฝนมาเช่นกัน ตอนนี้เมื่อเขาได้ฟัง เขาจึงเข้าใจอะไรหลายอย่างที่เขาไม่เคยเข้าใจมาก่อน และรู้สึกว่าตนเองได้รับอะไรมากมาย
ชายคนนี้สาธิตกระบวนท่าเรียบง่ายสองสามท่าและอธิบายไปด้วยอย่างไม่เร่งรีบ
ยิ่งฟางผิงฟังเท่าไหร่ เขาก็รู้สึกว่าชายในคลิปวีดีโอสุดยอดเท่านั้น อย่างน้อยคำอธิบายเคล็ดวิชาต่อสู้พื้นฐานของเขาก็เข้าใจได้ง่ายมากสำหรับมือใหม่อย่างฟางผิง
จากที่หวังจินหยางบอก คลิปวีดีโอนี้มาจากอาจารย์ที่มหาลัยวิชายุทธหนานเจียง พูดได้ว่าอาจารย์ที่มหาลัยวิชายุทธเป็นคนมีความสามารถมากเลยทีเดียว
…..
ก่อนที่เขาจะตระหนัก ฟางผิงก็ได้ดูคลิปวีดีโอไปกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว
ตอนจบคลิปวีดีโอ ฟางผิงเห็นการรวมกระบวนท่าที่อธิบายเมื่อครู่เป็นครั้งแรก
ขาซ้ายเขาก้าวไปข้างหน้า จากนั้นขาขวาก็เตะใส่กระสอบทราย
ก่อนที่ฟางผิงจะได้สติกลับมา กระสอบทรายที่ถูกแขวนไว้ก็แตกดังปัง พร้อมกับมีเม็ดโลหะพุ่งออกมาจากรอยแตก
“รวบรวมพลังและระเบิดออกมา คุณต้องฝึกฝนอย่างหนักเพื่อให้เชี่ยวชาญ”
“ผู้ฝึกยุทธมีปราณและเลือดมากมายเหนือกว่าคนธรรมดา”
“แต่ถึงกระนั้น ถ้าผู้ฝึกยุทธไม่รู้วิธีรวบรวมกำลังหรือระเบิดพลัง พวกเขาก็แค่คนที่มีสุขภาพดีกว่าคนธรรมดา พวกเขาไม่สามารถใช้ปราณและเลือดของตนในการต่อสู้ได้”
“ส่วนเคล็ดเพลงเตะพื้นฐาน สัญญาณที่บ่งบอกว่าเธอฝึกฝนสำเร็จแล้ว เห็นได้ชัดมาก”
“การจัดการใครสักคนอย่างร้ายแรงจนอีกฝ่ายลุกไม่ขึ้นหรือเตะคนจนลอย เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เป้าหมายของผู้ฝึกยุทธ”
“ด้วยเพลงเตะที่มีประสิทธิภาพ ทุกกระบวนท่าแฝงด้วยเคล็ดรวมพลังเล็กน้อย ซึ่งมันเป็นสิ่งที่นักศึกษาหลายคนเรียกว่าระเบิดพลังทีละนิดเช่นกัน!”
“เมื่อคู่ต่อสู้ถูกเตะกระเด็นจนลอย พลังจะถูกกำจัดออกกลางทาง การใช้พลังเต็มร้อยเปอร์เซ็นกับร่างกายของคนจะจบลงด้วยผลเท่ากับการโจมตีห้าสิบเปอร์เซ็นเท่านั้น”
“อย่างไรก็ตามอย่างที่คุณเห็น กระสอบทรายแตกทันทีที่ผมเตะ”
“ถ้ามันเป็นร่างกายมนุษย์ ผลของมันก็เหมือนกัน ความแข็งแกร่งของกระบวนท่าจะเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อลูกเตะไปถึงเป้าหมาย และพลังจะระเบิดทันที…”
ฟางผิงไม่ได้สังเกตมาก่อนเลย เขาย้อนไปดูวีดีโออย่างเร่งรีบ
ในช่วงที่ลูกเตะโดนกระสอบทราย ตรงจุดที่ปะทะกับขาขวาของกระสอบทรายก็ฉีกออก
กระสอบทรายไม่ได้แกว่งมากนัก ถ้าเอาหน้าอกมนุษย์ไปแทนที่กระสอบทราย มันคงไม่ได้ถูกเตะลอยอย่างเดียว แต่หน้าอกจะระเบิดทันที
“รวบรวมกำลังและระเบิดออกมา…”
ฟางผิงพึมพำกับตัวเอง จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “นอกจากนี้ให้ยึดติดกับอีกฝ่าย เมื่อระเบิดพลัง ต้องยึดติดอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายกระเด็นไป”
ขณะที่เขาพูด ฟางผิงก็นึกถึงเนื้อหาของวีดีโอ เขาลุกขึ้นยืนแล้วค่อยๆขยับขา
ครู่ต่อมา ฟางผิงตัวเซ เขาส่ายหน้า “ใช้ความแข็งแกร่งมากไปจะส่งผลให้ร่างกายสูญเสียความสมดุล การพลาดเป้าก็จะสร้างความเสียหายให้ตัวเองได้ง่าย ทำให้อีกฝ่ายเห็นช่องว่าง…”
เขานึกถึงการต่อสู้ระหว่างเขากับผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง
จะเรียกว่าประมือกันก็ยกยอตัวเองไปหน่อย
อันที่จริงมันเหมือนมวยวัด ชกต่อยกันมั่วซั่วมากกว่า
ฟางผิงไม่รู้เคล็ดรวมพลังหรือระเบิดพลัง และผู้หญิงคนนั้นก็เช่นกัน
แม้อีกฝ่ายจะเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่ง แต่ฟางผิงก็ยืนยันได้ว่าเธอไม่เคยเรียนเคล็ดวิชาต่อสู้มาก่อน หรือเคยฝึกมาก่อน
ถ้าเธอเป็นผู้ชายในคลิปวีดีโอ ต่อให้เขาเป็นขั้นหนึ่งเหมือนกัน ฟางผิงก็ไม่สงสัยเลยว่า แค่หมัดเดียวหรือลูกเตะเดียวก็ทำให้เขากระอักเลือดหรือกระดูกหักได้
“ผู้ฝึกยุทธนี่ต่างกันจริงๆ…”
“ถ้าฉันเชี่ยวชาญการใช้เคล็ดเพลงขา ต่อให้ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งสูงสุดอย่างถานเจิ้นผิงก็อาจจบชีวิต”
เวลานี้ ฟางผิงเข้าใจแล้วว่าจางหยงหมายความว่ายังไงที่บอกว่าพวกเขา’ไม่เหมือนกัน’
ผู้ฝึกยุทธของมหาลัยวิชายุทธ ผู้ฝึกยุทธของกองทัพ ผู้ฝึกยุทธทั่วไป…
ผู้ฝึกยุทธแต่ละประเภทต่างกันมาก
ฟางผิงเคยเห็นผู้ฝึกยุทธกองทัพมาก่อน จางหยงเป็นหนึ่งในนั้น แค่หมัดเบาๆ ผู้หญิงคนนั้นก็ถูกทำลาย เธอไม่มีเวลาตอบสนองด้วยซ้ำ
แม้ว่ามันจะเกี่ยวข้องกับที่จางหยงเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นสอง แต่เมื่อเขาคิดๆดู จางหยงเหวี่ยงหมัดมารวดเร็ว แม่นยำและรุนแรง
ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นสอง เธอก็อาจตอบสนองไม่ทันด้วยซ้ำ
ส่วนผู้ฝึกยุทธมหาลัยวิชายุทธ พลังที่แฝงอยู่ในลูกเตะของคนที่อยู่ในคลิปวีดีโอก็น่าทึ่งมากเช่นกัน
กระสอบทรายแตก ถ้าเปลี่ยนเป็นคน ผลลัพธ์ก็อาจคล้ายกัน
ผู้หญิงคนนั้นอาจเป็นผู้ฝึกยุทธทั่วไป ความสามารถเชิงวรยุทธของเธอ…ย่ำแย่มาก!
ต่อให้เป็นฟางผิง เด็กที่ไม่รู้เคล็ดวิชาต่อสู้เลยก็ประมือกับเธอได้พักใหญ่
ส่วนถานเจิ้นผิง ต่อให้ฟางผิงไม่เคยเห็นอีกฝ่ายต่อสู้ แต่เขาก็ประเมิณความสามารถอีกฝ่ายได้
เมื่อคิดได้ ฟางผิงก็กลับมาดูวีดีโอต่อ ครั้งนี้เขาดูและแก้ไขท่าทางตนเองไปพร้อมกัน รวบรวมปราณและเลือดเพื่อระเบิดพลัง
ความแข็งแกร่งอันน่าเหลือเชื่อของปราณและเลือดไหลเวียนอยู่ในร่างกาย แต่ตอนนี้มันถูกรวบรวมมาไว้ที่ขา ผลของมันชัดเจนมาก
ฟางผิงรู้สึกว่าขาเขาหนักขึ้น เมื่อเขาระเบิดพลัง พลังของเขาก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน
…..
สองชั่วโมงต่อมา
ขณะที่ฟางผิงกำลังจะฝึกฝนอีกรอบ ฟางหยวนก็ผลักประตูเข้ามา
สาวน้อยกวาดสายตาไปทั่วห้อง พูดอย่างเคืองๆ “ฟางผิง ดูฝีมือนายสิ!”
ฟางผิงได้สติ เขามองไปรอบๆห้อง
เขาดูคลิปวีดีโออยู่ในห้องหนังสือ แต่หลังฝึกฝนเคล็ดวิชาไปได้สักพัก ห้องหนังสือก็พังพินาศ
เขาเตะชั้นวางหนังสืออันใหม่ตอนไหนไม่รู้ มันมีรอยแตกด้านข้าง เศษไม้เกลื่อนอยู่บนพื้น
โซฟาเบดที่เขาซื้อมาไม่กี่วันก่อนก็พังเช่นกัน
ฟางผิงรู้สึกอายๆ เขาไม่ได้สังเกตเลย
ตอนนี้เขาถูกฟางหยวนจับได้คาหนังคาเขา ฟางผิงกระแอมแล้วกล่าว “เฟอร์นิเจอร์พวกนี้มันไม่ดี พี่บอกแล้วให้ซื้อรุ่นดีๆหน่อย แต่พ่อกับแม่ชอบของถูกพวกนี้”
“มันไม่สำคัญ ไว้สักสองวัน เดี๋ยวพี่จะไปซื้อของดีกว่านี้…”
ฟางหยวนกลอกตามองบน “เฟอร์นิเจอร์คุณภาพไม่ดียังขอคืนได้!”
“เพียงเพราะมันเป็นของไม่ดี แต่นายทำลายมันได้เหรอ?”
“ถ้าแม่มาเห็น แม่จะด่านายแน่นอน!”
เด็กสาวเจ็บปวด บ้านใหม่ เฟอร์นิเจอร์ใหม่ แต่พี่ชายเธอไม่รู้จักดูแลข้าวของเลย!
ในอดีต เธอไม่กล้าแม้แต่จะฝันว่าจะได้อาศัยอยู่บ้านแบบนี้ ดังนั้นสาวน้อยจึงใส่ใจเป็นพิเศษ ถ้าพื้นมีเศษฝุ่น เธอก็จะหาผ้ามาเช็ดทันที
เมื่อเห็นฟางผิงทำลายบ้านใหม่ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอความสามารถเในการต่อสู้ที่ย่ำแย่ เธอคงจัดการฟางผิงนานแล้ว!
“เอาล่ะ เมื่อกี้พี่ลืมตัวไปหน่อย ครั้งหน้าพี่จะไปฝึกที่ห้องยิม พื้นที่บ้านมันแคบไปหน่อย…”
ตอนที่เขาเข้าบ้านมาตอนแรก เขาคิดว่ามันค่อนข้างใหญ่
แต่ไม่กี่วันต่อมาล่ะ?
ฟางผิงรู้สึกว่าบ้านหลังนี้เล็กเกินไป!
เขาก็แค่ฝึกฝนเพลงหมัดและเพลงเตะนิดหน่อย ถ้าเขาถืออาวุธ ต่อให้เป็นห้องยิมก็คงมีพื้นที่ไม่เพียงพอ
เมื่อได้ยินฟางผิงบอกว่าบ้านหลังนี้เล็ก ฟางหยวนก็รู้สึกมึนงง
ไม่กี่วันที่สาวน้อยได้อาศัยอยู่ที่นี่ เธอรู้สึกเหมือนเธออยู่บนสวรรค์ ห้องชุดมีสองชั้นและมีพื้นที่กว้างขวางอย่างไม่น่าเชื่อ
เธอเอาเรื่องบ้านใหม่ไปอวดเพื่อนสนิท เพื่อนๆเธอก็อิจฉากันมาก
ในทางกลับกันพี่ชายเธอดันบอกว่าบ้านเล็ก…
ฟางหยวนรู้สึกเหมือนตัวเธอเริ่มไม่เข้าใจฟางผิงแล้ว นับตั้งแต่ที่ฟางผิงตัดสินใจสอบวิชายุทธ เขาก็เหมือนเปลี่ยนเป็นคนอื่น
ขณะที่ความคิดเหล่านี้แวบเข้ามาในหัว แก้มของฟางหยวนก็ถูกฟางผิงบีบ!
ฟางหยวนกลอกตา เปลี่ยน…ก็บ้าแล้ว! เขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย!