World’s Best Martial Artist - ตอนที่ 121.2 ระบบภารกิจ (2)
เขาเฝ้ามองทั้งสองเดินลับหายไป หัวใจเขาเต้นระรัว เขาคลิกเข้าไปที่หน้าภารกิจตำรวจก่อน
“จับกุมและสังหารอาชญากรที่ถูกหมายจับระดับ A กลุ่มอาชญากรสามคน มีอาวุธปืนในครอบครอง ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ ระดับความอันตราย : สูง ตำแหน่ง : ใกล้ชานเมืองเซี่ยงไฮ้…”
“แนะนำ : ผู้ฝึกยุทธขั้นสองหรือขั้นหนึ่งสูงสุด”
“รางวัล : เงินสดสามแสนหยวน”
“ช่วยเหลือตำรวจจับกุมพ่อค้ายา มีอาวุธปืนในครอบครอง ระดับความอันตราย : ปานกลาง…”
“แนะนำ : ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งสูงสุดขึ้นไป”
“รางวัล : เงินสดหนึ่งแสนหยวน”
“จับกุมหัวขโมย คนธรรมดา ไม่มีอาวุธปืน เป้าหมายซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับเขาคุนซาน มีความสามารถปกปิดร่องรอย ระดับความอันตราย : ต่ำ”
“แนะนำ : ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่ง
“รางวัล : เงินสดห้าหมื่นหยวน”
“…”
ฟางผิงกวาดตามอง มีภารกิจมากพอควรเลย บางภารกิจก็ไม่อันตราย แน่นอนรางวัลย่อมน้อยตามไปด้วย
ฟางผิงเห็นภารกิจค้นหามีทั้งหาคนและหาของ มันทำให้เขามึนงง
แน่นอนรางวัลภารกิจแบบนี้น้อยนิดยิ่งกว่าอีก มันมีตั้งแต่หลักไม่กี่พันหยวน
แต่ภารกิจพวกนี้ก็ไม่ได้ถูกทิ้งไว้ ผู้ฝึกยุทธที่ไม่ค่อยแข็งแกร่งนักที่บังเอิญมีเวลาว่างพอดีมักจะมาช่วยค้นหา
เขาอ่านอยู่ครู่นึงแล้วพบว่าเป้าหมายส่วนใหญ่จะเป็นคนธรรมดา แทบจะไม่เห็นภารกิจที่มีเป้าหมายเป็นผู้ฝึกยุทธเลย
ตำรวจให้บริการประชาชน
ฟางผิงเข้าไปหน้ากรมสืบสวน ภารกิจในหน้านี้จะยากกว่ามาก
“จับกุมผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งสูงสุด มีการฆาตกรรม ฝึกฝนวิชาฝ่ามือ ตำแหน่ง : เมืองหวงผิง”
“แนะนำ : ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งสูงสุดหรือผู้ฝึกยุทธขั้นสองที่เชี่ยวชาญวิชาต่อสู้”
“รางวัล : สองแสนหยวน”
“สังหารผู้ฝึกยุทธขั้นสองสูงสุด เป้าหมายขัดเกลากระดูกแขนขาครบทุกชิ้น ครอบครองอาวุธปืนและเชี่ยวชาญวิชาเตะและวิชาหมัดมวย ตำแหน่ง : เป้าหมายกำลังซ่อนตัวอยู่ในเซี่ยงไฮ้…”
“แนะนำ : ผู้ฝึกยุทธขั้นสองสูงสุดหรือผู้ฝึกยุทธขั้นสามที่เชี่ยวชาญวิชาต่อสู้ มีประสบการณ์ต่อสู้ และมีประสบการณ์ทำภารกิจที่คล้ายๆกัน…”
“รางวัล : ห้าแสนหยวนหรือ 20 คะแนน”
“…”
ภารกิจที่มอบให้โม๋อู่มีรางวัลไม่เลวเลย ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งสูงสุดจะได้รับรางวัลเป็นเงินสองแสนหยวน
ผู้ฝึกยุทธขั้นสองสูงสุดจะได้รับรางวัลมากถึง 20 คะแนน
มีภารกิจคล้ายกันมากมาย นักศึกษาเลือกกันได้โดยไม่ต้องแย่งกัน
หนานอู่ไม่ค่อยมีภารกิจแบบนี้นัก ถ้ามีภารกิจแบบนี้มาสักภารกิจ นักศึกษาก็จะแย่งกันอย่างรวดเร็ว
จากนั้นฟางผิงก็ดูภารกิจกองทัพ มันคล้ายกับภารกิจของกรมไม่มากก็น้อย แต่บางภารกิจก็อยู่ในถิ่นทุรกันดารห่างไกลจากเซี่ยงไฮ้
มีรางวัลให้มากมาย เงินสด เม็ดยา คะแนน อาวุธอัลลอย หรือแต้มจากกองทัพและกรมสืบสวน
หลังดูภารกิจมหาลัยอยู่สักพัก ฟางผิงก็พูดไม่ออก
ส่วนใหญ่จะเป็นการประกาศหาแฟน!
“หาแฟนสาว ต้องสวยและอ่อนโยน ระยะเวลา : 10 วัน”
“หมายเหตุ : เป็นความสัมพันธ์บริสุทธิ์ ปฏิเสธได้หากใกล้ชิดมากเกินไป”
“รางวัล : 5 คะแนน”
ถ้าประกาศหาแฟนสาวอย่างเดียวยังไม่เท่าไหร่ แต่มันมีการประกาศหาแฟนหนุ่มด้วย! ประเด็นหลักคือคนที่ประกาศเป็นผู้ชาย!
แน่นอนภารกิจดีก็มีเหมือนกัน
ยกตัวอย่าง นักศึกษาบางคนอยากลองวิชาต่อสู้และต้องการคนอื่นที่เรียนวิชาเหมือนกันมาเป็นคู่มือด้วย มันเป็นภารกิจที่ให้คะแนนเช่นกัน
ขณะที่ฟางผิงกวาดตาดู เขาก็พบภารกิจที่น่าสนใจ
“ประลองกับหวังจินหยางจากมหาลัยวิชายุทธหนานเจียง!”
“หวังจินหยาง ผู้ฝึกยุทธขั้นสามสูงสุด(อาจขั้นสี่แล้ว) ประธานชมรมวิถียุทธหนานอู่ ความสำเร็จ : ชนะผู้ฝึกยุทธขั้นสาม 14 คนจากเมืองหลวง”
“หมายเหตุ : ไม่สังหารใครในการต่อสู้ แต่ทำให้บาดเจ็บสาหัส”
“รางวัล :
เอาชนะ : 200 คะแนน
พ่ายแพ้ แต่ทำให้บาดเจ็บ : 50-150 คะแนนขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของอาการบาดเจ็บ
เสียชีวิต : 500 คะแนน!”
“เหล่าหวังมีศัตรูทุกที่จริงๆ!”
ฟางผิงอุทาน รางวัลที่ได้จากการสังหารหวังจินหยางน่าทึ่งมาก 500 คะแนนเชียว!
รางวัลไม่ต่ำเลย มันเกือบเท่ากับ 1.5 ล้านหยวน
แน่นอนมีไม่กี่คน ไม่ก็ไม่มีใครเลยที่รับภารกิจนี้
ผู้ฝึกยุทธขั้นสามสูงสุดหรือขั้นสี่ส่วนใหญ่ไม่ได้ขาดคะแนน 500 คะแนนแบบนี้ ภารกิจที่พวกเขาทำปกติไม่ง่ายเช่นกัน
ภารกิจที่เขาเห็นมันค่อนข้างพิเศษเลย โดยปกติแล้วฟางผิงจะไม่สามารถเห็นภารกิจของขั้นสามขั้นสี่
“เป็นหลิวหย่งเหวินหรือคนอื่นนะ?”
ฟางผิงคาดเดา จากนั้นเขาก็ส่ายหน้า เพราะเขาเดาไม่ออกว่าเป็นใคร มันไม่น่าเป็นหลิวหย่งเหวิน เจ้าหมอนี่ดูแล้วไม่น่ากล้าทำอะไรแบบนี้
ยิ่งกว่านั้น 500 คะแนนถือว่ามากพอควรเลย หลิวหย่งเหวินคงไม่มีปัญญา
ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธทุกคนที่ยิ่งแข็งแกร่งยิ่งรวย ผู้ฝึกยุทธขั้นสูงๆบางคนก็ยากจนยิ่งกว่าฟางผิงเสียอีก
คนที่มีปัญญาให้รางวัล 500 คะแนนได้ต้องมาจากครอบครัวร่ำรวย
โชคดีที่ภารกิจนี้ให้ท้าประลอง ไม่ใช่ลอบสังหาร ไอรีนโนเวล
ฟางผิงเดาได้ว่ามหาลัยวิชายุทธไม่ยอมให้มีภารกิจแบบนั้น การท้าประลองยุติธรรมและเปิดเผย การลอบสังหารนั้นต่างกัน คนที่ทำภารกิจแบบนั้นต้องดำดิ่งสู่ความมืด
เหล่าหวังเองก็คงรู้ภารกิจแบบนี้ แต่เขาไม่ได้สนใจ
ฟางผิงจ้องมองอยู่ครู่นึงแล้วพลันคิดขึ้นมา “ถ้าฉันขอให้เหล่าหวังมาเล่นละครกับฉันและให้เขายอมแพ้ ฉันจะได้ 200 คะแนนมาฟรีๆรึเปล่านะ?”
หลังครุ่นคิด เขาก็สรุปว่าเหล่าหวังคงไม่เห็นด้วย
แม้ทุกคนจะรู้ว่าพวกเขาเล่นละครกัน แต่คนนึงขั้นสี่ ส่วนอีกคนขั้นหนึ่ง อีกฝ่ายคงไม่ยอมเสียหน้าแบบนั้น
“แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เหล่าหวังเป็นคนมีเหตุผล ถ้าฉันแบ่งคะแนนให้ครึ่งนึง มันน่าจะมีหวังใช่ไหม?”
ฟางผิงเก็บภารกิจนี้ไว้ในความทรงจำและตัดสินใจไปถามหวังจินหยางเมื่อมีโอกาส เพราะยังไงเสีย 200 คะแนนก็มากพอควรเลย
…..
ฟางผิงอยู่ในสำนักงานประมาณสองชั่วโมง
สุดท้ายเขาก็ไม่ได้รับภารกิจ
เขาอยากรอดูก่อนค่อยตัดสินใจ เวลานี้เขาไม่ได้ขาดเงินทุน และเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งถึงขนาดต้องออกไปหาประสบการณ์ข้างนอก การรับภารกิจต้องใช้เวลามาก มันไม่เหมาะเท่าไหร่
ไว้รอเขาติดคอขวดหรือเงินขาดมือ เขาค่อยรับภารกิจง่ายๆทำก็ได้
อย่างไรก็ตามเมื่อเดินออกนอกประตู ฟางผิงก็คิดถึงเรื่องนึง
“ฉันไม่เห็นภารกิจที่เกี่ยวข้องกับลัทธินอกรีตเลย? ภารกิจที่ให้จับกุมหรือสังหารเป้าหมายที่เกี่ยวข้องก็ไม่มี”
“ที่เหล่าหวังและคนอื่นบอกว่าผู้ฝึกยุทธขั้นสามต้องเผชิญกับอันตรายต้องเกี่ยวข้องกับภารกิจแน่นอน ภารกิจที่ฉันยังไม่เห็น ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้นแน่”
จากนั้นเขาก็คิดถึงคลาสฝึกพิเศษอีกครั้ง
คลาสฝึกพิเศษ การฝึกฝนจะเป็นยังไงนะ?
…..
ฟางผิงเก็บความคิดพวกนี้ทิ้งไปก่อน พอเขากลับถึงห้อง ฟางผิงก็เริ่มขัดเกลากระดูก
ตอนนี้เขาขัดเกลากระดูกไป 28 ชิ้นแล้ว ขาขวาเหลืออยู่ 3 ชิ้นเท่านั้น กระดูกโคนขา(ต้นขา) กระดูกสะบ้า(หัวเข่า) และกระดูกน่อง กระดูกสามชิ้นนี้ขัดเกลาได้ยาก เช่น กระดูกโคนขามีขนาดใหญ่ ส่วนกระดูกสะบ้าซับซ้อน
ฟางผิงขัดเกลากระดูกได้ช้าลงเมื่อเทียบกับขัดเกลากระดูกนิ้วเท้า ตอนนั้นกระดูกทุกชิ้นขัดเกลาเสร็จในหนึ่งวัน
ส่วนสามชิ้นนี้…ฟางผิงคาดว่าเขาคงใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสิบวันต่อชิ้น
“ฉันต้องพยายามขัดเกลากระดูกให้เสร็จสักข้างนึงให้เร็วที่สุด เทอมนี้เหลือเวลาอีกสามเดือนเท่านั้น แถมยังมีกระดูกขาเหลืออีก 34 ชิ้น กินเวลาอย่างน้อยสองเดือน”
ใช้เวลาสองเดือนขัดเกลากระดูกจนเสร็จและไปถึงขั้นหนึ่งสูงสุด นี่เป็นตัวเลขที่ฟางผิงประเมิณไว้
ถ้าเขาโชคดี เขาจะไปถึงขั้นสองสิ้นเทอม
แน่นอน เขาจะไปถึงขั้นสองตอนสิ้นเทอมก็ต่อเมื่อเขาโชคดีจริงๆ ฟางผิงอาจไม่สำเร็จก็ได้ การทะลวงเร็วเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป ทั้งต่อสู้จริงและจวงกงต่างก็ต้องใช้เวลาและปราณและเลือด เขาต้องฝึกสามอย่างในเวลาเดียวกัน
“ส่วนบริษัท ฉันจะส่งเงินสักก้อนไปให้หลี่เฉิงเจ๋อ เขาจะได้ขยายบริษัทต่อได้ ฉันรู้สึกว่าค่าใช้จ่ายมันเริ่มเพิ่มขึ้นแล้ว อนาคตจะยากขึ้นกว่านี้อีก ถ้าไม่มีเงิน ฉันจะคืบหน้าไปได้ช้ามาก”
“ฉันลงทุนกับบริษัทไปมาก ถ้าเกิดหลี่เฉิงเจ๋อหนีไปล่ะ?”
ฟางผิงคิดลบกับคนอื่นอย่างไม่ลังเล ตอนนี้เขายังไม่ได้ลงทุนกับบริษัทมากนัก มันแค่ไม่กี่ล้าน หลี่เฉิงเจ๋อจะยังยึดมั่นในความตั้งใจเดิมได้
แต่หลังจากเพิ่มเงินเป็นสิบล้าน แถมฟางผิงยังไม่ได้อยู่ดูแล มันก็พูดยากแล้ว
“ฉันต้องหาคนอื่นมาถ่วงอำนาจ เฮ้อ ไม่ง่ายเลย…”
เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะทำจิตใจให้ปลอดโปร่งและฝึกฝนต่อ