World’s Best Martial Artist - ตอนที่ 145.1 วิชาขั้นกลาง (1)
จ้าวเสวี่ยเหมยตัดสินใจแล้วว่าจะใช้ยาปราณและเลือดขั้นสองฝึกฝน ฟางผิงคาดเดาว่าคนอื่นๆก็คงมีความคิดคล้ายกัน
มีบุคคลร่ำรวยและทรงอิทธิพลมากมายในโม๋อู่!
ฟางผิงที่ตอนแรกคิดว่าตนรวยพอควร ตอนนี้เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้รวยอะไรขนาดนั้น
…
เมื่อฟางผิงและคนอื่นๆได้รู้เรื่องรายละเอียดงานประลอง จู่ๆก็มีข่าวบนโลกออนไลน์เรื่องงานประลองนักศึกษาใหม่ระดับประเทศปรากฏขึ้น
99 มหาลัย การประลองของนักศึกษาใหม่ชั้นยอด!
ชื่อเสียงที่ไม่สมควรได้รับของมหาลัยชั้นนำ?
รัฐบาลลงทุนให้กับมหาลัยชั้นนำมากเกินไปจนมหาลัยหลายแห่งไม่พอใจ!
เปิดเผยความลึกลับของมหาลัยวิชายุทธ!
…
ในสายตาของคนธรรมดาหลายๆคน มหาลัยวิชายุทธเป็นแค่คำสรรพนาม เป็นภาพมายา เป็นคำนามที่อยู่ห่างไกลจากพวกเขา
นี่เป็นสถานที่ที่คนหนุ่มสาวจำนวนมากฝันอยากไป!
อย่างไรก็ตาม มหาลัยวิชายุทธแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร?
นักศึกษามหาลัยวิชายุทธแข็งแกร่งแค่ไหน?
ผู้ฝึกยุทธที่พวกเขาพบตามปกติ ผู้นำจากที่ต่างๆ ผู้ใดแข็งแกร่งกว่าผู้ใดอ่อนแอกว่าไม่มีใครทราบ!
นักศึกษามหาลัยวิชายุทธใช้ชีวิตแบบไหน?
ตามที่ข่าวรายงานมา พวกเขาลึกลับมาก!
มหาลัยวิชายุทธแสนลึกลับ!
แต่ในเวลานี้ มหาลัยวิชายุทธแสนลึกลับและสูงส่งเหมือนกำลังเปิดม่านหมอกเปิดเผยตนเองสู่โลกภายนอก
บนโลกออนไลน์ มีข่าวปรากฏออกมาอย่างต่อเนื่อง
รายงานข่าวพิเศษ งานประลองนักศึกษาใหม่ระดับประเทศอาจเป็นงานประลองยุทธครั้งแรกที่เปิดเผยสู่ประชาชนชนชาติจีน!
มหาลัยชั้นนำจะเป็นผู้ชนะและรักษานามมหาลัยชั้นนำได้หรือไม่?
ข่าววงใน งานประลองระดับประเทศครั้งนี้อาจเกี่ยวข้องกับข้อโต้แย้งนโยบายที่มีเงินทุนกว่าหมื่นล้าน!
อัจฉริยะมารวมตัวกัน นักศึกษาใหม่ปี 08 นับเป็นโชคดีหรือโชคร้าย?
หลายปีมานี้ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่งานประลองยุทธนักศึกษาใหม่ระดับประเทศถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่
ผู้เข้าร่วมมาจากมหาลัยวิชายุทธ 99 แห่งทั่วประเทศ!
เมื่อก่อน งานประลองแบบนี้ถูกจัดขึ้นแบบเล็กๆเท่านั้น
โม๋อู่กับจิงอู่อาจมีการประลองกัน อย่างไรก็ตามมันถูกจัดขึ้นเป็นการส่วนตัว โลกภายนอกไม่มีใครทราบข่าวอะไรเลย
นอกจากนี้ยังมีมหาลัยวิชายุทธท้องที่หลายแห่งที่ประลองแลกเปลี่ยนความรู้ แต่มันก็จำกัด 3-5 มหาลัยเท่านั้น
ตัวแทนนักศึกษาใหม่จากมหาลัยวิชายุทธ 99 แห่งที่พวกเขาส่งมาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่นักศึกษาใหม่ปี 08
นักศึกษาที่โดดเด่นเหล่านี้อาจประสบความสำเร็จทะยานสู่ท้องฟ้าหรืออาจแบกรับภาระไว้ไม่อยู่!
ถ้าพวกเขาแพ้ มันก็เป็นการแพ้อย่างน่าเวทนา หากเรื่องราวเบื้องหลังถูกเปิดเผยออกไปในอนาคต ผู้แพ้ก็จะถูกคนจำนวนมากทอดทิ้ง
พวกเขาใช้ทรัพยากรของมหาลัยไปอย่างสูญเปล่า ทำให้รุ่นน้องลำบากขึ้น แม้ว่ามันจะไม่ใช่ความรับผิดชอบของพวกเขา แต่นักศึกษาใหม่ที่เข้าร่วมงานประลองครั้งแรกจะเป็นที่จดจำฝังใจของคนนับไม่ถ้วน
…
ณ หนานเจียง
เจียงเฉิง
อู๋จื้อเห่าช็อค งานประลองระดับประเทศ!
เห็นได้ชัดว่าจนถึงเมื่อกี้นี้ เขาไม่ได้รู้เรื่องงานประลองระดับประเทศเลย
ถานห่าวนั่งอยู่ข้างๆ เขาคิดว่ามันแปลก นายอยู่คลาสฝึกพิเศษไม่ใช่รึไง? นายไม่รู้เรื่องนี้ได้ยังไง?
ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ!
อู๋จื้อเห่าพูดอย่างสิ้นหวัง ฉันเป็นแค่คนดู คลาสฝึกพิเศษไม่รู้มีผู้ฝึกยุทธโผล่มาจากไหนหลายคน ผู้ฝึกยุทธพวกนี้รวมเข้ากับคลาสฝึกพิเศษมหาลัยอื่นทั้งมหาลัยเทคโนหนานเจียงและมหาลัยหนานเจียง รวมๆแล้วอาจมีผู้ฝึกยุทธมากกว่าสิบคนอีก
ปกติเราแค่ไปเดินเล่นในคลาสฝึกพิเศษแล้วดูว่าจะได้ผลประโยชน์อะไรบ้างไหม แต่พวกเขาไม่เปิดเผยข้อมูลกับเราด้วยซ้ำ
ถานห่าวรู้สึกสงสาร ฉันคิดว่านายเก่งมาก แต่นายก็ทำได้เท่านี้…
ฉันก็ดีกว่านาย อย่างน้อยฉันก็เข้าคลาสฝึกพิเศษได้!
อู๋จื้อเห่าแค่นเสียง ปีนี้หนานเจียงมีผู้ฝึกยุทธมากมาย คนที่เข้าร่วมงานประลองครั้งนี้ต้องเป็นผู้ฝึกยุทธกันหมดเลยใช่ไหม?
ใช่!
ถานห่าวยืนยัน ในหมู่ 89 มหาลัยวิชายุทธทั่วไป จะคัดเลือกผู้ฝึกยุทธ 10 คน ลองคิดดูสิ ฉันสงสัยว่าอาจมีผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งสูงสุดเข้าร่วมด้วยซ้ำ
เฉลี่ย 9 มหาลัยวิชายุทธจะไม่มีผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งสูงสุดสักคนเลยเหรอ?
ที่พูดมาก็ไม่ผิด เฮ้อ ก่อนสมัครเข้ามหาลัย ฉันไม่มีประสบการณ์เท่าไหร่ ฉันคิดมาตลอดว่าผู้ฝึกยุทธจากมหาลัยวิชายุทธอยู่ทุกที่ มีขั้นสองขั้นสามอยู่พลุกพล่าน
หลังเข้ามหาลัยวิชายุทธ ฉันถึงเข้าใจว่ากว่าจะเป็นผู้ฝึกยุทธได้มันยากแค่ไหน
หลังอู๋จื้อเห่าทอดถอนใจ เขาพูดขึ้นมาอีกครั้ง ฟางผิง เจ้าหมอนั่น ฉันสงสัยจริงว่าตอนนี้เขาจะเป็นยังไง นายคิดว่าเขาจะร่วมงานประลองไหม?
ฉันว่าโอกาสริบหรี่มาก
ถานห่าวส่ายหน้า ฟางผิงพึ่งเป็นผู้ฝึกยุทธหลังเข้ามหาลัย แต่ตั้งแต่เปิดภาคเรียนก็มีผู้ฝึกยุทธมากมายอยู่แล้ว หลายคนมาจากครอบครัวฐานะร่ำรวย นายก็รู้ คนที่ฐานะไม่ดีเป็นผู้ฝึกยุทธยากแค่ไหน
ฟางผิงมีทรัพยากรฝึกฝนไม่มาก เขาจะเทียบกับคนพวกนั้นได้ไง?
ก็จริงนะ
อู๋จื้อเห่าเห็นด้วย แม้ว่าฟางผิงจะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธแล้ว แต่เขาก็เป็นแค่ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งเท่านั้น หากไม่มีทรัพยากรเพียงพอ เขาไม่มีหวังเร่งการฝึกเลย
โม๋อู่มีคนร่ำรวยมากมาย หลายคนเป็นผู้ฝึกยุทธมาตั้งแต่ต้นแล้ว
ถ้าฟางผิงอยู่หนานเจียง เขาอาจมีหวังเข้าร่วมงานประลอง แต่เขาอยู่โม๋อู่ ฟางผิงไม่มีโอกาสเลย
งานประลองระดับประเทศจะเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมจริงเหรอ?
ถานห่าว ถ้ามันเป็นงานประลองแบบเปิด เราควรไปดูไหม?
ฉันอยากไป แต่ฉันไม่มั่นใจว่าฉันจะซื้อตั๋วได้ไหม ในฐานะคนจากคลาสฝึกพิเศษ นายน่าจะเข้าทีมกองเชียร์ได้ใช่ไหม?
ให้ฉันอยู่ทีมกองเชียร์? อู๋จื้อเห่าไม่พอใจ ไม่มีทาง ฉันซื้อตัวเองดีกว่า
ฟางผิงอยู่เซี่ยงไฮ้ เราไปปรึกษากับพวกหยางเจี้ยนไปเซี่ยงไฮ้ช่วงปิดเทอมหน้าหนาวกันดีไหม?
ฟางผิงเป็นผู้ฝึกยุทธแล้ว แต่เรายังไม่ได้ให้เขาเลี้ยงข้าวเลย พอเราไปถึงเซี่ยงไฮ้ ฉันจะให้เขาเลี้ยงเราให้เต็มคราบเลย!
…
พวกเขาคุยกันจนสรุปว่าถ้ามันเปิดให้ประชาชนเข้าชม พวกเขาจะไปชมความสนุกด้วย
…
ในขณะเดียวกัน
เซี่ยงไฮ้
ฟางผิงถือโทรศัพท์รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย แม้แต่น้องก็รู้เรื่องนี้เหรอ?
แน่นอน มีข่าวทั่วโซเชียล ฟางผิง หนูอยากไปร่วมสนุกได้ นะๆ!
ไม่มีอะไรน่าดูหรอก นอกจากนี้มันยังพูดยากว่าจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมไหม
ฟางผิงกังวลเล็กน้อย มันอะไรกันเนี่ย!
งานประลองอาจเปิดให้ประชาชนเข้าชม แม้แต่ตั๋วก็ถูกขายต่อสาธารณะ เพื่อให้คนธรรมดาเข้ามาชมการประลอง เรื่องนี้ทำให้หลายคนไม่พอใจ
ซึ่งฟางผิงก็เป็นหนึ่งในนั้น!
คนแบบเขา โดยเฉพาะคนที่มาจากครอบครัวธรรมดาย่อมไม่อยากให้พ่อแม่ได้เห็นเลือดและน้ำตา
พวกเขาแค่รู้ว่าลูกชายพวกเขามีความสุขและสุขสบายก็พอ!
พวกเขาแค่รู้ว่าลูกชายไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง มีสถานะสูงส่ง มีความสามารถเชิงยุทธที่แข็งแกร่ง นั่นก็พอแล้ว!
ตอนนี้ทุกคนพูดถึงเรื่องนี้กัน บอกว่าแม้แต่คนธรรมดาก็เข้าชมการประลองได้ มันหมายความว่ายังไง?
ฟางผิงได้ยินคนพูดกันว่างานประลองนักศึกษาใหม่เหมาะสมที่จะเปิดให้คนธรรมดาเข้าชมเพราะส่วนใหญ่เป็นผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่ง เป็นขั้นพลังที่ใกล้เคียงกับคนธรรมดาและโหดร้ายน้อยกว่า
ยิ่งกว่านั้นการให้นักศึกษาใหม่เปิดผู้รับผิดชอบพิธีเปิดก็แปลว่านักศึกษาใหม่มีโอกาสดัง นอกจากนี้มันยังเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลในการส่งเสริมโครงการที่กำลังเกิดขึ้น
คราก่อนเมื่อพวกเขาอยู่ที่เมืองหยางเฉิง ถานเจิ้นผิงหวังว่าฟางผิงจะมาเป็นโฆษกและสร้างอิทธิพลต่อคนหนุ่มสาวให้ไปสนใจเรียนรู้วิชายุทธ
ตอนนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีเช่นกัน!
ปล่อยให้คนหนุ่มสาวนับไม่ถ้วนได้รู้ว่าพวกเขาจะพบความเปลี่ยนแปลงแบบไหนเมื่อเข้าสู่มหาลัยวิชายุทธ!
ทว่านักศึกษาใหม่เหล่านี้ต่างก็อยู่มหาลัยวิชายุทธมาครึ่งปีแล้ว
แต่คนอื่นย่อมไม่คิดเช่นนี้ พวกเขาเป็นนักศึกษาที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่นักศึกษากว่าสิบล้านคน คนอื่นๆย่อมคิดว่าพวกเขาทำได้ ตนเองก็ต้องทำได้!
ตราบใดที่งานประลองไม่ได้นองเลือดมากเกินไป แม้จะมีบาดเจ็บ แต่มันจะสำคัญอะไร?
ฟางผิงสรุปว่าถ้างานประลองมีฉากนองเลือด มันก็คงไม่เปิดให้ประชาชนเข้าชม
ตรงกันข้าม งานประลองที่ได้รับชัยชนะอย่างตรงไปตรงมา เป็นฉากที่ได้เสียงเชียร์จากผู้ชม นั่นแหละจะเปิดเผยสู่สาธารณะ
การสร้างกลุ่มนักศึกษามาเป็นดาวดังที่ชักจูงผู้คนนับไม่ถ้วนให้มุ่งเป้าเป็นผู้ฝึกยุทธอาจเป็นเหตุผลที่ทำไมงานประลองถึงเป็นครั้งแรกที่เปิดให้ประชาชนได้ชม
แม้ว่าเขาจะคิดเรื่องเหล่านี้ในใจ แต่ฟางผิงก็ยังกล่าว ช่วงงานประลองก็เกือบปีใหม่แล้ว อยู่บ้านสบายกว่าไหม…
ไม่ ฟางผิง หนูออกเงินเองพอไหม?
เลิกมาอวดรวยต่อหน้าพี่ได้แล้ว!
ฟางผิงแค่นเสียง จากนั้นสักครู่เขาก็พูดขึ้นมา ไว้ใกล้ถึงเวลาก่อนค่อยคุยกันใหม่
หนูไม่สน หนูอยากไป หนูอยากไปดูมหาลัยนาย…
มีอะไรให้ดูกัน?
โม๋อู่เป็นมหาลัยในอนาคตหนูเหมือนกัน หนูอยากไปดูสภาพแวดล้อม…
ฟางผิงอดหัวเราะไม่ได้ น้องคิดไกลไปแล้ว น้องพึ่งอยู่มัธยมปีสาม ถ้าน้องไม่ขยันตั้งแต่ตอนนี้ อย่าคิดว่าจะได้เข้าโม๋อู่เลย!
สิ้นเสียงพูด ฟางผิงก็กล่าเสริม พี่มีเรื่องต้องทำ แค่นี้ก่อนนะ
อย่าลืมจองตั๋วให้หนูล่ะ!
ไว้พูดเรื่องนี้กันทีหลัง