World’s Best Martial Artist - ตอนที่ 163 สู้ต่อไม่ไหว!
บนเวทีประลอง
หยางเสี่ยวม่านจ้องหานซวี่และกัดฟันกรอด ‘ไม่ใช่ว่าหานซวี่ควรเป็นคนรั้งฟางผิงไว้หรอกเหรอ?’
‘ก็ได้ วันนี้ฉันจะทำลายเขาซะ ไม่ให้เขาขึ้นสนามประลองอีก นับประสาอะไรกับรั้งคนอื่น!’
แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจยอมรับ แต่ฟางผิงแข็งแกร่งที่สุดในโม๋อู่จริงๆ เมื่อหานซวี่แพ้ ฟางผิงจะมีโอกาสชนะสูงขึ้น
เมื่อกรรมการประกาศเริ่มการประลอง หยางเสี่ยวม่านก็พุ่งเข้าหาหานซวี่ทันที
แม้ว่าหานซวี่จะดวงตาบวมเป่ง แต่เขาก็ยังเห็นได้ลางๆ
เมื่อเขาเห็นหยางเสี่ยวม่านตั้งใจสู้ระยะประชิด หานซวี่ก็ดุร้ายขึ้น
นับตั้งแต่เริ่มประลองกับพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธ เขาก็ตกเป็นเป้าความโกรธของทุกคนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่ง แต่การต่อสู้ก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสะสม
ฟู่ชางติ่งพึ่งแพ้ไป แถมบาดเจ็บหนักกว่าเขา
แต่เขาถูกฟู่ชางติ่งจู่โจมจนตาบวมเป่ง หานซวี่รู้สึกเจ็บแสบจนแทบทนไม่ไหว มันทำให้เขาโกรธเกรี้ยวยิ่งขึ้น
หยางเสี่ยวม่านประชิดตัวใกล้เข้ามา คราวนี้หานซวี่ไม่ได้หลบ!
ชั่วพริบตาต่อมา หยางเสี่ยวม่านก็ยิงหมัดเหล็กตรงมาที่หน้าเขา!
หานซวี่รู้สึกรำคาญยิ่งขึ้น ดุร้ายยิ่งขึ้น เขาใช้สองมือจับหมัดหยางเสี่ยวม่านตรงๆ กระดูกขาของเขาก็ขัดเกลาสามครั้ง เขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาวุธเพื่อปลดปล่อยพลัง!
หานซวี่บีบกำปั้นของหยางเสี่ยวม่านอย่างแรง และส่งแรงมาที่ขา กวาดเท้าขวาเตะออกไปอย่างดุร้าย!
หยางเสี่ยวม่านไม่ได้เกรงกลัว เธอยกขาขึ้นเตะสวนไปทันที แทนที่จะป้องกัน เธอเล็งเข้าที่ส่วนลับของอีกฝ่าย!
ระยำ!
คนจิงอู่ที่อยู่ข้างเวทีสบถเสียงดังอย่างอดไม่ได้ ผู้หญิงจากโม๋อู่ป่าเถื่อนกันแบบนี้ทุกคนเลยเหรอ?
การโจมตีส่วนลับกลายเป็นกระบวนท่าเอกลักษณ์ของพวกเขาไปแล้ว!
คราวนี้หานซวี่ใจเย็นยิ่งขึ้น เขาประกบขาเข้าด้วยกัน หนีบขาเธอเอาไว้!
เขาแค่นเสียงเล็กน้อย ลูกไม้นี้อาจใช้ได้ผลกับเว่ยซู่เจี๋ย แต่ไม่ใช่กับเขา
เขาไม่ได้ตาบอด สายตาเขาแค่เลือนรางเล็กน้อย
ขณะที่หานซวี่ครุ่นคิด มือเท้าของทั้งสองก็รัดกันยุ่งเหยิง ตัวแทบติดกัน
หยางเสี่ยวม่านไม่ได้ดิ้นรนนัก ทันใดนั้น ศีรษะเธอก็กระแทกไปข้างหน้าอย่างโหดเหี้ยม!
ปัง!
เกิดเสียงดังกึกก้อง!
พริบตาถัดมา มือเท้าของทั้งคู่ก็แยกจากกัน หยางเสี่ยวม่านเซไปสองสามก้าว หน้าผากแต่งแต้มด้วยหยาดเลือด
แต่หานซวี่กลับอาการแย่ยิ่งกว่า เขาเดินโซซัดโซเซอย่างกับคนเมา
สามขั้นล่างไม่ได้ขัดเกลากระโหลก!
ใบหน้าเขาถูกหมัดฟู่ชางติ่งเล่นงานไปสองสามหมัด คราวนี้เขาโชคดีแล้วที่ไม่ถูกหยางเสี่ยวม่านหัวโขกจนตาย!
…
นอกลานประลอง
ผู้ฝึกยุทธหญิง…
หลายคนบ่นอย่างเคืองๆ ผู้ฝึกยุทธหญิงเป็นคนบ้า อย่าได้คิดแต่งงานกับผู้ฝึกยุทธหญิงเด็ดขาด!
อาจารย์โม๋อู่ที่อยู่บนชั้นสองหลายท่านมีสีหน้าหวั่นๆ
สาวๆในทีมโหดร้ายขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไหน?
พวกเขารู้อยู่แล้วว่าจ้าวเสวี่ยเหมยดุร้าย
อย่างไรก็ตามหยางเสี่ยวม่านไม่เคยทำตัวดุร้ายแบบนี้ใช่มั้ย?
ท่าหัวโขกนี้ ไม่ได้ใช้อย่างหุนหัน หานซวี่รู้สึกเหลือทน หยางเสี่ยวม่านก็คงไม่ต่างกัน ผู้หญิงคนนี้ไม่กลัวเสียโฉมเหรอ?
…
หลังเวที ฟางผิงหดคอ รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้คงมาทำกับเขาเข้าสักวัน
เห็นได้ชัดว่าหยางเสี่ยวม่านไม่ได้พึ่งวางแผน เธอตั้งใจให้อีกฝ่ายล็อกแขนขาเพื่อโจมตีสวนกลับ
…
สมาชิกหญิงโม๋อู่…
เป็นการประลองที่ยอดเยี่ยม! เฉินเสวี่ยเยี่ยนพูด ขัดจังหวะหลิวหัวหรง ผู้ฝึกยุทธหญิงไม่ได้อ่อนแอกว่าผู้ชาย!
เมื่อเห็นความกระตือรือร้นของเธอ หลิวหัวหรงก็หัวเราะอย่างอักอ่วน ถอยหนีอย่างระมัดระวัง ดูเหมือนผู้ฝึกยุทธหญิงส่วนใหญ่จะเป็นคนบ้า
ขณะที่พวกเขาพูดกัน หยางเสี่ยวม่านก็ค่อยๆได้สติกลับมา เธอพุ่งเข้าหาหานซวี่อีกครั้ง!
เวลานี้ หานซวี่ก็ได้สติกลับมาเล็กน้อยเช่นกัน แม้ว่าเขายังเจ็บที่ศีรษะอยู่ก็ตาม
หอกที่เขาพึ่งเอาวางลงกลับมาอยู่ในมือเขาอีกครั้ง หานซวี่ไม่ได้ใช้หอกอีก แต่ชักดาบออกมาแทงใส่หยางเสี่ยวม่าน
หยางเสี่ยวม่านไม่หลบแม้แต่น้อย!
สองมือจับดาบยาว ปล่อยให้มันแทงทะลุออกมาจนทิ่มเข้าที่ไหล่ เธอเสือกเท้าไปข้างหน้า พุ่งเข้าหาหานซวี่อีกครั้ง!
บัดซบ!
หานซวี่โกรธจัด เขาสบถอย่างอดไม่ได้!
‘มีคนประลองด้วยวิธีแบบนี้ได้ยังไงกัน?’
‘ไม่ใช่ว่ามีจ้าวเหล่ยคนเดียวหรอกเหรอที่รู้วิชาหัวเหล็ก?’
‘หยางเสี่ยวม่าน ผู้หญิงอย่างเธออย่าหาทำแบบนี้!’
ขณะที่เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หยางเสี่ยวม่านก็จับดาบแน่น หัวไหล่ได้รับบาดเจ็บ แต่เธอไม่มีทางปล่อยเขาหนีไป
ปัง!
มีเสียงปะทะกันดังขึ้นอีกครั้ง
คราวนี้หานซวี่ทนไม่ไหวอีก เขาถอยร่นไปหลายก้าว เอามือกุมศีรษะ เขารู้สึกวิงเวียน เห็นดาวระยิบระยับ
หน้าผากหยางเสี่ยวม่านมีเลือดปริออกมายิ่งกว่าเดิม เธอดูดุร้ายมาก
แม้ว่าเธอจะเป็นฝ่ายเริ่มใช้หัวโขก แต่จิตใจเธอยังแจ่มใสกว่าหานซวี่
เมื่อหานซวี่ก้าวถอยไป หยางเสี่ยวม่านก็เข้าประชิด ดีดตัวเข้าหาราวพยัคฆ์ร้าย!
หานซวี่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว เขาจึงถอยหนีอย่างกระชั้นชิด กระนั้นสายตาเขาก็มีปัญหา ไม่นานหยางเสี่ยวม่านก็ประชิดตัวเข้าหาเขาได้อีกครั้ง!
ครั้งนี้หยางเสี่ยวม่านดุดันยิ่งกว่าเดิม เธอไม่ได้จับดาบด้วยซ้ำ ปล่อยให้ดาบยาวแทงทะลุไหล่ ใช้หัวโขกใส่อีกครั้ง!
หานซวี่หัวสมองเลอะเลือน เขาโยกศีรษะไปข้างหลังอย่างรีบร้อน
แต่ฉับพลันนั้น หยางเสี่ยวม่านก็เปิดเผยเจตนาที่แท้จริง เธอเตะเข้าที่ส่วนลับเขาเต็มกำลัง!
ระยำ!
หานซวี่รีบหนีบขาเธอไว้ อย่างไรก็ตามไม่รู้ว่ามันสายเกินไปหรือถูกเตะไปแล้วก็ไม่รู้ เพราะเม็ดเหงื่อจำนวนมากผุดขึ้นมา ผสมกับเลือดที่เปรอะเปื้อนทั่วใบหน้า ไหลย้อยอาบแก้มลงมา
หยางเสี่ยวม่านก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน เลือดทะลักจากไหล่ กระนั้นมันก็ไม่ได้ดับความดุร้ายของเธอ เธอใช้สองมือจับไหล่อีกฝ่าย เอาหัวโขกเข้าไปอีกที!
ปัง!
ครั้งที่สามที่หัวทั้งสองกระแทกใส่กัน
ครั้งนี้ หยางเสี่ยวม่านเชิดหน้าแล้วล้มลงไป
หานซวี่เดินโซเซอยู่ครู่หนึ่ง ล้มลงจากขอบสนาม ตกลงไปข้างล่าง นอกจากหน้าอกที่ขยับอยู่ เขาแน่นิ่งปราศจากความเคลื่อนไหว
…
เอิ่ม…เป็นการประลองที่ไม่มีใครเหมือน…
หลิวหัวหรงออกความเห็นอย่างจืดชืด จากนั้นเขาก็กล่าวเสริม อย่างไรก็ตาม สมาชิกโม๋อู่มีจิตตานุภาพที่แข็งแกร่งมาก เมื่อเทียบกับผู้ชายแล้ว หยางเสี่ยวม่านมีแต่จะเหนือกว่า…
เขาอยากจะพูดว่าป่าเถื่อน แต่มันดูไม่เหมาะสม
เฉินเสวี่ยเยี่ยนเผยรอยยิ้มออกมาซึ่งเป็นภาพที่หาได้ยาก เธอเปิดปากพูด ผู้ฝึกยุทธหญิงควรเป็นเช่นนี้แหละ ผู้ฝึกยุทธหญิงของโม๋อู่สู้ได้ยอดเยี่ยม! ตรงไปตรงมามาก!
หยางเสี่ยวม่านไม่ใช่คู่มือของหานซวี่ แต่การประลองรอบก่อน เขาใช้ปราณและเลือดไปมากแล้ว
ความเร็วของหยางเสี่ยวม่านก็เชื่องช้ากว่า อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้ใช้ปราณและเลือดเท่าเขา ตอนนี้หานซวี่ถูกหัวโขกเต็มแรงไปสามครั้ง บวกกับอาการบาดเจ็บเก่า ฉันคิดว่าเขาคงขึ้นประลองในวันพรุ่งนี้ไม่ไหว
เว่ยซู่เจี๋ย หลงเทา หานซวี่ ประลองต่อไม่ไหว ถ้าจิงอู่แพ้ตานี้ พวกเขาจะยังมีความแข็งแกร่งพอประลองกับพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธในวันพรุ่งนี้อีกเหรอ?
โม๋อู่ก็ไม่ต่างกัน จ้าวเสวี่ยเหมย หยางเสี่ยวม่าน ประลองต่อไม่ไหว ฟู่ชางติ่งก็อาจไม่ไหวเช่นเดียวกัน ถ้ามีคนได้รับบาดเจ็บอีก แล้วโม๋อู่แพ้ไป พวกเขาอาจแพ้ให้กับพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธที่มีผู้ฝึกยุทธขั้นสองอยู่ในทีม
การประลองครั้งนี้พลิกโผไปมา มันยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธจะมีโอกาสพลิกกลับไหม…
รอบถัดไป ฟางเหวินเสียงจากจิงอู่ปะทะถังซ่งถิงจากโม๋อู่
…
หลังเวที ฟางผิงมองหยางเสี่ยวม่านที่กำลังถูกหามลงมา เขาไม่มั่นใจว่าจะพูดอะไรดี
เวลานี้ถังซ่งถิงกำลังเดินขึ้นสนามประลองแล้ว ฟางผิงเพ่งความสนใจได้ด้านเดียวเท่านั้น เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วบอกกับคนอื่นๆ พวกนายไปดูหยางเสี่ยวม่านเถอะ ผู้หญิงพวกนี้จริงๆเลย…
เขาไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ!
ขณะที่เขาพูด ฟางผิงก็ชำเลืองมองฟู่ชางติ่งที่พึ่งเดินกระเผลกมา เขาถอนหายใจ พวกเขาสู้ดุกว่านายอีก
ฟู่ชางติ่งหอบหายใจหนัก เขากล่าวอย่างจนใจ อย่าทำเหมือนเธอเป็นผู้หญิง…เฉินซีดีที่สุด…
สีหน้าของเฉินหยุนซีเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน เธอถลึงตามองเขาอย่างดุดันก่อนจะเดินไปห้องพยาบาล
ฟู่ชางติ่งอายเล็กน้อย ฟางผิงเมินเขาไปแล้วหันไปพูดกับถังซ่งถิง อย่าบาดเจ็บกลับมาล่ะ ถ้านายเจ็บหนัก เราจะมีคนไม่พอประลองรอบชิง
สองสาวสู้ต่อไม่ไหว เหลือแค่ฟู่ชางติ่ง จ้าวเหล่ย กับเขา สามคนเท่านั้นที่ยังสู้ต่อได้
ถ้าถังซ่งถิงสู้ต่อไม่ไหว งั้นในทีมก็เหลือขั้นหนึ่งสูงสุดไม่ถึงห้าคนแล้ว
ถังซ่งถิงพยักหน้าและเดินออกไป
…
สามนาทีต่อมา ถังซ่งถิงก็กลับมา เขาถูกหามกลับมา
แขนหักทั้งสองข้าง!
ฟางผิงพูดไม่ออก เจ้าหมอนี่ลืมเรื่องขึ้นประลองรอบชิงไปได้เลย
ในขณะเดียวกัน บนสนามประลอง ฟางเหวินเสียงดูผ่อนคลายมาก การหักแขนทั้งสองข้างของถังซ่งถิงเหมือนจะเป็นแค่เรื่องง่ายๆ
ถังเฟิงเดินมาหาและเอ่ยเตือนเสียงทุ้ม อีกฝ่ายยังเหลือสองคน ถ้าเอาชนะไม่ไหวก็ให้ออมแรงไว้…
ฟางผิงแค่นเสียงเบาๆและพูดอย่างอารมณ์เสีย ถ้ามหาลัยให้เม็ดยาผมเพียงพอ ผมเริ่มคนแรกและกวาดพวกเขาทั้งทีมได้ เราเอาชนะได้โดยทั้งสามไม่ต้องบาดเจ็บ!
ถังเฟิงขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็พูด อย่าทะนงตัวเกินไป!
มันไม่ใช่ทะนง แต่เป็นมั่นใจ! แต่ผมรู้ว่าคนอื่นคงไม่พอใจถ้าไม่ได้ขึ้นสนาม
ถ้าแบบนั้น ผมจัดการสองคนที่เหลือก็ได้ ส่วนคนอื่นๆก็ปล่อยพวกเขาเล่นสนุกไป!
นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมฟางผิงถึงไม่ยืนกรานจะเป็นคนแรก
สมาชิกโม๋อู่เตรียมตัวประลองมานานมากแล้ว ถ้าพวกเขาไม่มีโอกาสได้สู้ พวกเขาจะพอใจได้ยังไง?
แม้ว่าพวกเขาจะบาดเจ็บ แต่พวกเขาไม่ได้ตาย ขอแค่พวกเขามีชีวิตอยู่ เสียเวลาไปเดือนสองเดือนไม่ใช่ปัญหา บวกกับก่อนหน้านี้ทุกคนแข็งแกร่งขึ้นเร็วมาก พวกเขาย่อมไม่ถูกคนอื่นทิ้งห่าง
คนอื่นๆได้ขึ้นเวทีประลองแล้ว ฟางผิงคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว
ผมจะทำลายฟางเหวินเสียงกับชื่ออะไรไม่รู้อีกคน พรุ่งนี้ผมก็จะทำลายคนของพันธมิตรมหาลัยวิชายุทธอีกสักคนสองคน วันมะรืน ทีมสำรองจะได้เล่นกับพวกเขาได้
หลังพูดจบ ฟางผิงก็หยิบดาบยาวเดินออกไป
เจ้าเด็กนี่…
ถังเฟิงไม่รู้ว่าเขาเอาความมั่นใจมาจากไหน
ฟางผิงอาจแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งเกินไป มันพูดยากว่าเขาจะชนะแน่นอนไหมถ้าต้องเผชิญกับหานซวี่และฟางเหวินเสียง
นี่เป็นเหตุผลที่เขาไม่ให้ฟางผิงเป็นคนแรก ถ้าฟางผิงแพ้ พวกเขาจะมีปัญหากับการประลองรอบถัดไป
…
บนเวทีประลอง
ฟางผิงมองฟางเหวินเสียง เขายิ้มและเอ่ยถามโดยไม่สนใจเวลา ตระกูลฟางแห่งตงหู?
ใช่
เรามีแซ่เดียวกัน ฉันเกือบถูกอาจารย์ทุบตีเพราะนาย อาจารย์ฉันเกลียดคนที่มีแซ่ฟาง
ฟางเหวินเสียงขมวดคิ้ว พูดอย่างราบเรียบ งั้นเหรอ? งั้นก็ขอโทษด้วย
ไม่จำเป็น ถ้านายอยากขอโทษจริงๆ งั้นนายก็นั่งอยู่เฉยๆปล่อยฉันปู้ยี่ปู้ยำ
ฟางผิงยิ้มเห็นฟัน อีกอย่าง พอฉันเห็นปลอกแขนนายแล้วฉันรู้สึกแย่มาก
หือ?
ฟางเหวินเสียงระเบิดเสียงหัวเราะ เขาส่ายหน้า นายมั่นใจมาก
นั่นก็เพราะฉันแข็งแกร่ง สำหรับฉันแล้วการประลองของขั้นหนึ่งไม่มีความหมายอะไรเลย เป้าหมายของฉันคือทะเลดวงดาว…
…
ชั้นสอง
ชายชราหัวเราะอย่างฉับพลัน เหล่าหวง เด็กโม๋อู่ของนาย มีเรื่องไร้สาระให้พูดมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
หวงจิ่งตอบนิ่งๆ ศิษย์ของหลู่เฟิ่งโหรว ปีศาจเฒ่าฟาง ระวังไว้เถอะ หลู่เฟิ่งโหรวอยากฆ่าคุณมานานแล้ว
เหอะเหอะ หลู่เฟิ่งโหรวก็อาศัยแต่…
ทำไม? ไม่พอใจ?
เหอะเหอะ ฉันไม่อยากเถียงนายแล้ว ฉันก็สงสัยเหมือนกันว่าศิษย์ของหลู่เฟิ่งโหรวจะทำอะไรได้บ้าง
…
ขณะที่ปรมาจารย์บนชั้นสองคุยกัน
บนเวทีประลอง ฟางผิงพูดต่อ ไม่ใช่ว่านายมั่นใจมากงั้นเหรอ? นายไม่กันไม่หลบ รอบนี้ทำไมเราไม่เจอกันตรงๆเลยล่ะ ไม่ต้องหลบซ่อน เป็นไง?
ฟางเหวินเสียงขมวดคิ้วอีกครั้ง ถ้านายต้องการแบบนั้น ฉันก็ไม่ว่า!
ดี นายพูดแล้วนะ!
ก่อนที่ฟางผิงจะพูดจบประโยค ดาบยาวในมือก็ฟันแหวกอากาศแล้ว!
ฟุบ!
อากาศสั่นสะเทือนอย่างแรง ผู้ชมที่นั่งอยู่แถวหน้าถึงกับรู้สึกกดดัน!
ดาบคลั่งระเบิดเลือด ขั้นกระบวนท่าไม้ตาย!
แม้แต่หลิวหัวหรงก็ประหลาดใจ เขาอุทาน ฟางเหวินเสียง รีบหลบเร็ว!
กระบวนท่านี้ระเบิดปราณและเลือดสูงถึงร้อยแคล!
ย้าก!
ฟางเหวินเสียงคำรามอย่างดุดัน เงื้อมสองมือขึ้นมาป้องกันอย่างรวดเร็ว!
‘หลบก็บ้าแล้ว’ ฟางผิงตามติดเขา ท่าร่างของฟางผิงเร็วกว่าเขา ถ้าเขาหลบ เขาจะเสี่ยงถูกฟันเป็นสองท่อน!
ปัง!
เกิดเสียงปะทะดังสนั่น ดาบยาวฟันเข้าที่เกราะแขน เสียดสีกันจนเกิดประกายไฟ
ฟางเหวินเสียงคำรามก้อง กระนั้นขาเขาก็งอเล็กน้อย ใบหน้าเขาแดงก่ำ ปากกระอักหยาดเลือดสีแดงสด
ขณะที่เขาคิดว่าป้องกันกระบวนท่านี้ไว้ได้แล้ว…
หลิวหัวหรงอุทานอีกครั้ง สองดาบต่อเนื่อง!
กระบวนท่าไม้ตายสองดาบต่อเนื่อง!
นิยามกระบวนท่าไม้ตายนั้น ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งต้องระเบิดปราณและเลือดได้มากกว่าหนึ่งร้อยแคล
ผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งขัดเกลาสองครั้งมีปราณและเลือดสูงสุดประมาณ 300แคลเท่านั้น
สองดาบต่อเนื่องแปลว่าจะเสียปราณและเลือดไปกว่า 200แคล ซึ่งเป็นปราณและเลือดเกือบทั้งหมด ผู้ฝึกยุทธที่ปราณและเลือดไม่เพียงพอ ฟันสองดาบต่อเนื่องแล้วสังหารศัตรูไม่ได้ ก็ไม่ต่างอะไรกับรอให้ศัตรูมาจัดการท่าเดียว
ฟางเหวินเสียงก็ได้ยินเสียง แถมเขารู้สึกถึงแรงกดดันมาจากเหนือศีรษะด้วย
เมื่อคิดถึงปราณและเลือดที่ฟางผิงใช้ไป หากเขารับกระบวนท่านี้ได้ ฟางผิงก็เหมือนเนื้อบนเขียง ฟางเหวินเสียงไม่ลังเลอีก เขาส่งเสียงกู่ร้องอีกครั้ง เขย่าสวรรค์!
หมัดเขย่าสวรรค์ แทนที่จะกัน เขาเลือกโจมตีกลับ!
ระเบิดปราณและเลือด 80แคล!
เฉินเสวี่ยเยี่ยนช็อคไม่ต่างกัน ทั้งสองแข็งแกร่งมาก!
ปัง!
เกิดเสียงปะทะกันอีกครั้ง ฟางผิงก้าวถอยไปเล็กน้อย ส่วนฟางเหวินเสียงถอยร่นไปสองสามก้าวติด เลือดพุ่งพรวดออกจากปากย้อมพื้นเป็นสีแดงฉาน
ไม่ใช่แค่ปากที่มีเลือดไหลทะลักออกมา เลือดค่อยๆไหลออกมาจากรูระบายของถุงมือต่อสู้ที่สวมอยู่ในมือด้วยเช่นกัน
ฟางเหวินเสียงอาจฝืนรับกระบวนท่านี้ไว้ได้ แต่สองมือบาดเจ็บสาหัส อาจมีกระดูกหักด้วยซ้ำ
ฉันจะดูว่าแกตายยังไง!
ฟางเหวินเสียงกรีดร้องบ้าคลั่ง เขาใช้ปราณและเลือดไม่มากเท่าฟางผิง!
เสียงพูดไม่ทันหาย ฟางเหวินเสียงก็พุ่งตัวเข้าหาด้วยความเร็วสูง แม้เขาจะใช้หมัดไม่ได้ แต่เขาก็ยังใช้ขาได้!
เวลานั้นเอง จู่ๆฟางผิงก็เปิดปากพูด เม็ดยาอยู่นี่ กินไม่กินนะ?
หลังพูดจบ ปราณและเลือดของฟางผิงก็ฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว!
บัดซบ!
ฟางเหวินเสียงแทบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว ฟางผิงไม่ได้กินยาเลยตั้งแต่เริ่มประลอง เขาเกือบลืมเรื่องนี้ไป
ขณะที่ขาเข้าก้าวสู่กับดัก ฟางผิงก็ฟันดาบสาม!
ยอมแพ้!
มีคนตะโกนยอมแพ้จากบนชั้นสอง กรรมการดึงฟางเหวินเสียงถอยออกไปทันที
ขณะที่พวกเขาถอย ฟางผิงก็ตามติดอีกครั้ง!
ยอดยุทธที่นั่งบนชั้นสองตะโกนอย่างโกรธๆ เรายอมแพ้แล้ว ทำไมยังไล่อีก!
ผมกินยาไปแล้ว ชดเชยยาคืนให้ผมแล้วผมจะหยุด!
ฟางผิงโกรธไม่ต่างกัน ‘ฉันพึ่งกินยาปราณและเลือดขั้นหนึ่งไป คุณจะยอมแพ้ตอนฉันกำลังโจมตีได้ยังไง!’
นาย…
กรรมการพูดไม่ออกเช่นกัน เขาต้องเตะดาบยาวฟางผิงทิ้งไป เขาไม่กล้ารับการโจมตีด้วยมือเปล่า
ท้ายที่สุดแล้วฟางผิงก็เป็นแค่ขั้นหนึ่ง เมื่อกรรมการขั้นห้าเข้ามาขัดขวาง ดาบยาวก็แฉลบไปด้านข้าง เบี่ยงไปโดนเสาที่อยู่ขอบสนาม
เกิดเสียงดังปัง เสาถูกฟันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ฟางผิงหอบหายใจ จ้องมองฟางเหวินเสียงที่กำลังหวาดหวั่นและแค่นเสียง ถือว่าโชคดีไป รอให้ถึงวันมะรืนเถอะ ยอมแพ้ก่อนจะสายเกินไป ไม่งั้นฉันจะฟันนายจนตาย!
แก…
ฟางเหวินเสียงสีหน้าแดงก่ำ เขากระอักเลือดอีกครั้ง สองดาบเมื่อกี้ ทำให้เขาบาดเจ็บไม่เบา!
วันมะรืนนายประลองไหวไหม? ฉันว่าคงไม่ไหว ถ้านายไม่ชดเชยเม็ดยาที่เสียไปให้ฉัน ฉันจะฟันนายทุกครั้งที่เห็นหน้า!
ฉัน…เฮือก…
ฟางเหวินเสียงหมดสติไป เขาโกรธมาก เลือดกระอักจากปากไม่หยุด
…
บนชั้นสอง ปรมาจารย์แซ่ฟางสีหน้าอึมครึม
หวงจิ่งเอ่ยเตือนเขาอย่างยิ้มแย้ม ปีศาจเฒ่าฟาง เด็กคนนี้มาจากครอบครัวแร้นแค้น แม้แต่ยาเม็ดเดียวก็เป็นเหมือนสมบัติสำหรับเขา ถ้าหลานชายคุณไม่ชดเชยเม็ดยาให้เขา ฉันรับประกันได้เลยว่าเขาจะทำตามที่พูด โจมตีหลานชายคุณทุกครั้งที่เห็นหน้า! ฮึ่ม!
อย่าแค่นเสียงสิ อย่าคิดให้ตระกูลฟางเคลื่อนไหวด้วย เขาเป็นศิษย์ของโม๋อู่ แถมยังเป็นศิษย์ของหลู่เฟิ่งโหรว ไปขอให้หลานชายคุณพิจารณาใหม่…
จากนั้นหวงจิ่งก็พึมพำเบาๆราวไม่ได้ตั้งใจ จิ๊ จิ๊ กินยาก่อนปลดปล่อยกระบวนท่าไม้ตายสามดาบต่อเนื่อง งั้นสี่ดาบห้าดาบจะเป็นไปได้ไหมนะ?
เฮ้อ จิงอู่ต้องระวังหน่อยแล้ว ถ้ามีคนถูกฟันตายก็โทษใครไม่ได้
เมื่อได้ยินแบบนั้น อาจารย์ของจิงอู่หลายคนก็มีสีหน้าอึมครึมเช่นกัน พวกเขาต้องสู้ยังไงล่ะเนี่ย?
ในขณะเดียวกัน บนสนามประลอง ฟางผิงกินเม็ดยาปราณและเลือดขั้นหนึ่งไปสองเม็ดติด ปราณและเลือดค่อยๆฟื้นฟูอย่างช้าๆ