World’s Best Martial Artist - ตอนที่ 78.2
ตอนที่ 78 ความต่างระหว่างมหาลัย (2)
หวังจินหยางไม่ได้อธิบายรายละเอียดมากนัก เขาพูดต่อ “นอกจากความเหลื่อมล้ำของทรัพยากร ยังมีปัญหาอาจารย์ด้วย”
“สำหรับคนธรรมดาแล้ว มันไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่”
“ข้อกำหนดอาจารย์ของมหาลัยวิชายุทธหนานเจียงอย่างน้อยต้องเป็นขั้นสาม อาจารย์ขั้นสามส่วนใหญ่จะสอนให้กับเด็กใหม่”
“อาจารย์ขั้นสี่หรือสูงกว่ามีหน้าที่ให้คำแนะนำกับนักศึกษาที่เป็นผู้ฝึกยุทธ”
“มีอาจารย์ขั้นห้าด้วยเหมือนกัน อาจารย์ขั้นห้าเป็นอาจารย์ระดับสูงสุดของมหาลัยวิชายุทธหนานเจียง”
“ส่วนขั้นหกล้วนเป็นผู้มีอำนาจของมหาลัย พวกเขาไม่ได้สอน และมีจำนวนน้อยมาก”
“รองอธิการบดีของมหาลัยวิชายุทธหนานเจียงเป็นปรมาจารย์ขั้นเจ็ด และเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของหนานเจียง…”
หวังจินหยางพูดขึ้นมาพร้อมกับเสียงหัวเราะ “ขั้นพลังของอาจารย์ที่สอนนายจะไม่สำคัญถ้านายเป็นแค่ขั้นหนึ่งหรือขั้นสองก่อนจบการศึกษา”
“นอกจากนี้ต่อให้นายขั้นสาม มันก็ไม่ได้มีความแตกต่างมากเท่าไหร่”
“คำชี้แนะของอาจารย์จะสำคัญมากถ้านายอยากฝึกฝนจนบรรลุขั้นสี่”
“แต่ถ้านายใกล้ถึงขั้นสี่ ผู้เยี่ยมยุทธจะออกมาให้คำชี้แนะกับนาย”
หวังจินหยางกำลังพูดถึงตัวเอง ตราบใดที่เขาเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นสามและขัดเกลากระดูกลำตัวสำเร็จ ยกเว้นรองอธิการบดี จะมีผู้มีอำนาจของมหาลัยที่อยู่ขั้นหกออกมาชี้แนะเขาอย่างช้าๆแน่นอน
“สองมหาลัยดังได้เปรียบกว่ามหาลัยอื่น พวกเขาจ้างผู้ฝึกยุทธขั้นสี่ขึ้นไปมาเป็นอาจารย์”
“อาจารย์ขั้นห้าขั้นหกก็มีไม่น้อย มหาลัยวิชายุทธหนานเจียงมีปรมาจารย์คนเดียว”
“แต่มหาลัยวิชายุทธเซี่ยงไฮ้มีถึงสี่คน!”
“หนึ่งในนั้นเป็นขั้นแปด หรือแม้แต่ขั้นเก้า นี่แหละคือทุนรอนที่แข็งแกร่งของพวกเขา”
“นายต้องรู้ว่าผู้สำเร็จราชการของมณฑลส่วนใหญ่ไม่ใช่ปรมาจารย์ด้วยซ้ำไป บางมณฑลก็อาจเป็นขั้นห้าเท่านั้น แน่นอนมันหาได้ยาก ผู้สำเร็จราชการส่วนใหญ่จะเป็นขั้นหก”
“เซี่ยงไฮ้กับปักกิ่งมีผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงมากมาย ดังนั้นระดับของพวกเขาจึงเอามาเทียบกับมหาลัยธรรมดาไม่ได้”
“ทรัพยากร อาจารย์ สถานะ…”
ฟางผิงพึมพำ จากมุมมองนี้ มหาลัยชั้นยอดและมหาลัยธรรมดามีความเหลื่อมล้ำอย่างมาก
หวังจินหยางยังพูดไม่จบ เขาพูดต่อ “ประเด็นสุดท้าย ปริมาณภารกิจ”
“ปริมาณภารกิจ?”
“ถูกต้อง มันไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับคนธรรมดาๆ”
“นักศึกษาบางคนก็จบการศึกษาโดยไม่ได้ทำแม้แต่ภารกิจเดียว”
“สำหรับนักศึกษาชั้นยอด หากอยากก้าวให้ไกลกว่านี้เพื่อเงินและทรัพยากร ภารกิจจะเป็นสิ่งจำเป็น”
“ส่วนมหาลัยวิชายุทธหนานเจียงมีภารกิจให้เลือกน้อยมาก ยกตัวอย่าง ภารกิจล่าสุดที่ฉันถูกขอให้ไปจับกุมหวงปิน มันเป็นภารกิจที่เมืองหยางเฉิงจัดให้”
“แต่ภารกิจแบบนี้หาได้ยาก เพราะหนานเจียงปลอดภัยกว่า บางครั้งเราก็เผชิญกับปัญหาไม่มีภารกิจที่เหมาะสมกับเราให้เลือก”
“ในสองมหาลัยดัง มันเป็นคนละเรื่องกันเลย ที่นึงเป็นเมืองหลวง ที่นึงเป็นเซี่ยงไฮ้ มันมีภารกิจมากมายที่ให้นายเลือกได้อย่างอิสระ แถมรางวัลยังใจกว้างกว่ามาก”
“ตราบใดที่นายมีความแข็งแกร่ง นายจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ…”
หลังพูดจบ ฟางผิงก็พูดอย่างสะเทือนอารมณ์ “สรุปก็คือ ถ้าเป็นแค่คนสามัญ ไม่ว่าอยู่ไหนก็ไม่ต่างกัน ส่วนอัจฉริยะควรไปสองมหาลัยดัง คุณจะสื่อแบบนี้ใช่ไหม?”
“ถูกต้อง”
หวังจินหยางหัวเราะ “ถ้าปราณและเลือดนายประมาณ 130แคล ฉันไม่แนะนำให้นายไปสองมหาลัยดัง คนธรรมดาไปสองมหาลัยดังก็เสียเวลาเปล่า”
“แต่นายขัดเกลากระดูกไปแล้วสองครั้ง ในเวลาอันสั้น”
“งั้นฉันก็จะแนะนำให้นายไปสองมหาลัยดัง มันดีต่อนายมากกว่า”
คนธรรมดาจะไปอยู่ไหนก็ธรรมดา โดยเฉพาะเหล่าคนที่มีปราณและเลือดประมาณ 130แคล ควรไปที่มหาลัยวิชายุทธหนานเจียงมากกว่า ถ้าอยู่ที่นี่ พวกเขาอาจได้รับความสนใจมากกว่า
แต่ปราณและเลือดฟางผิงมีมากกว่า 180แคล เขาจะเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่งได้ในไม่ช้า
ขั้นสองและขั้นสามก็อยู่ไม่ไกลนัก
ขั้นสามเป็นขีดจำกัดในมหาลัยวิชายุทธกลางๆ บางครั้งก็มีผู้ฝึกยุทธขั้นกลางจบการศึกษานานๆที
มหาลัยวิชายุทธกลางๆไม่ได้มุ่งเน้นในการชี้แนะผู้ฝึกยุทธขั้นกลาง
กลับกันสองมหาลัยดังมีผู้ฝึกยุทธขั้นกลางจบการศึกษาทุกปี
หวังจินหยางเห็นฟางผิงครุ่นคิด เขาจึงคิดอยู่ครู่นึงแล้วพูด “แน่นอน ฉันต้องเตือนนายก่อนเลยว่ามันมีความเสี่ยงสูงกว่าเช่นกัน”
“ยิ่งค่าตอบแทนภารกิจสูง ความเป็นไปได้ที่นายต้องเสี่ยงชีวิตในภารกิจก็ยิ่งสูง”
“มหาลัยทั้งสองอยู่ในมหานคร อาชญากรบางคนก็ยังกบดานอยู่ที่นั่นหลังลงมือก่ออาชญากรรม ซึ่งหมายความว่าฝีมือของพวกมันแข็งแกร่งไม่เบาเลย”
หวังจินหยางพูดต่อในใจ ‘เซี่ยงไฮ้กับปักกิ่งรับผิดชอบการปราบปรามถ้ำใต้ดินที่ใหญ่ที่สุด ถ้ำใต้ดินที่อันตรายที่สุดอยู่ในทั้งสองเมือง!’
ไม่มีผู้ฝึกยุทธขั้นสามคนไหนที่มีสิทธิ์ล่วงรู้ความลับการมีอยู่ของถ้ำใต้ดิน หวังจินหยางไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้กับฟางผิง
เนื่องจากมหาลัยอยู่ใกล้ทางเข้าถ้ำใต้ดิน เมื่อนักศึกษาที่เรียนอยู่ทั้งสองเมืองมาถึงขั้นสาม พวกเขาจะมีโอกาสรับภารกิจที่เกี่ยวข้องกับถ้ำใต้ดินเพิ่มขึ้น
หนานเจียงไม่ได้อยู่ใกล้ทางเข้า ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับภารกิจที่เกี่ยวข้องกับถ้ำใต้ดิน
ภารกิจที่ชวนสู่ก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเพราะผู้มีอำนาจในชวนสู่ปราบปรามเองไม่ไหว
เซี่ยงไฮ้และปักกิ่งแทบไม่ขอความช่วยเหลือจากมณฑลอื่น พวกเขาจัดการทุกอย่างเอง
เมื่อเกิดเหตุความวุ่นวายที่ถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ จะมีปรมาจารย์มากกว่ายี่สิบคนที่ถูกส่งออกไป มันบ่งบอกถึงความอันตรายอย่างเห็นได้ชัด
จนกว่าฟางผิงจะถึงขั้นสามตอนอยู่มหาลัย เขาจะไม่เป็นไร แต่หลังเขาบรรลุขั้นสาม เขาจะมีสิทธิ์เข้าร่วมภารกิจเหล่านี้ และความเสี่ยงบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นมาก
“มันเป็นทางเลือกของนาย ฉันแนะนำไม่ได้ เพราะมันเป็นทางเลือกที่นายควรตัดสินใจเอง”
“แต่ฉันก็ยังต้องต่อสู้เพื่อมหาลัยวิชายุทธหนานเจียง ด้วยค่าปราณและเลือดปัจจุบันของนาย ฉันช่วยนายได้ ใต้ขั้นสาม ทรัพยากรทุกอย่างฟรี!”
ในฐานะประธานสมาคมวิถียุทธมหาลัยวิชายุทธหนานเจียง หวังจินหยางเปิดเผยเงื่อนไขของตน
ใต้ขั้นสามหมายถึง ฟางผิงจะได้รับทรัพยากรตั้งแต่ขั้นหนึ่งถึงสามฟรี
หลังทะลวงขั้นสามไปแล้ว ราคาทรัพยากรจะกลับมาเหมือนเดิม
นี่เป็นสิทธิประโยชน์สูงสุด!
สิทธิประโยชน์นี้จัดทำโดยหวังจินหยาง ไม่ใช่ทางมหาลัย ทางมหาลัยจะไม่มอบให้เขามากขนาดนั้น
ผู้ฝึกยุทธจะใช้ทรัพยากรอย่างน้อยสิบล้านหยวนเพื่อบรรลุถึงขั้นสาม
สำหรับมหาลัย การลงทุนมากกว่าสิบล้านหยวนกับเตรียมผู้ฝึกยุทธมันไม่คุ้มค่าเลย
เหล่าหวังปกครองสมาคมวิถียุทธ ซึ่งเขาสามารถควบคุมการแจกจ่ายทรัพยากรในมหาลัยได้ นี่เป็นสิทธิประโยชน์ที่เขามอบให้ฟางผิงคนเดียว
เวลานี้ ฟางผิงเริ่มลังเล
ถ้าเหล่าหวังไม่ได้พูดสองประโยคสุดท้าย เขาคงไม่ลังเล แต่ตอนนี้หัวใจของฟางผิงรู้สึกเจ็บปวดเมื่อคิดถึงการทิ้งทรัพยากรมูลค่ากว่าสิบล้านหยวนถ้าเข้าสองมหาลัยดัง
ฟางผิงกล่าวอย่างอ่อนแรง แสดงสีหน้าซับซ้อน “ถ้าผมไปสองมหาลัยดัง ทางมณฑลจะมอบรางวัลหลายล้านเป็นกำลังใจให้แก่ผู้โดดเด่นของมณฑลบ้างไหม?”
“ฮ่าๆ!”
…..