(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 106-107
ตอนที่ 106 ถือไพ่เหนือกว่าซือเหยี่ยน
มั่วไป๋มองเขาแล้วหัวเราะเยาะใส่ “ใครจับกดใครยังไม่แน่นอนล่ะสิ แต่รูปร่างเล็กแบบนี้ของนายอยู่ต่อหน้าซือเหยี่ยนยังไงก็ดูไม่พอหรอก”
เจียงมู่เฉินของขึ้นแล้ว เขาดูขวัญอ่อนขนาดนั้นเชียวเหรอ
‘แม้แต่ความเป็นไปได้จะกลับมาเป็นรุกก็ไม่มีเลย?’
มั่วไป๋เอ่ยเน้นคำต่อคำ “เจียงมู่เฉิน คนเราต้องยอมรับความเป็นจริง”
เจียงมู่เฉินคิดทบทวนอย่างจริงจัง ห่อมั่วไป๋ส่งกลับอเมริกาดีไหม จะได้ไม่กลับมาทิ่มแทงบาดแผลเขาอีก
ยิ่งมั่วไป๋พูดมาแบบนี้ ในใจเจียงมู่เฉินยิ่งมีไฟคิดแผนการใหญ่แผนกลับมาเป็นรุก
เมื่อคืนเป็นเขาเองที่พลาดไม่ระวังจนเสียเมือง
แต่ก็ไม่ได้แปลว่าหลังจากนี้ต้องเสียเมืองทุกครั้ง ไม่ช้าก็เร็วสักวันเขาจะถือไพ่เหนือกว่าซือเหยี่ยนได้
…
หลังจากที่กลับมาจากบ้านของมั่วไป๋ ซือเหยี่ยนก็กลับมาถึงแล้ว เจียงมู่เฉินปวดเอวจนไม่อยากสนใจเขา พาร่างตัวเองปะทะโซฟาแล้วนอนแน่นิ่ง
ซือเหยี่ยนวางโน้ตบุ๊กลง เดินเข้าไปทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ “เป็นไง ยังไม่สบายเหรอ”
ไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้ก็ดีอยู่แล้ว เอ่ยถึงมาที เพียงพริบตาเดียวไฟแห่งอารมณ์โกรธของเจียงมู่เฉินก็ลุกโชนขึ้น “นายยังมีหน้ามาถามฉัน เมื่อคืนตอนที่ฉันบอกให้หยุด ทำไมนายยังไปต่ออีก”
ซือเหยี่ยนทำไขสือลูบปลายจมูกไปมา “เวลาแบบนั้น หยุดไม่ได้หรอก”
เจียงมู่เฉินขบกรามแน่น กัดแขนเขาเข้าไปเต็มๆ เสียเลย ทิ้งรอยฟันใหญ่ๆ ไว้ดูต่างหน้า
ซือเหยี่ยนมองดูคนขี้งอนจอมเย่อหยิ่งอย่างขำๆ ไม่ได้รู้สึกเจ็บด้วยซ้ำ กลับส่งแขนไปให้อีก “คลายโมโหได้หรือยัง ถ้ายังกัดอีกไหม”
เจียงมู่เฉินเห็นแขนที่เกือบจะถูกกัดจนเลือดจะไหลออกมา จู่ๆ ก็รู้สึกปวดใจขึ้นมานิดๆ เอามือผลักแขนของเขาออก “ฉันเป็นหมาเหรอ ถึงได้ชอบกัดคนขนาดนั้น”
มือใหญ่คลึงเคล้าอยู่บนเอวของเจียงมู่เฉิน ซือเหยี่ยนช่วยเขานวดคลายอย่างเบามือ
เจียงมู่เฉินสบายตัวจนทำเสียงฮัมในลำคอไปเรื่อยๆ ตาปรือปรอยเสพสุขอย่างพอใจ
ซือเหยี่ยนหวนนึกถึงกฎเหล็กในการเลี้ยงแมวที่ตัวเองตั้งใจอ่านเป็นพิเศษอย่างเงียบๆ ที่แท้ก็เอามาใช้รับมือกับเจียงมู่เฉินได้แบบเดียวกันเลยจริงๆ
นวดจนต่อมา เจียงมู่เฉินเริ่มจะง่วงแล้ว เขาพลิกตัวเอาหัวซบอิงแอบร่างกายของซือเหยี่ยน “คุณชายง่วงแล้ว ปรนนิบัติคุณชาย พาคุณชายไปนอนเถอะ”
ซือเหยี่ยนไม่เอ่ยเป็นคำที่สอง เขาอุ้มร่างของเจียงมู่เฉินพาไปยังห้องทันที
พาเขาไปเข้าห้องน้ำอาบน้ำ เดิมทีก็อาบกันดีๆ ปรากฏว่าอาบไปอาบมา บรรยากาศในห้องน้ำก็อ่านไป
เจียงมู่เฉินสบายอกสบายใจอยู่ข้างล่าง ซือเหยี่ยนนวดให้เขาทั้งตัว อยู่ในห้องน้ำที่มีไอน้ำอุ่นขนาดนี้ เพียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรง
ยามซือเหยี่ยนเห็นเขากำลังปรือตาสบายอารมณ์อยู่นั้น ก็ฉวยโอกาสจับกด กินฟาดราบเรียบไม่ตกหล่นแม้แต่น้อย
เมื่อเจียงมู่เฉินถูกซือเหยี่ยนอุ้มออกมาจากห้องน้ำ แม้กระทั่งนิ้วมือก็ไม่มีแรงแล้ว เจียงมู่เฉินผู้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้นอนบนเตียงแล้วก็ยังอดจะด่าทอต่อว่าซือเหยี่ยนไม่ได้
ซือเหยี่ยนทำไม่รู้ไม่ชี้มองเขา “คุณบอกว่าให้ผมปรนนิบัติคุณเรื่องหลับนอนไม่ใช่เหรอ”
เจียงมู่เฉินแค้นเคืองใจ อยากจะกระโดดเข้าไปกัดเขาให้ตายไปข้าง
เขาบอกว่า ‘ปรนนิบัติ’ ใช้กับซือเหยี่ยนแล้วคือการปรนนิบัติกันทางร่างกายถึงขนาดนี้ใช่ไหม
…
เช้าวันรุ่งขึ้น เป็นครั้งแรกที่ซือเหยี่ยนไม่ลุกออกไปก่อน เจียงมู่เฉินได้ตื่นเช้าเห็นซือเหยี่ยนที่นอนหลับอยู่ข้างกาย ทันใดนั้นก็รู้สึกเข็ดฟันขึ้นมาหน่อยๆ
เขามองดูใบหน้าของคนรู้หน้าไม่รู้ใจอย่างซือเหยี่ยน แล้วอารมณ์ก็ขึ้นกะทันหัน
ยกเท้าขึ้นถีบอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด…
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นมาระลอกหนึ่ง เจียงมู่เฉินประคองเอวนอนฟุบอยู่บนเตียง
ซือเหยี่ยนลืมตาขึ้นมองเจียงมู่เฉินแล้วถอนหายใจ เมื่อครู่ที่โดนถีบไป เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บรู้สึกจั๊กจี้อะไร สุดท้ายเจียงมู่เฉินร้องระงมอยู่ข้างๆ ตัวเอง
“ยังเจ็บอยู่เหรอ”
เจียงมู่เฉินหายใจเจ็บ “โคตรพ่อง นายมาโดนฉันจับกดสองคืนต่อกันดูบ้างสิ นายจะเจ็บไหม!”
ซือเหยี่ยนลูบจมูก ตัดสินใจไม่รับเอาหัวข้อนี้
ถึงอย่างไร ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะตกมาเป็นฝ่ายถูกเจียงมู่เฉินจับกดแทนอยู่แล้ว
ใช้เวลาอยู่สักพัก เจียงมู่เฉินถึงดิ้นรนตะเกียกตะกายขึ้นมาจากเตียงได้ ซือเหยี่ยนก็อุ้มเขาเข้าห้องน้ำไปนวดอีกครั้ง
ทั้งห้องเต็มไปด้วยไอน้ำ เจียงมู่เฉินเอนตัวฟุบหันหลังอยู่ในอ่างอาบน้ำ
ซือเหยี่ยนอยู่ข้างหลังช่วยบีบนวดเอวให้เขา เจียงมู่เฉินหรี่ตาลงเอ่ยถาม “เมื่อไหร่นายจะให้ฉันจับนายกดสักที”
ซือเหยี่ยนเลิกคิ้ว “ทำไม คุณไม่เจ็บเอวแล้วเหรอ”
‘จับซือเหยี่ยนกดได้ เอวเจ็บก็ช่างปะไร อย่างมากก็แค่ให้ซือเหยี่ยนขยับเองไป’
เขารีบพูด “นายตอบฉันก่อน”
ซือเหยี่ยนคิดทบทวนสักพัก “คืนนี้เหรอ”
ตอนที่ 107 คุณชายเจียงของขึ้น
เจียงมู่เฉินกระตือรือร้นขึ้นมาทันทีทันใด “ได้ งั้นคืนนี้ ถ้านายเล่นลิ้น ฉันเอานายตายแน่”
ซือเหยี่ยนยกยิ้มมุมปากขึ้น “อืม ไม่เล่นลิ้น”
เมื่อคิดว่าคืนนี้จะเปลี่ยนเป็นรุกได้ เจียงมู่เฉินก็อารมณ์ดีขึ้นทันตา แม้กระทั่งรู้สึกว่าซือเหยี่ยนดูหล่อขึ้นกว่าปกตินิดหนึ่ง
กินอาหารเช้าแล้ว เจียงมู่เฉินเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมย่องออกไปข้างนอก ซือเหยี่ยนั่งพิงอยู่ตรงนั้นมองเขา เจียงมู่เฉินโดนเขาจ้องแบบนี้ก็เริ่มจะหวั่นไหวบ้างแล้ว
“นายเอาแต่จ้องฉันทำไม”
“วันนี้ผมหยุดพัก ตั้งใจหยุดพักเป็นพิเศษ” ซือเหยี่ยนเน้นหนักคำว่า ‘ตั้งใจ’ สองคำนี้เป็นพิเศษ
มุมปากเจียงมู่เฉินกระตุกขึ้นมา “ฉันทำให้นายตั้งใจเหรอ”
ซือเหยี่ยนถอนหายใจ มีแฟนไม่รู้จักความโรแมนติกจะทำยังไงดี…
“คุณไม่คิดจะอยู่กับผมเหรอ” ซือเหยี่ยนเป็นฝ่ายพูดเอง
เจียงมู่เฉินเงียบลงไปครู่หนึ่ง คิดว่า ในเมื่อซือเหยี่ยนพูดมาแบบนี้แล้ว ถ้าเขาไม่อยู่ด้วย ก็จะไม่ค่อยมีเหตุมีผลเท่าไหร่ใช่ไหมล่ะ
“งั้นนายกับฉันด้วยกัน?” เจียงมู่เฉินเอ่ยเสนอเสียงอ่อน
“ได้” ซือเหยี่ยนรีบรับคำทันที
เจียงมู่เฉินตะลึงงัน รู้สึกว่า ซือเหยี่ยนตอบรับเร็วเกินไปไหม ไม่ลังเลสักหน่อยเหรอ
ช่วงเช้าเจียงมู่เฉินต้องไปโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลโทรมาให้เขาไปตรวจดูอาการซ้ำอีกรอบ เดิมเขาคิดว่าหัวตัวเองอาการดีขึ้นมากพอควรแล้ว เหมือนว่าไม่จำเป็นต้องไปด้วยซ้ำ
แต่ภายหลังคิดไปคิดมาก็ไม่ได้มีเรื่องสำคัญอะไร จึงตกลงรับปากไป
เมื่อขึ้นนั่งอยู่บนรถแล้ว เจียงมู่เฉินเอ่ยถามซือเหยี่ยน “นายรู้ไหมว่าฉันจะไปไหน ถึงมากับฉันแบบนี้”
ซือเหยี่ยนเลิกคิ้ว “แล้วไงล่ะ ผมยังกลัวว่าคุณจะขายผมไปแล้ว”
เจียงมู่เฉินกะพริบตาปริบๆ “ไม่ตัดความเป็นไปได้นี้ทิ้งหรอก”
“วางใจได้ ไม่มีความเป็นไปได้นี้”
เจียงมู่เฉินเลิกคิ้ว “นายไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน” เขาใกล้จะโดนความมั่นหน้ามั่นโหนกของซือเหยี่ยนโจมตีจนแพ้แล้ว
“คุณทำไม่ลง” ซือเหยี่ยนออกปากมาก็เป็นสี่คำนี้เลย
เจียงมู่เฉินรู้สึกว่าเจ็ดนิ้ว[1]ของตัวเองโดนซือเหยี่ยนไอ้หมอนั่นบีบไว้แน่น หนีไม่รอดมาตั้งแต่แรกแล้ว
เขาหันหน้าหนีตัดสินใจไม่ตอบปัญหาหน้าไม่อายนี้ของซือเหยี่ยน
ทั้งสองคนมาถึงโรงพยาบาลแล้ว หลังจากตรวจดูอาการเสร็จสรรพ เจียงมู่เฉินอดจะเลิกคิ้วไม่ได้ “นายรู้หรือเปล่าว่าวันนี้ฉันต้องมาโรงพยาบาล”
ซือเหยี่ยนลูบจมูก “ก็เพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เอง”
เจียงมู่เฉินกดซือเหยี่ยนติดผนัง “นายแม่งวางแผนไว้ล่วงหน้าใช่ไหม รู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าฉันต้องไปโรงพยาบาล เลยจงใจไม่ไปบริษัท”
เขารู้สึกมาตลอดว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ปกติวันธรรมดาซือเหยี่ยนเวลานี้ต้องไปที่บริษัทแล้ว จู่ๆ ก็มารอเขาอยู่บ้าน ยังอยากอยู่ด้วยกันกับเขาอีก
ที่ทำมาตั้งนานคือมีแผนนี่เอง เจียงมู่เฉินหรี่ตาลง “ทำไม อยากจะมาโรงพยาบาลถือโอกาสมาดูแฟนสาวน้อยของนายใช่ไหม”
ซือเหยี่ยนขยี้ปลายจมูก “ผมไม่ได้คิดจะมาหาเธอ”
เสียงพูดเพิ่งจะหยุดลง มือถือของซือเหยี่ยนก็ดังขึ้นมา
เจียงมู่เฉินคลายมือลงแล้วเลิกคิ้ว “รับสิ”
ซือเหยี่ยนหยิบมือถือออกมา เป็นสายของหลินเหวินฮุ่ยโทรมา เจียงมู่เฉินยิ้มเยาะอยู่ตรงนั้นมองดูเขาเล่นละคร
“พี่ซือเหยี่ยน พี่ถึงโรงพยาบาลแล้วหรือยังคะ” เสียงของหลินเหวินฮุ่ยดังออกมาจากปลายสาย ขมับซือเหยี่ยนกระตุกแล้วกระตุกอีก
เจียงมู่เฉินเชิดสายตามองเขา เมื่อก่อนเขาไม่ได้ค้นพบเลยว่าซือเหยี่ยนจะแสดงละครได้ขนาดนี้
“ฉันรอมาสักพักก็เห็นว่าพี่ยังไม่มา ก็เลยเป็นห่วงพี่ อยากจะโทรถามพี่หน่อยน่ะค่ะ” หลินเหวินฮุ่ยไม่ได้ให้เวลาซือเหยี่ยนพักหายใจ เธอพูดต่อ
ซือเหยี่ยนถือมือถือไว้แล้วเอ่ยเสียงต่ำ “ฉันไม่ได้มาโรงพยาบาล เธอพักผ่อนดีๆ นะ”
พูดจบก็วางสายไปทั้งอย่างนั้น
เจียงมู่เฉินยิ้มเยาะมองท่าทางของซือเหยี่ยน “ไม่ได้มาโรงพยาบาลเหรอ แล้วที่นายยืนอยู่คือที่ไหนกัน”
“ตรวจเสร็จแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”
เจียงมู่เฉินเจียงมู่เฉินทำเสียงเย็นแสดงความไม่พอใจ “ฉันไปก็ได้แล้ว นายอยู่ต่อซะ”
ซือเหยี่ยนขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เจียงมู่เฉินเองก็ไม่ได้เหวี่ยงเขา “ลงทุนทำมาตั้งขนาดนี้ จะไปกันซะดื้อๆ ไม่เหมาะเท่าไหร่หรอก ฉันใจกว้างพอ ให้อิสระนายนิดหน่อยได้”
เขาหันกลับเดินออกไป ไม่ให้ซือเหยี่ยนเลยสักนิด
[1] เจ็ดนิ้ว มาจากสำนวนจีนว่า ตีงูต้องตีใหม่แม่นในตำแหน่งที่หลังหัว 7 นิ้วจีน งูถึงจะสยบทันที คนตีงูก็ย่อมพ้นอันตรายอย่างสำเร็จ