(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 312-313
(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์ – ตอนที่ 312 เป็นห่วง / ตอนที่ 313 ทายา
ตอนที่ 312 เป็นห่วง
ผู้รับผิดชอบของโรงแรมเอ่ย “ใช่ครับ ตอนเช้าคุณซือก็มาแล้วครับ”
ซูเตอร์ได้ยินเขาพูดแบบนี้ ความหวาดระแวงในแววตาถึงได้วางลงไป
“โอเค ฉันรู้แล้ว”
หลังจากเขาวางสายไป ก็กำมือถือไว้เล็กน้อย จะโทษว่าเขาสงสัยมากไม่ได้ เพียงเพราะเจียงมู่เฉินเพิ่งจะถูกเขากักตัวไว้ที่นี่ เขาไม่คิดมากไม่ได้
ซือเหยี่ยนกลับไปห้องหนังสือ ในใจไร้กังวล
เขารู้ว่านิสัยขี้สงสัยของซูเตอร์ต้องไปตรวจสอบการเดินทางของเขาแน่นอน
เพียงแต่ว่าเขากล้าพูดอย่างนี้ เขาก็ต้องเตรียมการเอาไว้เรียบร้อยอยู่แล้ว ไม่มีทางให้ซูเตอร์มองความผิดปกติอะไรออกได้
เขาปิดประตู กำหม้ดเล็กน้อย
พอคิดถึงว่าตอนนี้เจียงมู่เฉินยังอยู่ในกำมือของซูเตอร์ ก็เป็นห่วงไปทั้งใจ
‘ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นยังไงบ้างแล้ว…
…ได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า…
…แล้วถูกกักตัวอยู่ที่ไหน’
เขาจำเป็นต้องรีบสืบหาตำแหน่งของเจียงมู่เฉินออกมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ รีบพาตัวเจียงมู่เฉินออกมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เช่นกัน
เมื่อคิดถึงว่าเจียงมู่เฉินโดนกักตัวอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล ก็อดจะเจ็บปวดใจขึ้นมาไม่ได้
ตามนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นของซูเตอร์แล้ว ตอนนี้เจียงมู่เฉินอยู่ในเงื้อมมือของเขา ต้องไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่นอน
ซือเหยี่ยนทุบโต๊ะไปหมัดหนึ่งอย่างรุนแรงและหนักหน่วง
ความรู้สึกช่วยอะไรไม่ได้แบบนี้มาอีกแล้ว หลายปีก่อนเขาก็เป็นเช่นนี้ รู้อยู่เต็มอกว่าเจียงมู่เฉินตกอยู่ในอันตราย แต่กลับไม่มีกำลังพอจะช่วยคนออกมาได้
ครั้งนี้ เขาไม่มีทางจะให้เจียงมู่เฉินเดินไปเส้นทางเดิมเด็ดขาด
ต่อให้เขาตาย ก็ต้องปกป้องเจียงมู่เฉินไว้รอบด้าน
ซูเตอร์บดเมล็ดกาแฟชงพิเศษมาส่งถึงในห้องหนังสือของซือเหยี่ยนโดยเฉพาะ ซือเหยี่ยนกำลังจัดการเอกสารอยู่บนโต๊ะ
เขาเงยหน้ามองซูเตอร์แวบหนึ่ง ไม่พูดจา
ซูเตอร์ยิ้มเดินเข้าไปอยู่ข้างกายซือเหยี่ยน “เห็นนายลำบากเกินไปแล้ว ฉันตั้งใจชงกาแฟให้นายเป็นพิเศษเลยนะ นายลองชิมดู ฉันไม่ได้เติมน้ำตาล”
ซือเหยี่ยนมองแก้วในมือเขา ยกขึ้นมาดื่มคำหนึ่ง
ซูเตอร์มองเขาอย่างรอคอย “เป็นไงบ้าง”
ซือเหยี่ยนพยักหน้า “ไม่เลว”
สั้นๆ สองคำ ซูเตอร์ยิ้มอย่างเบิกบานใจสุดๆ เขาเข้าใกล้ซือเหยี่ยน “ในเมื่อไม่เลว งั้นนายก็ดื่มเยอะๆ หน่อยนะ”
ซือเหยี่ยนเห็นเขาเป็นแบบนี้ ก็ใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่มเสียเลย เขาลุกยืนขึ้นพิงหน้าต่าง ในมือถือกาแฟที่ซูเตอร์เอามาให้ ดื่มพอเป็นพิธี
ซูเตอร์เดินเข้าไปเห็นเขามองออกไปนอกหน้าต่าง เอ่ยถามเสียงต่ำ “กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ”
“ผมกำลังคิด ว่าช่วงนี้คุณไม่ได้ทำอะไรให้ตกใจประหลาดใจเลยนะ ไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไหร่เลย”
ซูเตอร์หน้าชา นัยน์ตาแฝงความตื่นตระหนก
“ฉัน ฉันน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ”
ซือเหยี่ยนมองเขาแวบหนึ่งอย่างแฝงความหมายลึกซึ้งบางอย่าง “ถ้าไม่มี ก็ดีที่สุดอยู่แล้ว ถ้าคุณทำเรื่องอะไรลงไปแล้วปิดบังผม ถ้าผมรู้เข้า ผมจะไปจากแก๊งมังกรครามทันที”
ซูเตอร์ทำไขสือมองเขา “จะเป็นไปได้ยังไง ช่วงนี้ฉันไม่ได้ไปหาเรื่องเจียงมู่เฉินจริงๆ”
“แบบนั้นก็ดี”
“เหยี่ยน นายยังปล่อยวางเรื่องเจียงมู่เฉินไม่ได้ใช่ไหม”
“ไม่ใช่”
“งั้นทำไมนายถึงเป็นห่วงเขา”
ซือเหยี่ยนมองเขาแวบหนึ่ง “คุณรู้ไม่ใช่เหรอ ว่าผมกับเจียงมู่เฉินครอบครัวพวกเรารู้จักกันมาหลายชั่วอายุคน พ่อแม่ของเขาก็ถือว่าเป็นพ่อแม่ผมเหมือนกัน…
…เห็นแก่หน้าพ่อแม่ ผมก็ต้องใจอ่อนกับเจียงมู่เฉินบ้างเป็นธรรมดา”
“ไม่ใช่เพราะว่านายยังคิดถึงยังลืมเขาไม่ลงได้จริงๆ หรอกเหรอ” ซูเตอร์ไม่เชื่อ
ซือเหยี่ยนเอ่ยอย่างเย็นชา “คุณรู้ไหมว่าทำไมผมถึงเลิกกับเจียงมู่เฉิน”
ซูเตอร์ส่ายหัว เขารู้แค่เพียง ซือเหยี่ยนเลิกกับเจียงมู่เฉินกะทันหัน แต่สาเหตุที่แท้จริงเขาเองก็ไม่ชัดเจน
“เพราะแม่เขารู้เรื่องของพวกเราแล้ว แม่เขาไม่เห็นด้วย”
ซือเหยี่ยนยิ้มเยาะ “เดิมทีก็แค่อยากเล่นกันเท่านั้น พอเรื่องไปเกี่ยวพันถึงครอบครัว ก็ไม่จำเป็นแล้ว ผมไม่อยากให้ทั้งสองตระกูลต้องมาบาดหมางกันเพราะเจียงมู่เฉิน”
ตอนที่ 313 ทายา
เขาพูดอย่างไร้เยื่อใย ราวกับเจียงมู่เฉินไม่ได้สำคัญสำหรับเขา
ตอนเรื่องยังไม่ถึงหูครอบครัว ยังเล่นกับเจียงมู่เฉินได้ แต่พอไปเกี่ยวพันถึงครอบครัว ก็ไม่อยากจะสร้างความลำบากแล้ว
ซูเตอร์มองซือเหยี่ยน อยากจะมองหาอารมณ์อย่างอื่นทีละนิดๆ ออกมาจากใบหน้าของซือเหยี่ยน
แต่ไม่ว่าซูเตอร์จะมองอย่างไร มองถึงความแตกต่างอะไรออกมาไม่ได้ทั้งนั้น
ราวกับซือเหยี่ยนคิดแบบนี้อยู่แล้วไม่มีผิด
“ต่อไปถ้าเจอเจียงมู่เฉินอีก ก็อย่าหาเรื่องเขาเลย จะได้ไม่ทำให้เขาเกิดเรื่อง แล้วพ่อแม่เขาจะมาหาผม ถึงตอนนั้นผมก็ไม่มีทางจะเป็นอิสระไปได้แล้ว”
ซูเตอร์อ้าปากพูด พยักหน้ารับ “รู้แล้ว นายวางใจเถอะ”
เขาพูดประโยคนี้จบก็เงียบลง อยู่เป็นเพื่อนซือเหยี่ยนดื่มกาแฟเสร็จถึงได้ออกไป
หลังจากออกจากห้องหนังสือ ซูเตอร์ก็ไปที่ลานบ้าน เขายืนคิดทบทวนอยู่ที่ลานบ้าน คิดว่าถ้าเป็นไปตามที่ซือเหยี่ยนพูดอย่างนี้จริงๆ
ขณะนี้ที่เขาจับเจียงมู่เฉินมาที่นี่ จะเป็นการสร้างเรื่องเดือดร้อนที่ไม่จำเป็นให้ซือเหยี่ยนหรือเปล่า
แต่ว่าถ้าให้เขาปล่อยเจียงมู่เฉินไปแบบนี้ เขาทำไม่ได้
เขากลืนน้ำลายตัวเองไม่ลง
ซูเตอร์ครุ่นคิด ถ้าต้องปล่อยเจียงมู่เฉินไป เขาต้องทรมานอยู่ที่นี่ยิ่งกว่าเจียงมู่เฉินอีกแน่นอน
‘เขาชอบซือเหยี่ยนไม่ใช่เหรอ’
‘งั้นก็ให้ซือเหยี่ยนทำให้เขาเจ็บปวดเองก็ได้แล้ว’
แบบนั้น เขาก็จะไม่มีอะไรโหยหาซือเหยี่ยนได้อีก
ซูเตอร์ตัดสินใจแน่วแน่ นัยน์ตาประกายความอำมหิต
เขาไปที่ห้องชั้นใต้ดินอีกครั้ง ให้คนเฝ้าเจียงมู่เฉินเอายาส่งให้เจียงมู่เฉิน
เดิมเขาคิดจะกักตัวเจียงมู่เฉินอีกสองวัน ให้อีกฝ่ายทุกข์ทรมานสักหน่อย
แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนความคิดแล้ว รีบให้เจียงมู่เฉินรักษาแผลให้หายดีโดยเร็วที่สุด จะได้ไม่ให้ซือเหยี่ยนเห็นเขาแล้วเกิดสงสาร คิดถึงความสัมพันธ์เก่าๆ แล้วพาลตัดใจไม่ลง
ถึงตอนนั้นจะกลายเป็นเขาเองที่ช่วยเจียงมู่เฉินทำชุดแต่งงานแทน
……
ยาขวดหนึ่งโยนเข้ามา เจียงมู่เฉินรับยานั้นมา อยากอ่านให้ชัด แต่จะทำอย่างไรได้ เมื่อแสงไม่พอและมืดจนเกินไป อะไรก็มองไม่ชัดสักอย่าง
เขาเปิดฝาดมกลิ่นสักพัก ควรจะเป็นที่ใช้ทาบาดแผลบริเวณช่วงเอวของเขา
เจียงมู่เฉินคิดไม่ตก ทำไมเวลานี้ซูเตอร์ถึงเอายาให้เขาได้
ตามความรู้สึกนึกคิดของซูเตอร์แล้ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะเอายาให้เขา สำหรับเรื่องที่ทำไมจู่ๆ เขาถึงเปลี่ยนความคิดกะทันหันได้ เจียงมู่เฉินก็คร้านจะคิดสืบสาวราวเรื่อง
เวลานี้เขาต้องการยานี้พอดี ในเมื่อซูเตอร์เอายาให้เขา ก็จะไม่ลงมือทำอะไรได้อยู่แล้ว
เขาคลำดึงเปิดเสื้อเชิ้ตบนตัวเขาที่เสียหายท่ามกลางความมืด บริเวณบาดแผลที่สมานกันฉีกออกอีกครั้ง เพียงครู่เดียวเลือดแดงฉานไหลซึมออกมา
เจียงมู่เฉินเจ็บจนคิ้วขมวดหากัน เขากัดฟันอย่างฝืนทน ค่อยๆ ดึงเปิดเสื้อผ้าบนตัวไล่ตามผิวหนังลงมาทีละนิดๆ
การกระทำเพียงสั่นๆ ไม่กี่อย่าง เขาใช้เวลาประมาณสิบนาทีเต็มๆ ถึงจัดการจนเสร็จได้
เขาอดทนข่มความเจ็บปวด เอายาทาไปยังตำแหน่งของบาดแผลบนตัว
เมื่อบาดแผลสัมผัสกับตัวยา ก็เจ็บแสบขึ้นมาเป็นระลอก
เจียงมู่เฉินกัดฟันถึงได้ไม่ให้ตัวเองเจ็บจนระเบิดคำสบถออกมา เขาถูกตีตั้งแต่เล็กจนโตมาหลายปีขนาดนี้ ยังไม่เคยได้รับความเจ็บปวดทรมานลำบากขนาดนี้มาก่อน
‘ถ้าไม่คิดเข้าไปสำรวจถ้ำเสือจนถลำลึก เขาก็ไม่มีทางตกต่ำมาถึงขั้นที่ถูกกระทำได้ขนาดนี้หรอก’
เหงื่อผุดบางๆ ไปทั้งร่างกาย เจียงมู่เฉินหลับตาลงข่มความเจ็บปวดดังคลื่นซัดลงไป
เขาสูดหายใจเสียงต่ำเล็กน้อย จะได้ให้ความรู้สึกเจ็บไม่รุนแรงมากนัก
กว่าจะผ่อนคลายลงได้ไม่ใช่ง่ายๆ หลังจากนั้นถึงได้วางยาในมือลง
เขาพิงอยู่ตรงนั้น ระมัดระวังไม่ให้ทับโดนบาดแผล ร่างกายแข็งทื่อเพราะความเจ็บปวด
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ประตูถูกเปิดอีกครั้ง แสงแยงตาจนทำให้เจียงมู่เฉินหลับตาลงโดยไม่ตั้งใจ
เขารู้สึกเพียงแค่ที่ประตูมีคนหนึ่งยืนอยู่ แต่กว่าเขาจะลืมตาขึ้น ประตูก็ถูกปิดลงอีกครั้งแล้ว