(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 394-395
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์ – ตอนที่ 394 ไม่เกี่ยวกับเขา / ตอนที่ 395 ต้องจากไปแล้ว
ตอนที่ 394 ไม่เกี่ยวกับเขา
เพียงครู่เดียวมั่วไป๋ก็มาเปิดประตูอย่างรวดเร็ว
เจียงมู่เฉินเห็นมั่วไป๋แวบแรก ก็ตะลึงค้างไปพักหนึ่ง มั่วไป๋ผอมลงเกือบเท่าตัว ผอมลงกว่าตอนที่เขาไปเสียอีก
เจียงมู่เฉินคว้าตัวเขาไว้ทันที “นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมนายผอมลงเยอะขนาดนี้ นายคงจะไม่แอบลดน้ำหนักลับหลังฉันหรอกใช่ไหม”
มั่วไป๋ยกมุมปากขึ้น “ฉันจะลดน้ำหนักที ต้องแอบทำลับหลังนายด้วยหรือไง”
เจียงมู่เฉินฝังตัวลงไปกับโซฟา มองมั่วไป๋อย่างละเอียดถี่ถ้วน แสดงท่าทีต้องการให้เขาสารภาพมาให้ชัดเจน
มั่วไป๋จนใจ กุมขมับ
“ไม่มีอะไรจริงๆ”
เจียงมู่เฉินกวาดสายตามองเขาแวบหนึ่ง “ฉันไม่เชื่อ”
“ไม่มีอะไรต้องสารภาพจริงๆ”
เจียงมู่เฉินยังคงถลึงตาใส่เขา “ก่อนหน้านี้นายบอกว่านายเลิกกับไป๋จิ่งแล้ว เป็นเพราะเขาหรือเปล่า”
เอ่ยถึง ‘ไป๋จิ่ง’ สองพยางค์นี้ นัยน์ตามั่วไป๋ก็ประกายวาบ
“ไม่เกี่ยวกับเขา”
เจียงมู่เฉินเก็บความผิดปกติที่วาบขึ้นมาผ่านใบหน้าของมั่วไป๋ไว้ในสายตา เขามองมั่วไป๋ตรงๆ “นอกจากไป๋จิ่งแล้ว ฉันหาความเป็นไปได้อย่างอื่นไม่เจอ”
มั่วไป๋ถอนหายใจ “นายจะต้องรู้ให้ได้เลยใช่ไหม”
เจียงมู่เฉินมองเขาด้วยความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ “แหงสิ”
ดูท่าว่าเขาจะปิดบังเจียงมู่เฉินต่อไปไม่ได้แล้ว จึงเอ่ยขึ้น “ไป๋จิ่งก็คือคนคนนั้นเมื่อตอนนั้น”
เจียงมู่เฉินชะงักงัน ไม่ได้เข้าใจความหมายของมั่วไป๋ในทันที
กว่าห้านาทีเต็มๆ เจียงมู่เฉินก็เด้งตัวขึ้นมาจากโซฟาในเวลาอันรวดเร็ว
“นายจะบอกว่าไป๋จิ่งคือเจ้าคนระยำในตอนนั้น คนที่เกือบจะทำนายตายคนนั้นเหรอ”
มั่วไป๋พยักหน้ารับ “ใช่แล้ว”
“นายรู้อยู่เต็มอกว่าไป๋จิ่งคือเขา ทำไมนายไม่บอกฉัน ทำไมถึงยังต้องไปยุ่งเกี่ยวพันกับไป๋จิ่งอีก”
เจียงมู่เฉินจ้องมองเขา “นายตัดเขาไม่ลง หรือว่า…อยากจะแก้แค้นเขา”
มั่วไป๋จนใจยิ้มด้วยความขมขื่น “ปิดบังอะไรนายไม่ได้จริงๆ”
“ฉันอยากแก้แค้นเขา เขาก็เป็นฝ่ายมาหาฉันเองพอดี ฉันก็เล่นไปตามน้ำให้เขาตกหลุมพราง”
“ดังนั้นนายเลยจงใจชักจูงความสนใจที่เขามีต่อตัวนายมา จงใจให้โอกาสเขา จงใจคบกับเขาเหรอ”
มั่วไป๋หลับตาลง ฝืนยิ้มอย่างเสียไม่ได้
“ใช่ นายพูดถูก ฉันค่อยๆ ล่อเขาเข้ามาทีละนิดๆ ค่อยๆ ให้เขาตกหลุมรักฉันทีละนิดๆ…
…ตอนนั้นทั้งใจฉันมีแค่เขา แต่เขาเหยียบมันลงพื้นอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด งั้นแล้วทำไมครั้งนี้ฉันจะเอาคืนเขาไม่ได้”
เจียงมู่เฉินมองมั่วไป๋อย่างแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง “ดังนั้นนายถึงไม่ได้บอกฉันเรื่องความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างนายกับไป๋จิ๋ง ก็เพราะไม่อยากให้ฉันขัดขวางนาย”
“เฉินเฉิน ถ้านายรู้แผนของฉัน นายไม่มีทางจะเห็นด้วยอยู่แล้ว”
เจียงมู่เฉินจะระเบิดลงแล้วจริงๆ เขาใช้เท้าเตะอยู่บนโซฟา “ฉันจะเห็นด้วยได้ยังไง นายไม่ควรจะลดตัวลงไปยุ่งกับอีกด้วยซ้ำ”
ในเมื่อไป๋จิ่งทำแบบนี้ ถึงมั่วไป๋เอาชนะได้ แต่ก็เจ็บกันทั้งสองฝ่ายอยู่ดี
เขาชอบคนคนนั้นมากแค่ไหน ตัวเองไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ ต่อให้มั่วไป๋เกลียดไป๋จิ่งอีก แต่ใครจะรับประกันได้ว่ามั่วไป๋จะไม่ตกหลุมรักไป๋จิ่งอีกครั้ง
“แต่ฉันไม่ยินดี” มั่วไป๋ฝืนยิ้ม “ฉันจะยินดีได้ยังไง”
‘เขาตกอยู่ท่ามกลางนรกแล้ว ถ้าเขาไม่ดึงไป๋จิ่งลงมา เขาจะยินดีได้ยังไง’
หลายปีมานี้ เขาอับจนหนทาง และไม่เคยจะไม่อาศัยยาทำให้นอนหลับสนิท
เขาทุกข์ระทมทรมานกับเรื่องในตอนนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มีหลายครั้งที่เขาตกใจตื่นจากความฝัน หลังจากนั้นก็ทำได้เพียงแค่นั่งลงท่ามกลางความมืด มองดูเมืองที่ค่อยๆ สว่างขึ้นทีละนิดๆ
ชีวิตที่อยู่ในส่วนลึกท่ามกลางแสงสว่างแต่กลับรับรู้ถึงความอบอุ่นไม่ได้ช่างเจ็บปวดทรมานเกินไปเสียจริง
ดังนั้นเขาจึงอยากดึงไป๋จิ่งลงนรกนี้ไปด้วย
อยากให้ไป๋จิ่งได้ลิ้มรสความเจ็บปวดทรมานที่เขาประสบพบเจอมาในหลายปีนี้
อยากให้ไป๋จิ่งรู้ว่าความเจ็บปวดในบางเรื่อง บางคนก็ลืมไม่ลงไปตลอดชีวิต
เพียงแต่มั่วไป๋เปล่าเปลี่ยวใจเกินไปแล้วจริงๆ
เขาเตือนตัวเองอย่างไม่ลดละ ว่าสำหรับไป๋จิ่งก็เป็นเพียงการแก้แค้น แต่กลับถลำลึกลงไปในความอบอุ่นที่ไป๋จิ่งมอบให้ทีละนิดๆ
ตอนที่ 395 ต้องจากไปแล้ว
ขอเพียงแต่ไป๋จิ่งมอบความอบอุ่นให้เขาเพียงน้อยนิด
ความเกลียดชังในใจเขาก็ลดลงไปหนึ่งส่วน
เขายืนหยัดต้องการจะแก้แค้นมาตลอด แต่ว่าจนกระทั่งหลังจากแก้แค้นเสร็จแล้ว เขาถึงได้พบว่า ที่แท้ไป๋จิ่งได้ฝังรากลึกลงไปในหัวใจเขาโดยไม่รู้ตัวมาตั้งแต่แรกแล้ว
เขาตกหลุมรักไป๋จิ่งอีกครั้ง
มั่วไป๋ยิ้มเจื่อนๆ “เฉินเฉิน นายคงไม่รู้หรอกว่า ตอนที่ได้เห็นว่าไป๋จิ่งรู้ว่าฉันก็คือหลินฝาน ฉันมีความสุขมากแค่ไหน…
…ต่อหน้าเขา ในที่สุดฉันก็ไม่ต้องใส่หน้ากาก ไม่ต้องเสแสร้งเป็นคนอื่น
ยามที่มั่วไป๋พูดว่ามีความสุข ใบหน้าซูบเซียวของเขากลับไม่มีท่าทีจะมีความสุขเลยสักนิด
เจียงมู่เฉินถอนหายใจอย่างเสียไม่ได้
ไม่ว่าจะไม่สนับสนุนแค่ไหนก็ตาม ทุกอย่างในตอนนี้ก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว
“ในเมื่อแก้แค้นแล้ว ต่อจากนี้ไปนายกับไป๋จิ่งก็จะไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกันอีกแล้ว”
เจียงมู่เฉินถอนหายใจ “ทุกอย่างผ่านไปแล้ว”
‘ผ่านไป…’
มั่วไป๋ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะผ่านไปได้จริงๆ
เขายิ้มหัวเราะ แค่พูดออกไป “อาจจะมั้ง”
ตอนนี้เขาไม่อยากคิดอย่างอื่น คิดแค่เพียงว่าจะปล่อยไป๋จิ่งไปทีละนิดๆ ค่อยๆ ลบคนคนนี้ออกไปจากหัวใจจนหมดไม่มีเหลือ
“เฉินเฉิน ฉันคิดว่าจะกลับอเมริกาแล้ว”
เจียงมู่เฉินตะลึงงัน “นายอยากจะอเมริกาเหรอ”
มั่วไป๋ยิ้มหัวเราะ เขาชี้ที่หัวตัวเอง “ตรงนี้ของฉันตอนนี้อาการค่อนข้างสาหัส จำเป็นต้องกลับไปรักษา”
อาการทางจิตใจของเขาติดขอบสภาวะเสียสติแล้ว สามารถเสียสติได้ทุกเมื่อ
ไม่กี่วันมานี้เขาเคยพูดคุยกับหมอมาหลายครั้งแล้ว หมอของเขาให้เขารีบกลับอเมริกาเพื่อเข้ารับการรักษาโดยด่วน
ไม่อย่างนั้นหลังจากนี้ ใครก็รับประกันไม่ได้
เมื่อเจียงมู่เฉินได้ยิน ใจก็จมดิ่งในพริบตา “นี่ก็เพราะไป๋จิ่งเหรอ”
“อาจจะมั้ง เพียงแต่ว่าตอนนี้ถามอีกก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว” มั่วไป๋หยุดสักพัก “ฉันจองตั๋วเครื่องบินของพรุ่งนี้แล้ว นายไม่ต้องมาส่งฉันนะ”
เจียงมู่เฉินมองดูมั่วไป๋ที่ผอมซูบจนแทบจะเหลือแต่กระดูก แม้กระทั่งหัวใจแตกสลายถึงเพียงนี้แล้ว แต่กลับยังทำเป็นยิ้มเหมือนไม่สนใจอะไรเลยสักนิด
เจียงมู่เฉินยิ้มหัวเราะ ในเมื่อมั่วไป๋ไม่อยากจะให้เขาเป็นห่วง เขาแค่ทำตามที่มั่วไป๋ต้องการก็เรียบร้อยแล้ว
เขาเอื้อมมือไปประคองกอดมั่วไป๋เอาไว้ แล้วเอ่ยเสียงต่ำ “ไป๋ไป๋ นายกลับไปรักษาดีๆ นะ รอวันที่นายหายดี ฉันไปหานายได้ไหม”
มั่วไป๋ยิ้มหัวเราะ ก่อนเอ่ยเสียงต่ำ “ได้สิ”
……
เช้าวันต่อมา มั่วไป๋ลากกระเป๋าเดินทางใบเดียวที่ตัวเองจัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ไว้เรียบร้อยออกจากถานโจวไป
เครื่องบินทะยานขึ้นไป พาดผ่านท้องฟ้าสีขาวโพลน
มั่วไป๋นั่งพิงเก้าอี้หลับตาลง
จนถึงตอนนี้ ทุกอย่างก็ควรจะจบสิ้นได้แล้ว
ถือเสียว่าเขาก็แค่ฝันลมๆ แล้งๆ ตอนนี้ก็ตื่นจากฝันแล้ว ถานโจวแห่งนี้ ต่อจากนี้เขาคงจะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว
บางทีก็อาจจะมีเพียงวิธีนี้ เขาถึงจะปล่อยวางไป๋จิ่งไปได้สักที
ถึงอย่างไรระหว่างเขากับไป๋จิ่ง ก็สะสางกันจบไปแล้ว ไม่มีอะไรติดค้างกันอีกแล้ว
……
เจียงมู่เฉินโทรหาซือเหยี่ยน เอ่ยปากก็ถามหาที่อยู่ของไป๋จิ่งทันที
ซือเหยี่ยนรู้สึกแปลกไม่เบา เจียงมู่เฉินไม่ชอบขี้หน้าไป๋จิ่งไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ๆ ถึงโทรมาถามหาไป๋จิ่งได้
แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย บอกไปตรงๆ ว่าไป๋จิ่งอยู่ที่โรงพยาบาล
หลังจากเจียงมู่เฉินทราบว่าไป๋จิ่งอยู่ที่ไหนแล้ว ก็วางสายแล้วไปหาไป๋จิ่งที่โรงพยาบาลทันที
เจียงมู่เฉินรีบรุดมายังโรงพยาบาล เขาทำสีหน้าเย็นชาสาวเท้ายาวๆ เดินมาถึงยังห้องพักผู้ป่วยของไป๋จิ่ง เขาไม่ได้เคาะประตู แต่ผลักประตูเข้าไปทั้งอย่างนี้
เมื่อไป๋จิ่งเห็นเจียงมู่เฉินเดินเข้ามา ก็ตะลึงงันไปเล็กน้อย แต่ก็เข้าใจอะไรๆ ได้อย่างรวดเร็ว
เจียงมู่เฉินมาเอาเรื่องกับเขา นอกจากซือเหยี่ยนแล้ว ก็มีเพียงแค่เรื่องของมั่วไป๋
ระหว่างเขากับซือเหยี่ยนไม่มีอะไรจำเป็นต้องให้เจียงมู่เฉินออกหน้า ความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวก็มีเพียงแค่มั่วไป๋แล้ว
“วันนี้เครื่องบินของมั่วไป๋บินออกจากถานโจวไปแล้ว”
เจียงมู่เฉินเอ่ยปากก็เอ่ยถึงเรื่องนี้ทันที เขามองไป๋จิ่งที่ซีดเซียวผิดปกติ ก็ครุ่นคิดแล้วเอ่ยเสียงต่ำออกมา “ถ้านายชอบเขาจริงๆ ก็น่าจะลองไปตามเขาดู…
…แต่ถ้านายเหมือนกับตอนนั้น แค่เพียงเล่นๆ เท่านั้น…
…นายก็ถือซะว่าวันนี้ฉันไม่ได้มา”
เจียงมู่เฉินเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชาจบไปเพียงไม่กี่ประโยค ก็ออกจากโรงพยาบาลไปโดยไม่เหลียวหลัง