(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 472-473
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 472 ออกไปซื้อของข้างนอก
ซือเหยี่ยนทำอาหารมาสี่อย่างเต็มๆ จาน ต่อให้สามสี่คนกินก็กินพอดี
แต่พวกเขาผู้ชายตัวใหญ่สองคนกลับกินหมดไม่มีเหลือแม้แต่น้อย
หลังจากกินอาหารกันเสร็จ เจียงมู่เฉินถอนหายใจ รู้สึกว่าในที่สุดตัวเองก็มีชีวิตกลับมาแล้ว
เขามองซือเหยี่ยนที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำ “อยากจะดูข่าวในอินเทอร์เน็ตไหม”
ซือเหยี่ยนคิดก็ไม่คิดส่ายหัวทันที “ไม่ดู”
เจียงมู่เฉินเลิกคิ้วขึ้นเงียบๆ “ไม่ดูจริงๆ เหรอ”
“มีเวลาแบบนั้น สู้ไปเล่นกับแฟนของผมยังจะดีกว่า”
เจียงมู่เฉิน “…”
‘ร่างเขาใกล้จะพังแล้ว ยังจะเล่นอีกเหรอ’
เจียงมู่เฉินนั่งอยู่บนเก้าอี้ รู้สึกไม่สบายตัว จึงวางขาลง เตรียมจะลุกยืนขึ้นเดินไปยังโซฟา เดิมทียังไม่รู้สึก แต่พอยืนขึ้นมา ถ้าไม่ใช่เพราะข้างๆ มีโต๊ะอยู่ อีกนิดเขาก็จะขายหน้าเซล้มลงไปแล้ว
โดยเฉพาะกระดูกสันหลังและเอว รู้สึกจะหักเอาให้ได้
ซือเหยี่ยนสะดุ้งตกใจ รีบพุ่งตัวเข้าไปประคองเขาโดยพลัน
เจียงมู่เฉินโบกมือไปมา “ไม่ต้อง ฉันเดินเอง” จะให้ซือเหยี่ยนอุ้มเขาไปอุ้มเขามาอย่างนี้ตลอดไม่ได้หรอก
‘ถึงแม้ว่าจะอุ้มไปอุ้มมาจะฟินมากก็เถอะ แต่ถ้าหากว่าเจ้าหมอนี่อุ้มเขาแล้ว จู่ๆ เกิดมีอารมณ์คึกขึ้นมา’
‘เขาจะมีชีวิตต่อได้อีกเหรอ’
ด้วยเหตุนี้เจียงมู่เฉินจึงยืดเอวขึ้นด้วยความยากลำบาก เดินมาทีละก้าวๆ จากห้องอาหารจนถึงห้องรับแขก เขาเดินช้ามากๆ ในทุกย่างก้าว
ซือเหยี่ยนจ้องมองเขามาตลอดทาง แสดงท่าทีว่าถ้าเกิดเขาล้มขึ้นมา จะพุ่งตัวเข้าไปอุ้มเขาทันที
เพียงแต่น่าเสียดาย เจียงมู่เฉินไม่ได้ให้โอกาสนี้กับเขา
เจียงมู่เฉินเดินไปถึงที่โซฟา เอนพิงอย่างสบายตัว
ซือเหยี่ยนเองก็ไม่รีบร้อนเดินเข้าไป เขาเก็บของบนโต๊ะให้เรียบร้อย แล้วหั่นผลไม้ จากนั้นถึงได้เดินเข้าไปยังห้องรับแขก
เขายื่นมือไปเปิดทีวี เปิดหนังเรื่องหนึ่ง แล้วไปนั่งบนโซฟาทันทีหลังจากนั้น เจียงมู่เฉินหนุนนอนตักของซือเหยี่ยนโดยอัตโนมัติ
ซือเหยี่ยนขยับตัวปรับท่าทางที่สบายให้เจียงมู่เฉินพิงได้สบายมากขึ้น
เจียงมู่เฉินถือโอกาสหยิบนิตยสารมาเปิดดู เปิดดูไปด้วยพลางมองซือเหยี่ยนไปด้วย “ช่วงนี้นายจะไม่ไปบริษัทจริงๆ เหรอ”
“อืม” ซือเหยี่ยนขานรับ “พ่อผมอยู่ทั้งคน”
เจียงมู่เฉินครุ่นคิด “งั้นพรุ่งนี้นายไปที่ที่หนึ่งเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”
ซือเหยี่ยนพยักหน้ารับ “ได้สิ”
ถึงอย่างไรเรื่องราวก็คลี่คลายไปได้เยอะพอสมควรแล้ว เขาเองก็ต้องเข้าเรื่องหลักได้แล้ว
ทั้งสองคนอยู่ในห้องรับแขกกันอยู่พักหนึ่ง แล้วก็กลับไปนอนกลางวันที่ห้องกันอีกครั้ง
กว่าจะตื่นขึ้นมาอีกทีก็มืดค่ำแล้ว ตื่นมาคราวนี้ ในที่สุดเจียงมู่เฉินก็มีชีวิตชีวากลับมาอย่างเต็มเปี่ยมได้เสียที
ทั้งสองคนไม่ได้กินมื้อค่ำกันที่บ้านของพวกเขา แต่ออกไปเดินเล่นซื้อของแล้วถือโอกาสกินข้าวข้างนอกด้วยกัน
หลังจากเรื่องเมื่อวันก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาออกไปข้างนอกด้วยกันในเวลาเดียวกัน ใบหน้าของพวกเขาทั้งคู่ดึงดูดสายตาผู้คนมากมายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งมาบวกเรื่องเมื่อวันก่อนเข้าไปอีก
เพียงชั่วครู่ชั่วยาม ทั้งถานโจวไม่มีใครไม่รู้จักพวกเขา
เจียงมู่เฉินเดินเชิดหน้าจูงมือซือเหยี่ยน ทั้งสองคนเดินเล่นกันอย่างเปิดเผยไปตามทาง
ไม่สนใจสายตาของคนรอบข้างที่มองเข้ามาเลยสักนิด
เดิมทียังรู้สึกว่าพวกเขาเป็นคนแปลกประหลาด แต่พอเห็นพวกเขาไม่หวั่นเกรงทำตัวสบายๆ กันขนาดนี้ เพียงไม่นานก็รู้สึกว่าพวกเขาเหมือนจะไม่ได้มีอะไรแปลกประหลาดเลย
อีกอย่างเมื่อพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน ช่าง…เหมาะสมกันเสียจริงๆ
โดยเฉพาะเหล่าสาวน้อยหัวใจกุ๊กกิ๊ก เห็นพวกเขาสองคนก็พากันตื่นเต้น ดวงตาแวววาววิบวับเป็นประกายดาวเล็กๆ แล้ว
“รีบมาดูเร็ว พวกเขานั่นไง ตัวจริงหล่อชะมัดเลย”
“หัวใจกุ๊กกิ๊กของคู่สามีไง ทั้งสองคนหล่อจัง”
เจียงมู่เฉินได้ยินเสียงรอบข้าง ก็ยกยิ้มมุมปากอย่างขบขัน เขาเอียงหน้ามองซือเหยี่ยนที่อยู่ข้างๆ แล้วเอื้อมมือไปคล้องคอเขามา ก้มลงจูบใบหน้าด้านข้างของเขา
การกระทำนี้ยิ่งทำให้เหล่าสาวน้อยตื่นเต้นจนหัวใจจะออกมาเต้นข้างนอกแล้ว
เจียงมู่เฉินยังไม่ลืมที่จะกะพริบตาให้พวกเธอด้วย
ซือเหยี่ยนเห็นเขาหลอกให้คนอื่นดีใจได้อย่างหน้าชื่นตาบาน ก็เอื้อมมือไปลากคนออกจากตรงนั้น จะได้ไม่ให้เจ้าหมอนี่ยังโปรยเสน่ห์ไม่เลิกอีก
ตอนที่ 473 แฟนของฉันซือเหยี่ยน
เจียงมู่เฉินโดนลากตัวไป เขายังถอนหายใจอย่างเสียดาย “จะไปแล้วเหรอ เร็วไปไหม ฉันยังไม่ได้ทักทายพวกเธอเลย”
ซือเหยี่ยนกวาดสายตามองเขาแวบหนึ่ง “คนทั้งโลกรู้แล้วว่าคุณชอบผู้ชาย ไม่มีอะไรให้ต้องไปทักทายกับคนอื่นเขาหรอก”
เจียงมู่เฉินทำเสียงออดแอด จากนั้นก็สูดหายใจเข้าไปเต็มๆ
“เหมือนฉันจะได้กลิ่นหึงหึ่งๆ สักหน่อยแล้ว” เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้ กะพริบตาปริบๆ “อะไรกัน ออกมาข้างนอกแล้วยังหึงกันด้วยเหรอ”
ซือเหยี่ยนก้มหน้าลงก็เห็นดวงตาแต่งแต้มรอยยิ้มของเจียงมู่เฉินพอดี เขาอดจะเม้มปากแล้วก้มหน้าลงงับคนตรงหน้าไปคำหนึ่งไม่ได้
“ซี๊ด…” เจียงมู่เฉินร้องขึ้น “เป็นหมาหรือไง”
“หึ” ซือเหยี่ยนทำเสียงพ่นลมหายใจออกมา “กัดหมาแล้ว”
เจียงมู่เฉิน “…”
ขณะที่กินข้าวกันอยู่นั้น เฉิงฉีโทรหาเจียงมู่เฉิน ถามเขาว่าอยากจะมานั่งเล่นที่หลานเยี่ยหรือเปล่า
เจียงมู่เฉินชัดเจนอยู่ในใจ เขาคงจะอยากจะถามเรื่องของซือเหยี่ยน
แต่ว่าตอนนี้เจ้าตัวอยู่ข้างกายเขาพอดี พาไปด้วยเลยเสียก็สิ้นเรื่อง คิดได้เช่นนี้ จึงรับปากไปตรงๆ กินข้าวเสร็จก็จะไปกันทันที
ณ หลานเยี่ย มีคนกลุ่มหนึ่งจ้องมองเฉิงฉี พร้อมเอ่ยถามอย่างร้อนใจ “เป็นยังไงบ้าง มาไหม”
เฉิงฉีพยักหน้า “เดี๋ยวก็จะมากันแล้ว”
“ดี งั้นพวกเราก็รอเขาที่นี่ น่าแปลกใจจริงๆ เขาเป็นศัตรูคู่แค้นกับซือเหยี่ยนไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ๆ ถึงมาคบกันได้”
“รอคุณชายเจียงมา เดี๋ยวก็ชัดเจนเอง”
“แต่ว่าครั้งนี้เล่นใหญ่ซะขนาดนั้น คงจะไม่ใช่เรื่องโกหกหรอก”
เฉิงฉีไม่ได้แสดงท่าทีตอบสนองมากนัก ตั้งแต่ตอนนั้นที่เจียงมู่เฉินไปวนเวียนอยู่รอบตัวซือเหยี่ยนแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาก็คาดเดาถึงว่าจะมีวันนี้ได้
เพียงแต่ว่าคิดไม่ถึงว่าจะใช้วิธีแบบนี้เปิดตัวต่อสาธารณะได้
เขาอยากจะถามเจียงมู่เฉินจริงๆ เกี่ยวกับเรื่องของซือเหยี่ยน
……
หลังจากเจียงมู่เฉินวางสายไป เขาก็เงยหน้ามองซือเหยี่ยนแวบหนึ่ง “เดี๋ยวนายไปหลานเยี่ยเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”
ซือเหยี่ยนไม่ได้ถามอะไร เขาตบปากรับคำทันที
ทั้งสองคนกินข้าวกันเสร็จ ก็พากันมุ่งหน้าไปยังหลานเยี่ย ระหว่างทางเจียงมู่เฉินนั่งคิดอยู่ในรถ ครั้งนั้นตัวเองมีแต่ใจที่อยากจะหาเรื่องซือเหยี่ยน
ถ้าไม่ใช่เพราะครั้งนั้น ก็จะไม่มีเรื่องต่อจากนั้นตามมาแล้ว
ยิ่งจะโยงไปถึงเรื่องเมื่อห้าปีก่อนนี้ไม่ได้เลย พอคิดถึงเรื่องเหล่านี้ เจียงมู่เฉินก็ยิ้มออกมาโดยไม่ตั้งใจ
ซือเหยี่ยนขับรถไปเอียงหน้ามามองเขา “ยิ้มอะไร”
“ฉันกำลังคิดว่าหลานเยี่ยถือว่าเป็นผู้มีพระคุณของพวกเราสองคนไปแล้ว” ขณะที่เขาพูดก็ยังกะพริบตาปริบๆ ให้ซือเหยี่ยนด้วย
“อืม” ซือเหยี่ยนขานรับ เขารู้ได้ในทันทีว่าที่เจียงมู่เฉินพูดนั้นหมายความว่าอะไร
ทั้งสองคนมาถึงที่หลานเยี่ยก็เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว
เป็นเวลาที่ผู้คนคึกคักที่สุดในหลานเยี่ย ซือเหยี่ยนจอดรถอยู่ข้างนอก แล้วเดินเข้าไปพร้อมกันกับเจียงมู่เฉินหลังจากนั้นทันที
มีกลุ่มคนที่ได้ยินว่าเจียงมู่เฉินจะมา ก็ตั้งตารอคอยมองมาที่ทางเข้าอยู่ตลอดเวลา
มองหากันอยู่ตั้งนาน ในที่สุดเจียงมู่เฉินก็เดินเข้ามา เพียงแต่ว่ามันเกินความคาดหมายของพวกเขาไปมาก ยังมีซือเหยี่ยนอยู่ข้างกายมาด้วย
คนกลุ่มนั้นตะลึงงันไปพักหนึ่ง เดิมทียังอยากจะถามเป็นการส่วนตัว ผลปรากฏว่าเจียงมู่เฉินกลับเปิดเผยตรงไปตรงมาพาเจ้าตัวมาเองเสียเลย
เฉิงฉีเองก็แปลกใจอยู่ในที แต่ว่าพอคิดว่าซือเหยี่ยนมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ด้วยก็เป็นเรื่องที่ปกติมาก จึงเก็บความแปลกใจนี้เข้าไปในสายตา
เจียงมู่เฉินพาซือเหยี่ยนมาหลานเยี่ยด้วยอารมณ์สงบนิ่ง มุ่งหน้าไปยังที่ประจำของพวกเขา เป็นอย่างที่คิดนอกจากเฉิงฉีแล้วยังมีคนอื่นๆ รอเจียงมู่เฉินอยู่ที่นี่
เห็นเจียงมู่เฉินมาแล้ว ทุกคนก็รีบทักทายกันทันที
เจียงมู่เฉินมองดูพวกเขาไม่กี่คนนั้น ก่อนจะเอ่ยออกไปตรงๆ “แฟนของฉัน ซือเหยี่ยน”
ถึงแม้ว่าซือเหยี่ยนจะยังมีใบหน้าที่เย็นชา แต่เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว ดูมีความอ่อนโยนขึ้น
ถ้าหากอยู่ในยามปกติ คนพวกนี้ไม่มีทางจะเข้าใกล้ซือเหยี่ยนได้
แต่วันนี้สถานะไม่เหมือนเดิม พวกเขาคือเพื่อนของเจียงมู่เฉิน ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าเป็นเพื่อนของซือเหยี่ยนเหมือนกัน
คนไม่กี่คนนั้นเห็นท่าทีของซือเหยี่ยนอ่อนโยนมากแล้ว ก็รีบเล่นตามน้ำกันทันที