(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 474-475
ตอนที่ 474 ได้สมดั่งใจปรารถนา
แสงไฟในหลานเยี่ยมืดสลัวมาก จึงมองใบหน้าของซือเหยี่ยนได้ไม่ชัดเท่าไหร่นัก แต่จะทำยังไงได้เจ้าหมอนี่รูปหล่อ ภายใต้แสงไฟสลัว เห็นแค่เพียงเงาด้างข้างก็รู้สึกใจเต้นนิดหน่อยแล้ว
เจียงมู่เฉินดื่มเหล้ากับคนกลุ่มนี้ แล้วยังไม่ลืมที่จะเอียงหน้าสังเกตมองซือเหยี่ยนไปด้วย
สมกับเป็นแฟนของตัวเองจริงๆ หน้าตาท่าทางไม่มีอะไรผิดปกติให้จับผิดออกมาได้เลยจริงๆ
แววตาเล็กๆ นั้นของเขาไม่มีการปกปิดซ่อนเร้น ต่อให้เป็นคนตายก็ต้องฟื้นคืนชีพขึ้นมาเพราะถูกเขามอง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงซือเหยี่ยนคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตขนาดนี้เลย
ซือเหยี่ยนยื่นมือไปบีบมือเจียงมู่เฉินที่ใต้โต๊ะ ให้เขาเก็บอาการบ้างสักหน่อย
เจียงมู่เฉินถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ได้ คนเยอะเกินไปไม่ดีจริงๆ เอาเปรียบอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
ยามที่คุณชายเจียงอ่อยคนขึ้น ไม่มีแม้แต่จะนึกถึงขาอ่อนแรงยืนตรงไม่ได้เมื่อตอนบ่ายเลยสักนิด
เฉิงฉีเห็นพวกเขาดื่มกันไปประมาณหนึ่งแล้ว ก็ยื่นมือไปสะกิดเจียงมู่เฉิน
“ไปสูบบุหรี่กันไหม”
เจียงมู่เฉินพยักหน้า แล้วบอกกับซือเหยี่ยนสักหน่อย ก่อนจะออกไปกับเฉิงฉี
เหล่าคุณชายผู้ดีมีเงิน ณ ที่นี้ ทันทีที่เห็นเจียงมู่เฉินออกไปแล้ว พวกเขาต่างก็พากันมองซือเหยี่ยนด้วยความสงสัยใคร่รู้เตรียมพร้อมจะลุยเต็มที่
แต่จะทำอย่างไรได้ซือเหยี่ยนเป็นดอกไม้ที่อยู่ยอดเขาสูงชันยากที่จะเข้าใกล้ได้
พวกเขาโยนกันไปกันมาอยู่พักใหญ่ ไม่มีใครกล้าจะเอ่ยปากสักคน
จนกระทั่งสุดท้าย มีคนคนหนึ่งรวบรวมความกล้าเอ่ยเสียงต่ำถามออกมา “ประธานซือ นายกับเจียงมู่เฉินไปคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ”
พวกเขาสงสัยใคร่รู้กันมากจริงๆ ตกลงแล้วสองคนนี้ไปคบกันตอนไหน
ทำให้เจียงมู่เฉินยอมเสียค่าตอบแทนที่สูงกับการที่ออกไปเปิดตัวต่อสาธารณะได้ ความรักความผูกพันนั้น พอมาคิดดูแล้วก็รู้ได้ว่าลึกซึ้งกันแค่ไหน
เดิมทีคิดว่าซือเหยี่ยนจะไม่ตอบคำถามนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าซือเหยี่ยนจะเอ่ยเสียงต่ำขึ้น “นานมาก”
ถึงแม้จะเป็นคำสั้นๆ สองคำ แต่ก็เกี่ยวดึงความกล้าหาญเล็กๆ ขึ้นมาเพียงชั่วครู่เดียว
เอ่ยถามต่ออีก “พวกนายเปิดตัวกันแบบนี้ ไม่กลัวเหรอ”
“แล้วเรื่องของพวกนาย พ่อแม่นายรู้หมดแล้วเหรอ”
ซือเหยี่ยนเอ่ย “อืม รู้แล้ว”
“พวกนายสองคนนี่เท่ห์เกินไปมั้ง จะรักกันที เล่นซะสะเทือนไปทั้งเมือง”
เมื่อนึกถึงงานแถลงข่าววันนั้น เจียงมู่เฉินทั้งเชิดหน้าทั้งลำพองใจ พวกเขาอิจฉากันขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ถึงอย่างไรใครจะทำแบบนี้เหมือนที่พวกเขาทำได้ ชอบคนเพศเดียวกัน แล้วทั้งสองคนยังเป็นคนดังมีชื่อเสียง แต่กลับเปิดตัวโดยไม่พะว้าพะวังเลยสักนิด
นี่ถ้าเปลี่ยนไปเป็นคนอื่น ต้องทำไม่ได้อย่างแน่นอน
อีกฝั่งหนึ่ง เจียงมู่เฉินกับเฉิงฉียืนอยู่ตรงชั้นสอง ในมือทั้งคู่คีบบุหรี่ไว้อยู่
“ยินดีกับนายด้วยนะ ในที่สุดก็ได้สมดั่งใจปรารถนาแล้ว”
เจียงมู่เฉินมองเขาแวบหนึ่ง “นายอยากจะพูดเรื่องนี้กับฉันงั้นเหรอ”
เฉิงฉีสูบบุหรี่เข้าไปลึกๆ เต็มๆ คำ “นายตัดสินใจแล้ว ใครก็เปลี่ยนไม่ได้หรอก”
ก็เหมือนกับตอนแรกเริ่ม เขาให้เจียงมู่เฉินอย่าไปหาเรื่องซือเหยี่ยนตามอำเภอใจ แต่เจียงมู่เฉินก็ยังคงต้องการจะไปหาเรื่องซือเหยี่ยนโดยไม่รู้ตัวอยู่ดี
เจียงมู่เฉินขยับมือที่คีบบุหรี่อยู่ พลางเอ่ยเสียงต่ำ “ฉันกับซือเหยี่ยนไม่เหมือนกับคนอื่น”
หลายปีมานี้ชะตาชีวิตของพวกเขาพันธนาการเกี่ยวพันกันมาตั้งแต่แรกแล้ว ทั้งคู่แยกจากกันไม่ได้โดยสิ้นเชิง
เฉิงฉีรู้สึกในใจอย่างลึกซึ้ง เขาเอื้อมมือไปตบบ่าของเจียงมู่เฉิน “ขออวยพรให้พวกนายมีความสุขนะ”
ท่ามกลางความมืด เจียงมู่เฉินยืนอยู่ชั้นสอง ก้มหน้าลงจ้องมองข้างล่างอย่างไม่ละสายตา มองไล่จากสายตาเขาไป ในสายตาของเขามีเพียงแค่คนคนเดียว
ซือเหยี่ยนนั่งอยู่ชั้นล่าง ก้มหน้าลงเล็กน้อย ในมือถือแก้วเหล้า ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
จู่ๆ เขาก็ยกมุมปากขึ้น แล้วก็ยิ้มหัวเราะกะทันหัน
มือเจียงมู่เฉินที่คีบบุหรี่อยู่กระชับแน่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
เขาโยนบุหรี่ทิ้งลงในถังขยะ ยื่นมือตอบกลับเฉิงฉี “ขอบคุณนะ”
เอ่ยจบประโยคนี้ เจียงมู่เฉินก็หันหลังเดินลงไปชั้นล่าง กลับไปอยู่ข้างกายซือเหยี่ยน
……
เพื่อนที่กินเล่นเที่ยวด้วยกันในวันธรรมดาๆ ก็ยังเป็นเพื่อนที่ไม่เลวเท่าไหร่ บวกกับความจริงใจที่อยากให้เจียงมู่เฉินมีความสุข พวกเขาจึงเฮฮาดื่มเหล้ากันไปไม่น้อยทีเดียว
ตอนที่ 475 ซือเหยี่ยนดื่มจนเมาแล้ว
เหล้านั้นมาเทที่เจียงมู่เฉินเสียส่วนใหญ่ ถึงยังไงต่อให้พวกซือเหยี่ยนคิดก็ไม่กล้าหรอก
เจียงมู่เฉินกระดกเหล้าไปสองแก้ว แต่ว่าพอเห็นพวกเขาคึกคักกัน เกรงว่าคืนนี้งานเลี้ยงจะไม่ได้มาเดี๋ยวเดียวก็จบแล้ว
เขาไม่ได้ดื่มเหล้าแบบนี้มานานมากแล้ว ดื่มไปไม่กี่แก้วท้องไส้เริ่มก็ปั่นป่วน รู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไหร่นัก ในมุมที่พวกเขามองไม่เห็น เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ก้มหน้าลงอย่างกล้ำกลืนฝืนทน
คนอื่นอาจจะไม่ได้สังเกตเห็น แต่คนที่นั่งข้างเจียงมู่เฉินอย่างซือเหยี่ยน สายตาของเขาจดจ้องมาที่เจียงมู่เฉินตลอด ต้องสังเกตเห็นได้ตั้งแต่นาทีแรกเป็นธรรมดา
และเป็นจังหวะเวลานี้พอดี มีคนมาชนแก้วชวนดื่มเหล้าด้วย เจียงมู่เฉินเก็บอาการคิ้วขมวดนี้ลงไป ยกมือถือแก้วเหล้าขึ้นมา เตรียมจะก้มหน้าลงดื่มเหล้า
ข้างๆ มีมือใหญ่เอื้อมออกมาคว้าเอาแก้วเหล้าในมือเจียงมู่เฉินไป
ทุกคนตกตะลึงกันไปหมด แม้แต่เจียงมู่เฉินคนต้นเรื่องเองก็ตะลึงงันไปด้วย จู่ๆ ซือเหยี่ยนมาหยิบแก้วเหล้าไปทำไม
เห็นเพียงแค่ซือเหยี่ยนเอ่ยเสียงต่ำว่า “ฉันจะช่วยเขาดื่มเอง”
ผู้ชมพากันส่งเสียงร้องหัวเราะเอ่ยแซว “ที่แท้ประธานซือเห็นใจเพราะรักนี่เอง”
เจียงมู่เฉินเตรียมจะเอื้อมมือไปคว้าแก้วเหล้าคืนมา ซือเหยี่ยนไม่ชอบดื่มเหล้า เขารู้จักซือเหยี่ยนมานานขนาดนี้ ไม่เคยเห็นซือเหยี่ยนดื่มเหล้ามาก่อน
ผลปรากฏว่าเขาไม่ทันได้ส่งมือออกไป ซือเหยี่ยนก็เงยหน้าขึ้นกระดกเหล้าเข้าไป
เขาแหกกฎที่มีมาก่อน คนรอบข้างเห็นสถานการณ์แล้ว ก็ยิ่งฮึกเหิมใจกล้ามากกว่าเดิม ในเมื่อให้เจียงมู่เฉินดื่มไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็มอมเหล้าซือเหยี่ยนแทนแล้วกัน
ถึงแม้ว่าซือเหยี่ยนจะไม่พูดอะไร แต่ขอเพียงแต่มีคน เขาก็ดื่มจนหมดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยด้วยซ้ำ
รับแก้วต่อแก้วจนสุดท้ายซือเหยี่ยนก็ไม่รู้ว่าดื่มไปเท่าไหร่แล้ว
เจียงมู่เฉินมองซือเหยี่ยนด้วยความตกตะลึง เมื่อก่อนทำไมเขาถึงไม่รู้ว่าซือเหยี่ยน…จะดื่มได้ขนาดนี้
จนกระทั่งสุดท้ายกลุ่มคนที่โหวกเหวกกันเมื่อครู่นี้ต่างพากันนอนฟุบลงไปทั้งหมด ดื่มจนสลบกันเลยทีเดียว
แต่ซือเหยี่ยนยังคงนั่งตัวตรงอยู่ข้างเจียงมู่เฉินได้ สีหน้าที่แสดงออกไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด ดูเหมือนจะยังคงตาสว่างมากอยู่
เจียงมู่เฉินยื่นมือสะกิดซือเหยี่ยน “ยังไหวไหม”
ซือเหยี่ยนไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้ารับ
เจียงมู่เฉินมองเฉิงฉีที่ยังคงตาสว่างอยู่เพียงคนเดียวในกลุ่มเพื่อน “ฉันพาเขากลับก่อนแล้ว”
เฉิงฉีพยักหน้า เจียงมู่เฉินเอ่ยเสียงต่ำกับซือเหยี่ยน “ไปกันเถอะ พวกเรากลับบ้านกัน”
ซือเหยี่ยนพยักหน้าอีกครั้ง ลุกยืนขึ้นมา เดินออกไปกับเจียงมู่เฉิน
ทั้งสองคนขึ้นรถ ซือเหยี่ยนดื่มหนักต้องขับรถไม่ได้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่เจียงมู่เฉินเพิ่งจะดื่มไปสองแก้ว ต่อมายังดื่มน้ำมะนาวสร่างเมาอีก
“ฉันจะขับรถเอง”
เจียงมู่เฉินเดินไปยังฝั่งที่นั่งคนขับ ส่วนซือเหยี่ยนยื่นมือไปเปิดประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับ
ระหว่างทางที่กลับไป เจียงมู่เฉินอดจะถามไม่ได้ว่า “นายคอแข็งขนาดนี้เชียวเหรอ” ดื่มมาจนถึงตอนนี้ยังตาสว่างขนาดนี้ได้
ดูจากที่ดื่มกันคืนนี้ ต่อให้เป็นเขา ก็คงจะเมาจนไม่ตื่นแล้ว
ซือเหยี่ยนหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง ไม่พูดจา เจียงมู่เฉินคิดว่าเขาไม่อยากพูดเรื่องคอแข็งอะไรพวกนี้ ก็ไม่ได้ถามต่ออีก
รถแล่นมาจนถึงคอนโดมิเนียม เจียงมู่เฉินจอดรถแล้ว ทั้งสองคนก็ขึ้นลิฟต์ไปด้วยกัน
รอจนถึงหน้าทางเข้าห้อง เจียงมู่เฉินผลักเปิดประตู ซือเหยี่ยนที่อยู่ข้างหลังก็เดินตามเข้าไป
ในที่สุดเจียงมู่เฉินก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
ตั้งแต่ซือเหยี่ยนดื่มเหล้าจนถึงตอนนี้ ไม่พูดอะไรสักคำ
ถึงแม้ว่าปกติซือเหยี่ยนจะเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่ก็ไม่ถึงกับไม่พูดอะไรสักคำแบบนี้
เขาเอื้อมมือไปดึงซือเหยี่ยนที่กำลังจะเดินเข้าไปข้างใน ก็เห็นแค่เขาที่ออกแรงฉุดเงาร่างสูงใหญ่ของซือเหยี่ยนแล้วเซล้มไปโดยไม่ตั้งใจ
เห็นเพียงเขาที่ลืมตาแค่ครึ่งหนึ่ง ไม่มีสีหน้าอารมณ์อะไรทั้งนั้น
เจียงมู่เฉินจ้องมองดวงตาของซือเหยี่ยนอย่างละเอียด ดวงตาสีดำขลับคู่นั้นตอนนี้ไม่เปล่งประกายเหมือนในยามปกติแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะอยู่เฉยๆ แล้วดูน่ารักได้