Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์ - ตอนที่ 53 เยือนตระกูลขุ่น
นชิงเหอตายแล้ว แต่เรื่องยังไม่จบ
“ตระกูลซุนกล้าโจมตีข้าตอนกลางวันแสกๆ ดูเหมือนว่าอิทธิพลของตระกูลหลินคงจะหมดไป
แล้ว!”
เย่เทียนถอนหายใจ
ตระกูลหลินเคยตั้งกฎไว้ว่า ผู้ฝึกยุทธฐานหลินไห่ห้ามต่อสู้กัน หรือฆ่าใครตามอําเภอใจ
แต่ตอนนี้การกระทําของตระกูลซุนกลับเมินเฉยต่อตระกูลหลินโดยสิ้นเชิง
“ใช่แล้ว ตระกูลซุนแข็งแกร่งกว่าตระกูลหลินมาก ตอนนี้พวกมันยังหยั่งรากลึกอยู่ในฐานหลินไห่ดังนั้นตระกูลซุนจึงไม่เห็นตระกูลหลินอยู่ในสายตาอีกต่อไป ในเมื่อตระกูลซุนไม่รักษากฏเช่น นั้น ข้าก็ไม่ต้องรักษากฎอีกแล้ว! ”
เย่เทียนถืออาวุธระดับกลางไว้ในมือ แววตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา ตระกูลซุนจะนับเป็นอะไรได้? ต่อให้เป็นปรมาจารย์สองคนจากฐานเขี้ยวเหล็กเข้าช่วยเหลือเขาก็ไม่สนใจ
เท่าที่เขารู้ ปรมาจารย์ทั้งสองคนนั้นไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก พวกเขาเป็นเพียงปรมาจารย์ขั้นต้นเท่านั้นส่วนจะมีพรสวรรค์พิเศษหรือไม่นั้นก็เย่เทียบไม่ทราบแต่ถึงอย่างไรผู้ฝึกวรยุทธที่มีพรสวรรค์พิเศษก็น้อยมากหากปรมาจารย์ทั้งสองไม่มีพรสวรรค์พิเศษแล้วละก็เกรงว่าแม้แต่การโจมตีเดียวของเขาก็มิอาจรับได้
เย่เทียนแทบจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในฐานหลินไห่ แล้วเขาจะต้องกลัวอะไรอีก?
“งั้นมาสะสางปัญหานี้กัน!”
เย่เทียนมองออกไปและพึมพํา
สิบนาทีต่อมา
ย่านที่อยู่อาศัยของตระกูลซุน ประตูใหญ่ทางเข้า
เย่เทียนมาถึงที่นี่เพียงลําพัง จิตสังหารทั่วทั้งร่างที่ถูกปลดปล่อยออกมาทําให้เหล่าผู้คุ้มกันของตระกูลซุนเหงื่อแตกพลั่ก
“หยุดนะที่นี่คือตระกูลซุนรีบออกไปเดี๋ยวนี้”
ผู้คุ้มกันพยายามระงับความกลัวในใจและตะโกน
“วันนี้ตระกูลซุนจะถูกลบออกไป!”
เสียงของเย่เทียนเต็มไปด้วยจิตสังหาร ทําให้เหล่าผู้คุ้มกันหลายคนคิดในใจว่านี่ไม่ดีแล้ว
“รีบไปเรียกคน!”
ผู้คุ้มกันคนหนึ่งตะโกน
อย่างไรก็ตามมันสายไปแล้ว!
ประกายแสงจากดาบ ดับโลกของพวกเขาในพริบตา!
เมื่อแสงจากดาบหายไปเหล่าผู้คุ้มกันหลายคนล้มลง รวมไปถึงประตูด้านหน้าของที่พักตระกูลซุนก็สลายกลายเป็นผุยผง
ที่พักตระกูลซุนไม่ได้ใหญ่โตมากนัก สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทําให้ทุกคนในตระกูลรู้ตัวทันที
ทันใดนั้นนักรบของตระกูลซุนก็มาถึง
ผู้คุ้มกันของตระกูลซุนถูกชุบเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก แต่ละคนล้วนมีพลังขั้นนักรบหัวหน้าผู้คุ้มกันก็ เป็นนักรบชั้นยอดจํานวนนักรบผู้คุ้มกันตระกูลนั้นมีทั้งหมดประมาณหนึ่งร้อยคนเป็นขุมพลังอัน แข็งแกร่งที่ตระกูลซุนขาดไม่ได้
ตูม!!!
ผู้คุ้มกันหนึ่งร้อยคนถืออาวุธเวทย์และเริ่มสร้างค่ายกล พลังของพวกเขาในขณะนี้สามารถต่อกรกับนักรบผู้เชี่ยวชาญได้เล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ลําแสงดาบสีเขียวสายหนึ่งได้ทะลุผ่านตรงกลางและฉีกกระชากค่ายกลทั้งหมดเป็นชิ้นๆไม่เพียงแค่นั้นล่าแสงดาบสีเขียวก็ตัดผ่านที่พักของตระกูลซุนแยกออกเป็นสองส่วนในพริบตา
บ้านเรือนพังทลาย พื้นดินแตกเป็นเส้นแนวยาว
นี่คือการโจมตีจากปรมาจารย์!
ผู้คุ้มกันของตระกูลซุนถูกเย่เทียนโจมตี ทําให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมากกว่าครึ่งเหล่าผู้คุ้มกันที่เหลือต่างก็สูญเสียขวัญกําลังใจในการต่อสู้และรีบถอยออกไปด้วยความหวาดกลัว
ในเวลานี้เหล่าผู้บริหารระดับสูงของตระกูลซุนก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นกันพวกเขามองไปที่เย่เทียนด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป
“การโจมตีระดับปรมาจารย์!”
ผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลซุน ซุนคงที่อยู่จุดสูงสุดของนักรบผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงสุดกล่าวด้วยความกังวล
การโจมตีที่สามารถสร้างพลังทําลายล้างที่ทรงพลังเช่นนี้ได้ จะต้องเป็นพลังโจมตีของปรมาจารย์อย่างไม่ต้องสงสัยและเห็นได้ชัดว่าเย่เทียนไม่ใช่ปรมาจารย์
แต่ถึงแม้จะไม่ใช่ปรมาจารย์ แต่เย่เทียนก็สามารถบรรลุถึงพลังโจมตีระดับที่เทียบได้กับปรมาจารย์แล้ว
ไม่ใช่ว่าตระกูลซุนจะไม่มีพลังโจมตีระดับปรมาจารย์ ซุนคงก็สามารถปลดปล่อยพลังโจมตีระดับปรมาจารย์ได้เช่นกัน เพราะเขามีพรสวรรค์ด้านดาบระดับกลางและได้ฝึกฝนทักษะดาบระดับทองแดงหลายวิชาจนถึงจุดสูงสุดของขั้นเชียวชาญมันทําให้พลังโจมตของเขาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
หากพูดถึงพลังโจมตีพลังโจมตีของเขา แม้มันจะแข็งแกร่งกว่าปรมาจารย์ที่เพิ่งเลื่อนขั้นแต่ความแข็งแกร่งโดยรวมของเขากลับด้อยกว่าปรมาจารย์ทั่วไปอยู่มาก
เพราะเขาไม่สามารถสู้กับปรมาจารย์ได้ เพราะความเร็วของเขาไม่สามารถเทียบได้กับระดับปรมาจารย์
มีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างนักรบผู้เชี่ยวชาญกับปรมาจารย์ เมื่อก้าวเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ไม่ว่าจะเป็นพลังป้องกันหรือความเร็ว ก็ล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ เขาคงทําได้เพียงต้านทานการโจมตีเพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามซุนคงรู้สึกเบาใจอย่างยิ่งที่ผู้มาไม่ใช่ปรมาจารย์
“ด้วยอายุเพียงเท่านี้ เขาก็สามารถปลดปล่อยการโจมตีระดับปรมาจารย์ได้คนผู้นี้เป็นอัจฉริยะที่แท้จริงอย่างแน่นอน!”ซุนคงคิด
ทันใดนั้นซุนเฟิงตะโกนว่า “มัน…. เป็นมัน! มันคือเย่เทียน!”
เมื่อคําพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนต่างตกตะลึง
สาหรับชื่อเย่เทียน คนตระกูลซุนก็ไม่ใช่คนแปลกหน้า
เย่เทียนทําให้ตระกูลซุนเสียหน้า ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลซุนต้องการวางรากฐานให้มั่นคงที่ฐานหลินไห่เย่เทียนผมถูกก่าจัดไปนานแล้ว
แต่ใครจะคิดว่าเย่เทียนจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้
“เย่เทียน อาวุธในมือของเจ้าเป็นของท่านพ่อของข้า แล้วท่านพ่อของข้าล่ะ?”
ซุนเฟิงจ้องมองอาวุธเวทย์ปฐมธาตุระดับกลางในมือของเยเทียนด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป
“ซุนชิงเหอหรอ? เขาตายไปแล้ว!”
เย่เทียนยิ้มบางๆ
“เจ้าหนุ่ม เจ้ามาที่นี่เพื่อทําลายตระกูลซุนของข้าอย่างนั้นหรือ?”
ซุนคงเดินเข้ามาหาเย่เทียนและถาม
“เจ้าคิดว่าอย่างไร? ตั้งแต่ตระกูลซุนของเจ้าส่งคนมาฆ่าข้า เส้นทางเราทั้งสองล้วนถูกกําหนดไว้แล้วหากข้าไม่ตาย ตระกูลของเจ้าก็ต้องถูกลบออกไป! ”
เย่เทียนกล่าวอย่างเย็นชา
“เฮ้อ หากรู้ว่าเจ้าแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ตระกูลซุนของเราก็คงไม่ลงมือกับเจ้ามิสู้ปล่อยเรื่องในวันนี้ไปเลิกแล้วต่อกันดีหรือไม่? “ซุนคงพยายามกล่าวประนีประนอม
“ผู้อาวุโสใหญ่ มันสังหารท่านพ่อของข้า ท่านรีบฆ่ามันเร็วเข้า!”
ซุนเฟิงตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
“หุบปาก!” ซุนคงตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ
“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าสร้างปัญหา ตระกูลซุนจะเกิดเรื่องในวันนี้ได้อย่างไร? ”
จริงๆแล้วภายในใจของซุนคงไม่ได้ต้องการประนีประนอม แต่เขาไม่ต้องการทําสงครามกับเย่เทียนที่นี่
นักรบที่มีพลังโจมตีระดับปรมาจารย์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต่อกร พลังทําลายล้างในขณะต่อสู้นั้นรุนแรงเกินไป มันจะส่งผลกระทบต่อผู้คนโดยรอบได้อย่างง่ายดายหากเขาต่อสู้กับเย่เทียนที่นี่ต่อให้เขาฆ่าเย่เทียนได้สําเร็จตระกูลซุนก็คงถูกทําลายเช่นกัน
เขาพยายามเปล่าประนีประนอม เพื่อรอให้เย่เทียนจากไป แล้วค่อยตามไปจัดการเย่เทียนในภายหลัง
นี่คือแผนของเขา!
น่าเสียดายที่แผนของเขานั้นไม่ได้ผล
“เลิกแล้วต่อกัน? คงต้องขออภัยสิ่งที่เจ้าพูดมามันคงเป็นไปไม่ได้! ”
เย่เทียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เขาอยากจะทดสอบว่าพลังการต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งแค่ไหน!
ก่อนหน้านี้ มันเป็นเพียงแค่การคาดการณ์ ซุนชิงเหออ่อนแอเกินไปทําให้เย่เทียนไม่สามารถเติมเต็มความปรารถนาในการต่อสู้ของเขาได้
เย่เทียนอยากรู้ว่าคนจากตระกูลซุนจะกระตุ้นความปรารถนาในการต่อสู้ได้หรือไม่ดังนั้นเขาจึงพูดพล่ามไร้สาระออกมาเช่นนี้ เป้าหมายของเขาคือการรอให้ยอดฝีมือของตระกูลซุนมารวมตัวกัน
และก็เป็นไปตามที่เย่เทียนหวังไว้ หลังจากการสนทนานี้ นักรบผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดจากตระกูลซุนก็มาถึงแล้ว
“ทุกคนที่มีระดับต่ากว่านักรบผู้เชี่ยวชาญถอยออกไป !”
ซุนคงตะโกน
พรึบ!!!!
นักรบผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงสุดสองคนและนักรบผู้เชี่ยวชาญขั้นต้นละขั้นหลางเจ็ดคนเข้าปิดล้อ มเย่เทียนทันที
การต่อสู้กาลังจะเปิดฉากขึ้น!
เย่เทียนกวาดสายตามองและมองผ่านพรสวรรค์ของพวกเขา
ผู้ที่มีพรสวรรค์พรสวรรค์ที่ดีที่สุดนั้น เป็นเพียงพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงเท่านั้นซึ่งเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้หากมีผู้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับสูงสุดตระกูลซุนคงถือกําเนิด ปรมาจารย์ไปแล้ว
นอกจากพรสวรรค์ในการบ่มเพาะแล้ว พวกเขาทุกคนล้วนมีพรสวรรค์ด้านดาบระดับกลาง
“ศัตรูไม่ได้อ่อนแอ ลงมือสังหารมันพร้อมกัน!”
ซุนคงรีบพูด