สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1299 ฟ้าดินเป็นพยาน
ตอนที่ 1299 ฟ้าดินเป็นพยาน
มู่หรงลี่รู้ว่าเมื่อวานมารดาของเขาต้องเดินทางไปยังจวนผู้สำเร็จราชการแล้วแน่นอน มารดาของเขารู้ว่าพี่สาวไป๋คลอดลูกฝาแฝดชายหญิงของท่านอาเก้าออกมา!
ทว่า มารดาของเขาไม่รู้ว่าท่านอาเก้ากับพี่สาวไป๋ไม่ได้ทะเลาะกันจริงๆ นี่เป็นเพียงละครฉากหนึ่งเท่านั้น!
แม้การที่มารดาของเขาขอร้องให้ท่านอาเก้าเดินทางไปยังต้าโจวทั้งๆ ที่รู้ว่าท่านอาเก้าและพี่สาวไป๋แตกหักกันแล้วจะดูทำเกินไป ทว่า ความจริงการจัดการเช่นนี้ตรงกับใจของท่านอาเก้ามาก ท่านอาเก้ายังไม่ได้พบหน้าเด็กทั้งสองคนหลังจากพวกเขาลืมตาออกมาดูโลกเลย ท่านอาเก้าคงคิดถึงพวกเขามาก!
มู่หรงลี่ไม่ได้คัดค้าน เขาลุกขึ้นยืนโค้งกายคำนับเซียวหรงเหยี่ยน “ท่านอาเก้าไม่ต้องเป็นห่วง อาลี่จะดูแลแคว้นต้าเยี่ยนให้ดีที่สุด! อาลี่เคยอยู่ที่เมืองหลวงของต้าโจว อาลี่ทราบนิสัยของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวดี ขอเพียงท่านอาเก้าแสดงความจริงใจและใช้ความเดือดร้อนของชาวบ้านโน้มน้าวจักรพรรดินีแห่งต้าโจว อาลี่เชื่อว่าเรื่องนี้ต้องสำเร็จแน่นอนขอรับ ลำบากท่านอาเก้าแล้ว”
สองอาหลานแสดงละครกันอย่างเข้าขา
จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนตรัสเช่นนี้แล้ว ต่อให้ขุนนางฝ่ายผู้สำเร็จราชการจะไม่เต็มใจและไม่พอใจมากเพียงใดก็ได้แต่นิ่งเงียบ ทว่า พวกเขาเป็นห่วงอ๋องเก้ามากจริงๆ !
แม้คนภายนอกจะกล่าวกันว่าอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนโหดเหี้ยมและกุมอำนาจในราชสำนักไว้คนเดียว ทว่า ขุนนางที่ติดตามผู้สำเร็จราชการรู้ดีว่าอ๋องเก้าของพวกเขาทำเรื่องโหดร้ายเหล่านั้นเพื่อยุติความวุ่นวายในต้าเว่ยแทนจักรพรรดิที่ยังอายุน้อยของต้าเยี่ยนก็เท่านั้น!
ตอนที่จักรพรรดิมู่หรงอวี้ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ อ๋องเก้าไม่เคยสนใจเรื่องในราชสำนักมาหลายปี เขาอยู่แต่ในจวนของตัวเองแทบไม่ได้ออกมาด้านนอก ต่อมาหากไม่ใช่เพราะต้าเยี่ยนต้องทำลายล้างแคว้นเว่ยอ๋องเก้าก็คงไม่ออกมาจากจวนของตัวเอง ต่อมาอ๋องเก้าใช้วิธีโหดร้ายเพื่อยุติความวุ่นวายในแคว้นเว่ย จักรพรรดิองค์ก่อนของต้าเยี่ยนสิ้นพระชนม์ อ๋องเก้าจึงต้องแบกรับภาระดูแลแคว้นต้าเยี่ยน
หากต้าโจวต้องการสังหารอ๋องเก้าของพวกเขาขึ้นมาจริงๆ ต้าเยี่ยนจะทำเช่นไร…
หลังจากว่าราชการตอนเช้าเสร็จ มู่หรงลี่ไปเยี่ยมไทเฮาที่ตำหนักพร้อมกับเซียวหรงเหยี่ยนและจงสิงเสี่ยว
เหล่าขุนนางเดินลงบันไดหยกไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
ขุนนางฝ่ายผู้สำเร็จราชการปรึกษากันว่าวันนี้จะไปเกลี้ยกล่อมอ๋องเก้าไม่ให้เดินทางไปต้าโจวที่จวนผู้สำเร็จราชการ
“ข้าคิดว่าเมื่อวานไทเฮาคงทำข้อแลกเปลี่ยนว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในราชสำนักอีกกับท่านอ๋องเก้า ครั้งนี้ท่านอ๋องเก้าคงต้องเสด็จไปยังต้าโจวแน่นอน เขาไม่ปลดฝ่าบาทลงจากบัลลังก์ก็ต้องรักษาเกียรติของพระองค์ไว้ นับจากนี้ไทเฮาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในราชสำนักอีกท่านอ๋องเก้าจึงต้องเสด็จไปต้าโจว” ขุนนางคนหนึ่งกล่าวเสียงเบา
“นั่นสิ วันนี้จู่ๆ ไทเฮาก็ประกาศว่าจะพักรักษาตัว ข้ายังแปลกใจอยู่เลย เกรงว่าเรื่องคงเป็นเช่นนี้จริงๆ”
“ทว่า ผู้สำเร็จราชการเสี่ยงอันตรายเกินไป หากท่านผู้สำเร็จราชการเป็นอันใดขึ้นมา ฝ่าบาททรงพระเยาว์เกินกว่าจะปกครองแคว้น ไทเฮาพระทัยแคบเกินไป ต้าเยี่ยนของพวกเราต้องตกอยู่ในวิกฤตแน่นอน!”
ขุนนางของต้าเยี่ยนไม่รู้ว่าไม่ใช่มู่หรงลี่ตัดสินใจไม่ได้ ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนคอยปกป้องเขาไว้ต่างหาก ชายหนุ่มตั้งใจจะแบกรับชื่อเสียงเลวร้ายทั้งหมดไว้เอง เขาจะแหวกทางที่เต็มไปด้วยโคลนให้มู่หรงลี่ ให้มู่หรงลี่เป็นจักรพรรดิที่บริสุทธิ์และสูงส่งในสายตาของทุกคน
“ความจริง…พวกเราไม่จำเป็นต้องกังวลถึงเพียงนี้!” ขุนนางที่อายุค่อนข้างมากคนหนึ่งกล่าวขึ้น “ตอนนั้นท่านอ๋องเก้าเคยช่วยชีวิตจักรพรรดินีแห่งต้าโจวไว้ที่เมืองเจียงจือ ผู้ที่ทรยศต้าโจวไม่ใช่ท่านอ๋องเก้าของพวกเรา แต่เป็นไทเฮาที่แอบทำลับหลังท่านอ๋องเก้าต่างหาก ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรจักรพรรดินีแห่งต้าโจวก็ต้องไว้หน้าท่านอ๋องเก้าอยู่บ้าง เป็นดั่งที่ท่านอ๋องเก้าตรัสมีเพียงเขาเสด็จไปด้วยตัวเองเท่านั้นเรื่องนี้จึงจะมีน้ำหนักเพียงพอ”
“ก็จริง ต้าโจวต้องรู้ว่าตอนนี้ผู้สำเร็จราชการเป็นคนควบคุมราชสำนักของต้าเยี่ยน การเจรจากับต้าโจวไม่ใช่จะสำเร็จเพียงแค่ฝ่าบาทให้หวังหานปิงนำสาส์นไปยังต้าโจวเท่านั้น ต่อให้หวังหานปิงเป็นคนกล่าว จักรพรรดินีแห่งต้าโจวก็คงไม่เชื่ออยู่ดี”
“ไม่รู้ว่าครั้งนี้ท่านอ๋องเก้าจะพาขุนนางคนใดไปยังต้าโจวบ้าง หากพาขุนนางฝ่ายไทเฮาไปพวกเราคงไม่วางใจเรื่องทางต้าโจว ทว่า หากพาขุนนางฝ่ายเราไป เกรงว่าราชสำนักคงตกอยู่ในการควบคุมของฝ่ายไทเฮาแน่นอน”
“เมื่อครู่ผู้สำเร็จราชการตรัสแล้วว่าจะปรึกษากับฝ่าบาทก่อนแล้วค่อยประกาศราชโองการ พวกเรารอไปก่อนเถิด เดี๋ยวคงได้รู้กัน!”
จงสิงเสี่ยวเดินตามหลังมู่หรงลี่และเซียวหรงเหยี่ยนไปอย่างนอบน้อมโดยทิ้งระยะห่างครึ่งก้าว
“ใต้เท้าจงช่างเก่งกาจเสียจริง ตอนแรกไทเฮาทรงไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ทว่า ใต้เท้าจงเกลี้ยกล่อมจนไทเฮามาเกลี้ยกล่อมข้าที่จวนผู้สำเร็จราชการต่อได้ ช่างเป็นคนมีความสามารถจริงๆ” เซียวหรงเหยี่ยนมองตรงไปทางด้านหน้า น้ำเสียงแฝงไปด้วยการประชด “ใต้เท้าจงเป็นคนให้พี่สะใภ้ของข้าถามข้าว่าข้าไม่มั่นใจในระบอบการปกครองของจีโฮ่วอย่างนั้นหรือใช่หรือไม่”
“ขออภัยท่านผู้สำเร็จราชการ…” จงสิงเสี่ยวโค้งกายต่ำกว่าเดิม “กระหม่อมแค่คิดว่าไม่มีวิธีอื่นที่จะช่วยแก้สถานการณ์ของต้าเยี่ยนตอนนี้ได้ดีกว่าวิธีที่ฝ่าบาททรงเสนออีกแล้ว กระหม่อมไม่ได้ชักจูงความคิดของไทเฮาได้ กระหม่อมแค่วิเคราะห์เรื่องต่างๆ ให้ไทเฮาฟังอย่างละเอียดเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
“เช่นนั้น…” มู่หรงเหยี่ยนยกยิ้มมุมปากกว้างกว่าเดิมด้วยแววตาเย็นชา “ใต้เท้าจงเป็นคนออกความคิดให้ไทเฮาส่งข้าไปยังต้าโจวด้วยใช่หรือไม่ ใต้เท้าจงคิดว่าเมื่อข้าจากไปแล้วราชสำนักต้าเยี่ยนจะอยู่ในการควบคุมของใต้เท้าจงอย่างนั้นหรือ”
จงสิงเสี่ยวได้ยินคำกล่าวนี้จึงรีบคุกเข่าลงบนพื้นทันที “ฝ่าบาท ท่านอ๋องเก้า ต่อให้กระหม่อมมีความกล้ามากเพียงใดก็ไม่กล้าคิดเช่นนั้นแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทราบดีว่าตัวเองมีความสามารถเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ฝ่าบาททรงเป็นพยานให้กระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ หากท่านอ๋องเก้าไม่วางพระทัย ช่วงที่ท่านอ๋องเก้าเดินทางไปยังต้าโจวกระหม่อมจะขอพักรักษาตัวอยู่แต่ในจวน ไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องในราชสำนักเด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจงรักภักดีต่อต้าเยี่ยนมากเพียงใด ฟ้าดินเป็นพยานได้พ่ะย่ะค่ะ”
มู่หรงลี่เหลือบมองจงสิงเสี่ยวแวบหนึ่ง เขาเดาว่าท่านอาเก้าคงอยากตักเตือนจงสิงเสี่ยวก่อนจะออกเดินทางไปต้าโจว ให้เขาอย่าแอบทำสิ่งใดลับหลังท่านอาเก้าตอนที่ท่านอาเก้าไม่อยู่ในต้าเยี่ยน
“ใต้เท้าจงมีความสามารถในการเจรจาโน้มน้าวใจคน หากปล่อยให้อยู่แต่ในจวนคงน่าเสียดายเกินไป” เซียวหรงเหยี่ยนเข้าประเด็นหลักทันทีที่จงสิงเสี่ยวแสดงความจงรักภักดีออกมา “ในเมื่อใต้เท้าจงจงรักภักดีต่อต้าเยี่ยนถึงเพียงนี้ก็จงเดินทางติดตามข้าไปยังต้าโจวในครั้งนี้ด้วยเถิด เจ้าจงใช้ความสามารถในการโน้มน้าวใจคนของเจ้าช่วยฝ่าบาทและต้าเยี่ยนโน้มน้าวต้าโจวให้ยอมตกลงกับข้อเสนอของพวกเราที”
จงสิงเสี่ยวได้ยินจึงตะลึงงันไปทันที ไม่นานเขาจึงรีบปกปิดสีหน้าของตัวเอง จากนั้นก้มศีรษะคำนับแนบพื้น “เป็นบุญของกระหม่อมยิ่งนักที่ท่านอ๋องเก้าเห็นความสามารถเพียงเล็กน้อยของกระหม่อม ขอเพียงฝ่าบาทและท่านอ๋องเก้ามีเรื่องใช้งานกระหม่อม กระหม่อมจะทำอย่างสุดความสามารถที่สุดพ่ะย่ะค่ะ”
จงสิงเสี่ยวกล่าวจบจึงก้มศีรษะคำนับมู่หรงลี่และเซียวหรงเหยี่ยน
“ท่านลุงรีบลุกขึ้นเถิด” มู่หรงลี่รีบเข้าไปประคองท่านลุงของตัวเอง จากนั้นกล่าวยิ้มๆ “มีท่านลุงไปกับท่านอาเก้า เรื่องครั้งนี้ต้องสำเร็จแน่นอน!”