เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 912 กอดข้าแทนเถอะ!
บทที่ 912 กอดข้าแทนเถอะ!
บทที่ 912 กอดข้าแทนเถอะ!
ซูอันกลืนน้ำลาย อาจารย์ของชิวฮัวเล่ยหลักแหลมยิ่งนัก นางได้ใช้ความคิดอย่างมากในแผนนี้ ไม่มีทางที่เขาจะคาดเดาความจริงได้ถ้าเขาไม่รู้จักชิวฮัวเล่ย
เขาตระหนักว่า เขาเป็นคนเดียวที่เข้าใจเรื่องราวนี้ และตัดสินใจว่าจะเป็นการดีที่สุดที่จะจากไปโดยเร็วก่อนที่เจ้าสำนักมารจะตัดสินใจปิดปากเขา
สิ่งหนึ่งที่แปลกเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมดนี้คือ…จักรพรรดิอยู่ที่ไหน?
แม้ว่าสำนักมารจะมีแผนการที่ยอดเยี่ยม แต่จักรพรรดิน่าจะแข็งแกร่งพอที่จะระงับความวุ่นวายที่เกิดได้ในพริบตา!
นักฆ่าหญิงพูดขึ้นอีกครั้ง “ใต้เท้าซือ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน ได้โปรดถอยออกไป”
ซือเหมี่ยวค่อย ๆ สงบอารมณ์ เนื่องจากนักฆ่าคนนี้จำเขาได้ นางน่าจะเป็นคนในราชสำนัก “ตอนนี้ข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะยืนมองเฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรเลยได้อย่างไร?
นางล้อเล่นเหรอ? ทุกอย่างคงจะดีถ้าเขาไม่มาที่นี่ แต่ตอนนี้เขาก็มาแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะยืนดูเฉย ๆ เพราะนั่นจะเหมือนกับการประกาศให้คนทั้งโลกรู้ว่าเขาอยู่ฝ่ายราชันลมปราณ ไม่มีทางที่จักรพรรดิจะปล่อยเขาไป
ในตอนแรกเขาสันนิษฐานว่า คนพวกนี้เป็นกลุ่มนักฆ่ากระจอก ๆ ซึ่งสามารถจัดการได้ง่าย และการทำเช่นนั้นจะทำให้เขาได้รับความดีความชอบจนสามารถโน้มน้าวให้จักรพรรดิชดเชยการตายของซือคุนให้กับตระกูลซือ แต่โดยไม่คาดคิดสถานการณ์กลับกลายเป็นร้ายแรงเช่นนี้จนเขากังวลเกี่ยวกับทางรอดของตัวเอง ไม่ต้องพูดไปถึงรัชทายาท
เสียงของนักฆ่าหญิงเริ่มเย็นชา “เนื่องจากท่านซือยืนกรานที่จะเลือกเส้นทางที่ผิด เช่นนั้นข้าก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องก้าวข้ามศพท่านไป”
เมื่อคำพูดนี้หลุดจากปากของนาง ร่างของนางปรากฏตัวต่อหน้าซือเหมี่ยวอย่างฉับพลัน ฝ่ามือของนางซัดออกอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ส่งคลื่นพลังที่น่าสะพรึงกลัวออกไป เห็นได้ชัดว่านางต้องการกำจัดรัชทายาทที่อยู่ข้างหลังซือเหมี่ยวให้เร็วที่สุดเช่นกัน
สีหน้าของซือเหมี่ยวเปลี่ยนไป เขาโบกมือสร้างพายุหมุนขนาดยักษ์ให้ก่อตัวขึ้นบังหน้าเขา พัดพาคมมีดลมจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้
ซูอันตกตะลึง เขาเคยเห็นซือคุนใช้ทักษะที่คล้ายกันนี้ในมิติลับหยกจรัส แต่พายุหมุนของซือคุนเป็นเพียงหนอนน้อยตัวหนึ่งเมื่อเทียบกับมังกรขนาดใหญ่ตัวนี้ของซือเหมี่ยว!
ไม่เพียงเท่านั้น พายุหมุนที่ซือเหมี่ยวสร้างขึ้นมีคมมีดลมซ่อนอยู่ภายใน ทุกคมมีดล้วนมีพลังทำลายล้างมหาศาล แค่เพียงสะกิดผิวหนังเล็กน้อยโลหิตจะพวยพุ่งออกจากบาดแผลประหนึ่งน้ำพุทันที
เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ซูอันยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า ถึงเวลาที่ต้องออกไปจากที่นี้แล้ว ตอนนี้เจ้าสำนักมารอยู่ที่นี่แล้ว เขามั่นใจในความปลอดภัยของชิวฮัวเล่ยได้
เมื่อพายุหมุนขนาดยักษ์ปะทะเข้ากับฝ่ามือที่ดูบอบบาง เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วพระราชวังตะวันออก ไม่เพียงแต่ฝ่ามือของนักฆ่าหญิงไม่ได้ถูกสับเป็นลูกเต๋า แต่พายุหมุนกลับเป็นฝ่ายที่กระจายสลายไปแทน
คลื่นกระแทกทำให้วังตะวันออกสั่นสะเทือน ทุกคนที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดถูกแรงคลื่นกระแทกซัดลงไปล้มลุกคลุกคลานกับพื้น
นี่คือพลังของการปะทะเพียงครั้งเดียว!
นักฆ่าหญิงยิ้มหวาน “ตั้งแต่แรก ระดับการบ่มเพาะของเจ้าต่ำกว่าข้า ตอนนี้เจ้าต้องปกป้องทั้งรัชทายาทและองค์หญิงรัชทายาท นี่ยิ่งทำให้เจ้าไม่ใช่คู่มือของข้า!”
ซือเหมี่ยวสงบพลังชี่ที่ปั่นป่วนภายในร่างกายขณะที่ตอบว่า “ใครจะแพ้ชนะก็ยังไม่รู้ ว่าแต่เจ้าถนัดสู้ด้วยปากเท่านั้นเหรอ?”
ดวงตาของหญิงสาวกลายเป็นเย็นชา “รนหาที่ตาย!”
นางโจมตีอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น เล็งตรงไปยังจุดสำคัญของซือเหมี่ยว
ซือเหมี่ยวตกตะลึง ข้าพูดประโยคเดียวเอง แต่เจ้ากลับโกรธขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?
ชายหนุ่มไม่มีเวลาถามคำถามนี้ออกไปเพราะเขาต้องป้องกันตัวเองอย่างพัลวัน
ซูอันเป็นคนเดียวที่เกือบจะหัวเราะออกมาดัง ๆ นางเป็นถึงเจ้าสำนักมาร อะไรคือการเป็นสตรีที่ชำนาญในการใช้ปากสู้? มันง่ายพอที่จะคิดไปถึงเรื่องอื่น นางอาจคิดว่าซือเหมี่ยวกำลังดูถูกนาง แม้ว่าเขาจะไม่มีเจตนาเช่นนั้นก็ตาม
ใช่ สู้ต่อไป! เอาชนะตาเฒ่าซือเหมี่ยวให้ข้า!
ซูอันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของซือคุน เขากังวลว่า หากตระกูลซือไม่สามารถถามหาความรับผิดชอบจากองค์หญิงรัชทายาทได้ เป้าหมายจะเปลี่ยนมาเป็นเขาแทน
ทันใดนั้น สายลมอ่อน ๆ ก็พัดผ่านมาพร้อมกับกลิ่นหอมหวาน องค์หญิงรัชทายาทวิ่งมาหยุดอยู่ข้าง ๆ ซูอัน นางพยุงรัชทายาทมาด้วยและมองดูซูอันด้วยดวงตาเป็นประกาย “ท่านทูตยุทธ์เสื้อแพรทอง ได้โปรดปกป้องเราด้วย” น้ำเสียงของนางวิงวอนอย่างแท้จริง
แม้ว่าซือเหมี่ยวจะน่าเกรงขาม แต่ทุกคนสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าตอนนี้เขากำลังได้รับบาดเจ็บ ร่างกายของเขาสั่นเทาและโชกไปด้วยเลือด
องค์หญิงรัชทายาทเป็นคนฉลาด นางรู้ว่าจะยิ่งอันตรายหากยังคงหลบอยู่หลังซือเหมี่ยว ถ้าการป้องกันของซือเหมี่ยวเกิดช่องโหว่ เป็นไปได้ว่าพวกนางจะตายกันหมด จึงทำให้นางตัดสินใจหนีมา สิ่งนี้ขจัดความจำเป็นที่ซือเหมี่ยวจะต้องปกป้องพวกนาง ซึ่งหมายความว่าเขาสามารถต่อสู้โดยไม่มีสิ่งรบกวนสมาธิ
ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยนักฆ่า ซึ่งจำกัดสถานที่ปลอดภัยที่นางสามารถหลบหนีไปได้ น่าจะเป็นการดีที่สุดที่จะเข้าร่วมกับอาจารย์ของรัชทายาท เนื่องจากเฉาโฮ่วมีระดับการบ่มเพาะสูงและภักดีต่อรัชทายาท แต่น่าเสียดายที่เขาถูกรายล้อมไปด้วยนักฆ่าระดับสูง การพารัชทายาทไปหาเฉาโฮ่วรังแต่จะทำให้อีกฝ่ายเดือดร้อนมากขึ้นเท่านั้น
ทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่สำหรับนางคือทูตยุทธ์เสื้อแพรทอง เขาได้แสดงความแข็งแกร่งมาก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าเขาจะเสียเปรียบอย่างมากจากกระบี่บินของนักฆ่าหญิงผู้นั้น แต่ก็เป็นที่เข้าใจได้เนื่องจากนั่นเป็นการโจมตีเต็มกำลังโดยผู้บ่มเพาะระดับปรมาจารย์ แค่สามารถหลบเลี่ยงได้ก็ค่อนข้างน่าประทับใจพอแล้ว
ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของกลุ่มนักฆ่าคือนักฆ่าหญิงที่กำลังต่อสู้กับซือเหมี่ยว นักฆ่าที่เหลือไม่ใช่คู่มือของทูตยุทธ์เสื้อแพรทองคนนี้
ขณะที่พูดจบ จู่ ๆ องค์หญิงรัชทายาทรู้สึกว่าร่างกายของนางอ่อนเปรี้ยอย่างฉับพลัน นางยืนโซเซและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จนล้มใส่ซูอันซึ่งอ้าแขนรับนางไว้อย่างไม่ทันคิด
ซูอันตกตะลึงพูดไม่ออก
บัดซบ? ข้าเพิ่งพ้นจากจักรพรรดินีไปหยก ๆ! ทำไมเจ้าถึงมากอดข้าอีกคนแล้ว?
โปรดประพฤติตนอย่างมีศักดิ์ศรีมากกว่านี้ได้ไหม?!
ซูอันเพิ่งผ่านสถานการณ์ที่ไร้สาระกับจักรพรรดินี ช่วยชีวิตนางในขณะที่นางตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา ไม่เพียงแต่ไม่ได้รับความดีความชอบ แต่กลับพบว่าตัวเองอยู่ในกองภูเขาแห่งปัญหา!
ดวงตาของรัชทายาทเป็นประกายเมื่อเห็นฉากนี้ เขากางแขนและกระโดดมาหาซูอันเช่นกัน “ข้าต้องการกอด! ข้าก็อยากกอดเหมือนกัน!”
ซูอันอยากจะเบ้ปากส่ายหน้าถ้าเขาสามารถทำได้
ซูอันพูดไม่ออก อย่างน้อยองค์หญิงรัชทายาทก็เป็นผู้หญิงที่สวย นุ่มนิ่ม และมีกลิ่นหอม ข้าก็เลยทนกับการกอดนางได้
แต่เจ้าเป็นหมูเหม็นสาบ! แม้กระทั่งตอนนี้ ข้าก็ยังเห็นคราบไขมันและเศษอาหารบนเสื้อของเจ้าด้วยซ้ำ! ใครกันที่อยากจะกอดเจ้า? เจ้าไม่สำเหนียกตัวเองบ้างเลยหรือไง?
เขาโอบแขนรอบเอวขององค์หญิงรัชทายาทอย่างสงบ เลี่ยงรัชทายาทโดยการผลักออกไปเบา ๆ เขาเลือกคำพูดอย่างระมัดระวัง “องค์รัชทายาท กระหม่อมยังคงต้องสู้ หากอุ้มพระองค์ไปด้วย กระหม่อมก็ไม่สามารถสู้กับนักฆ่าเหล่านี้ได้!”
รัชทายาทขมวดคิ้วและชี้ไปที่องค์หญิงรัชทายาทในอ้อมแขนของเขา “ถ้าอย่างนั้น ปล่อยนางแล้วกอดข้าแทนไม่ได้เหรอ?”
คำพูดของรัชทายาททำให้ซูอันแทบจะอ้าปากค้าง
ไอ้ชายผู้นี้สมองของมันกลับได้หรืออย่างไร?!
เจ้าควรจะถือสาที่ข้ากอดภรรยาเจ้าไม่ใช่หรือ? ทำไมเจ้าไม่หึงหวงแต่อยากจะกอดข้าแทน?