ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก - บทที่75 ปมทั้งชีวิต
หลีซินสังเกตสีหน้าชางหลิงและขับรถไปด้วย สายตาเขาเหลือบมองไปที่กระจกมองหลังออกไปด้านนอก กลับสังเกตเห็นความผิดปกติ
เขาอยู่หน้าประตูNovaก็เจอรถคันสีดำนี้หนึ่งครั้ง เพราะเป็นยี่ห้อหงฉี ดังนั้นเขาจึงจำได้แม่น ตอนนี้มาถึงชานเมืองแล้ว ถ้ามาทางเดียวกัน ก็คงไม่บังเอิญแบบนี้หรอก
หลีซินตื่นเต้น ความระแวงหลายปีที่ฝึกซ้อมมาก็เอาออกมาใช้
“พี่สะใภ้ คาดเข็มขัดให้ดีล่ะ” หลีซินเตือนเธอ
“ทำไมเหรอ?” ชางหลิงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น รู้สึกแค่ว่าความเร็วของรถนั้นเร็วขึ้นกว่าเดิม
“พวกเราถูกคนจับตามองแล้ว” หลีซินสีหน้าเข้มงวดขึ้นมา เขาเหยียบคันเร่งจนมิด
รถด้านหลังก็ไล่ตามมาเรื่อยๆ รถสองคันขับอยู่บนถนนห่างไกลตัวเมือง ดังนั้นถึงได้ใจกล้าแบบนี้ รถหงฉีเหยียบคันเร่งจนสุด แซงหน้ารถพวกเขาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นก็ขวางถนน ปิดทางของพวกเขาเอาไว้
หลีซินรีบเหยียบเบรก รถเกือบชนกับคันข้างหน้า ดูท่าแล้ว คนบนรถคงอยากบีบบังคับให้พวกเขาจอด
หลีซินหมุนพวงมาลัย รถถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว หมุนตัวรถ จากนั้นก็ขับย้อนศร
รถหงฉีก็ตามมาอีก ชางหลิงไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เธอตกใจจนหน้าซีดเผือด หัวใจเต้นเร็วตามความเร็วของรถหลีซิน
ตลอดทางรถคันอื่นก็บีบแตรกันเสียงดัง เห็นรถด้านหลังตามมาติดๆแล้ว ทั้งหน้าทั้งหลัง หลีซินสะบัดท้ายรถ เบี่ยงเข้าไปทางถนนเล็ก
รถขับไกลออกไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ ออกห่างจากทางในตอนแรกออกไปมาก ขับอยู่นานมากก็เจอแต่ถนนบนภูเขา ไม่เห็นบ้านคนเลย
รถหงฉีขับตามมาติดๆ เหมือนจะขวางพวกเขาไว้ให้ได้ ชางหลิงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรหาโหมวยู่
แต่ที่นี่สัญญาไม่ดี เธอโทรออกไปไม่ได้ บริการทั้งหมดถูกปิดกั้น
โทรศัพท์ของโหมวยู่ดังขึ้น
บนหน้าจอมีชื่อโม่โม่ปรากฏขึ้น เขาขมวดคิ้ว รับต่อหน้าต้วนเหิง
“โหมวยู่” เสียงของโม่โม่อ่อนโยนมาก “ตอนนี้นายว่างไหม? พ่อฉันอยากเชิญนายมาดื่มชาด้วยกันสักแก้ว”
ต้วนเหิงหัวเราะ โหมวยู่ก็ตอบตกลงจากนั้นก็วางสายไป
“พี่เดาได้แม่นมาก” ต้วนเหิงนับถือในความสามารถการคาดเดาของเขา “ตอนนี้ ถึงตาพี่ยื่นข้อเสนอแล้ว”
โหมวยู่จ้องโทรศัพท์ตัวเองอยู่นาน ในใจก็รู้สึกทะแม่งๆแปลกๆ แต่ก็พูดไม่ออกว่าคืออะไร
สถานที่นัดเจออยู่ที่ห้องน้ำชาสวนบ้านตระกูลโม่
โม่โม่บอกว่าโม่หยวนผิงนัดเขาดื่มชา แต่พอมาถึงแล้ว กลับไม่เห็นโม่หยวนผิงเลย
โม่โม่สวมชุดดื่มน้ำชาอันสง่างาม คอเสื้อก็มีโบว์ผูกเอาไว้ ในตอนที่ก้มตัวลงเทน้ำชา เผยให้เห็นถึงร่องอกของเธอ
“โหมวยู่ มาแล้วเหรอ” พอเห็นโหมวยู่ โม่โม่ก็รีบลุกขึ้นต้อนรับ โหมวยู่ไม่ตอบอะไร และไปนั่งลงบนเก้าอี้
“สวนนี้นายไม่มานานแล้ว นายยังจำได้ไหม ตอนเด็กพวกเราชอบมาวิ่งเล่นกันที่นี่”
“เข้าประเด็นเลย” โหมวยู่ไม่ชอบคำพูดเกริ่นนำมันดูเสียเวลา ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ชางหลิงยังรออยู่บ้าน
รอยยิ้มของโม่โม่ก็หุบลง “พวกเราจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องห่างเหินก็ได้นะ”
โหมวยู่เงียบ
“ได้ ในเมื่อแบบนี้ ฉันก็ไม่อ้อมค้อมแล้วกัน” เห็นโหมวยู่ทำท่าไม่อยากจะพูด โม่โม่ก็หยิบกาน้ำชาขึ้นมา เทให้เขาหนึ่งแก้ว “สามคนนั้น อยู่ในมือนายใช่ไหม?”
โหมวยู่เงยหน้าขึ้น โม่โม่ไม่หยิ่งผยองเหมือนตอนเช้าแล้ว แม้จะพยายามทำใจให้เย็น แต่มือเธอสั่นตอนเทน้ำชาก็ทำให้รู้แล้วว่าเธอกำลังตื่นเต้น
“ใช่” โหมวยู่ก็ไม่ปฏิเสธ
โม่โม่สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “นายอยากทำอะไร?”
“เธอไม่เข้าใจเหรอ?” โหมวยู่จ้องมองเธอ “ฉันคิดว่าฉันพูดกับเธอหลายครั้งแล้วนะ เธอคงเข้าใจความหมายของฉันดี”
“โหมวยู่ แต่งงานกับฉันมันยากขนาดนั้นเลยหรือไง? ทั้งเมืองหนาน ใครจะเหมาะสมกับนายได้เท่าฉันกัน? ฉันรู้ว่านายอคติกับตระกูลโม่ แต่นั่นก็เป็นเรื่องของพวกผู้ใหญ่ พวกเราคนรุ่นใหม่ก็แค่ใช้ชีวิตของตัวเองให้ดี ไม่มีใครชอบนายได้เท่าฉันหรอก และไม่มีใครเข้าใจนายได้เท่าฉันอีกด้วย……”
พูดถึงเข้าใจ โหมวยู่นึกถึงคำพูดก่อนที่ชางหลิงจะออกไป เธอบอกว่า เธอไม่มีวันเข้าใจเขา นั่นสิ ขนาดชางหลิงที่สนิทกับเขายังไม่รู้ใจเขาเลย หรือว่า คนที่เติบโตมาพร้อมเขา ก็ถือว่าเข้าใจเขางั้นเหรอ?
โหมวยู่กระตุกยิ้มมุมปาก เขาจ้องชาแก้วนั้น ไม่ได้ดื่มมันลงไป
“เซิ่งซื่อเป็นของตระกูลเซิ่ง” โหมวยู่พูดออกมาเรียบเฉย “ตระกูลเซิ่งมีคนสามสมัย พยายามอยู่นานเพื่อให้มันมีพื้นที่ในเมืองหนาน การร่วมมือกับตระกูลโหมว เป็นเพราะตระกูลเซิ่งไม่มีลูกชาย อยากจะได้คนมาสืบทอด แล้วตระกูลโม่ของพวกเธอทำอะไรลงไปบ้าง? พ่อของเธออยู่ข้างตัวพ่อฉัน เป็นกรงเล็บให้กับเขา ไล่คนในตระกูลเซิ่งทุกคนออกไปจากเซิ่งซื่อ บุกรุกครอบครองที่ดินของผู้อื่น นี่สิบสองปีก่อน พวกเขาสองคนร่วมมือกัน เพื่อแย่งชิงอำนาจ ขังแม่ของฉันที่กำลังจะคลอดเอาไว้”
“พ่อเธอได้บอกไหมว่าแม่ของฉันตายยังไง?” โหมวยู่หรี่ตาลง ดวงตาคู่นั้นไม่รู้ว่าแค้นและเจ็บใจมากแค่ไหน
“คลอดลูกยากจนตาย” โหมวยู่พูดต่อ “คืนวันนั้น ฉันเห็นแม่ถูกความเจ็บปวดทรมานร่างกายกับตาตัวเอง แต่ฉันหาคนอื่นๆมาช่วยไม่ได้เลย ห้องนั้น ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีผู้ช่วย มีแค่ฉันที่อายุหกขวบ คลอดลูกให้กับเธอ”
โหมวยู่ยังคงจำภาพในวันนั้นได้ไม่มีลืม คืนนั้นที่ฟ้าฝนพายุถล่ม เขาพยายามเคาะประตูเสียงดัง ตะโกนร้องไห้คนมาช่วยแม่ของเขา แต่กลับไม่มีใครตอบเขาเลย
เขาได้ยินเสียงแม่ร้องไห้อย่างสิ้นหวัง มองดูเลือดสีแดงสดที่ไล่ออกมาจากร่างกายของเธอเปื้อนเต็มที่นอน แม่ชี้นำเขาด้วยเสียงอ่อนแรง เขาลากเด็กในท้องแม่ออกมาด้วยสองมือตัวเองทีละนิด แต่น่าเสียดาย ในตอนที่น้องสาวเขาเกิดออกมา ก็สายเกินไปเสียแล้ว……
เด็กคนนั้นตายแล้ว เธอถูกบีบอยู่ในห้องนานเกินไป หายใจไม่ออกจึงทำให้เสียชีวิต ร่างกายน้อยๆนั้นเต็มไปด้วยเลือด แต่กลับไม่มีลมหายใจแล้ว เขาทำตัวไม่ถูก ตอนที่ถามแม่ว่าทำไมน้องถึงไม่ร้องไห้ ก็ถึงเห็นว่า แม่ไม่ขยับแล้ว……
“แม่ของฉันตายไปต่อหน้าฉัน เธอเจ็บทรมานจนตาย” โหมวยู่ดวงตาแดงก่ำ “สองชีวิต……เธอพูดมาสิ ฉันจะไม่มีอคติกับตระกูลโม่ได้ยังไง?”
“แต่งงานกับเธอมีอะไรดี? เพราะพอได้เห็นหน้าเธอ ฉันก็นึกถึงเรื่องที่พ่อเธอและพ่อฉันทำมาก่อน ฉันก็อดไม่ได้ที่จะเกลียดพวกเขา”
“แต่ว่า……เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับฉันนะ” โม่โม่ก็ร้อนรนขึ้นมา “โหมวยู่ ฉันไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้นเลย ก็เพราะเรื่องนี้ ฉันถึงอยากชดใช้และได้รับการให้อภัยของนาย”
“วิธีการได้รับการให้อภัยจากฉัน ก็คือแอบทำร้ายผู้หญิงที่มาเข้าใกล้ฉันทุกคนหรือไง?” โหมวยู่พูดต่ออย่างเย็นชา “ไปเรียนด้วยกันตอนเด็ก เธอทำร้ายเด็กผู้หญิงทุกคนที่มาส่งจดหมายให้ฉัน ฉันรู้สึกว่าเธอแค่ยังไม่โต ต่อมา เธอก็รุนแรงมากขึ้น ถึงขั้นกลั่นแกล้งกันในโรงเรียน ฉันก็ยังไม่ได้ว่าอะไร ฉันรู้สึกแค่ว่าเธออาจจะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น”
“แต่ฉันก็รู้สึกแทบจะหยุดหายใจ ฉันกลับบ้านถูกพ่อควบคุม เดินออกจากบ้าน ยังต้องอยู่ภายใต้การจับจ้องของเธอ ดังนั้นฉันถึงได้เลือกไปโรงเรียนทหาร อยากจะหนีจากตระกูลโหมว และหนีจากตระกูลโม่ แต่ฉันไม่คิดว่า พอฉันกลับมาในสามปีนี้ เธอเปิดโลกทัศน์ของฉันใหม่ทุกครั้ง……เธอไม่รู้เหรอว่าทำไมฉันถึงเกลียดผู้หญิง? ภาพคลอดลูกของแม่ฉันมันกลายเป็นปมทั้งชีวิตของฉัน และเธอ เธอทำให้ฉันรู้สึกว่า แท้จริงแล้วผู้หญิงคนหนึ่งโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้เลยเหรอ”
สายตาโม่โม่มืดมนลง
เธอจ้องมองโหมวยู่ แสยะยิ้มขึ้นมาเรื่อยๆ “นายรู้สึกว่าฉันโหดเหี้ยมงั้นเหรอ? ผู้หญิงพวกนั้น แต่ละคนเพ้อฝันอยากคบกับนาย ฉันแค่ไม่อยากให้พวกหล่อนรู้จักเจียมตัวก็เท่านั้น แบบนี้ไม่ถูกเหรอ?”
“งั้นเธอก็สั่งให้ผู้ชายคนอื่นไปข่มขืนพวกหล่อนงั้นเหรอ? ก็ทำร้ายร่างกายพวกเธอได้ตามใจชอบงั้นเหรอ? คุณหนูรองตระกูลเฉินถูกข่มขืน ลู่หมิงหมิงเพื่อนมัธยมปลายถูกคนจับตัวไปค้ามนุษย์ โจวซือหยวนธุรกิจที่บ้านล้มละลายพ่อต้องเข้าคุกและหล่อนก็กลายเป็นเด็กนั่งดริ้ง มิหนำซ้ำยังมีน้องสาวของฉีจินหมิ่นฉีอี้เจินของตระกูลฉีที่จมน้ำ แม้เธอจะมีชีวิตรอดกลับมาแต่กลับเธอเสียโฉมไปตลอดกาล และคนที่ช่วยหล่อน สามีของฉีจินหมิ่นก็ตายไปเพราะเหตุนี้”
“โม่โม่ เธอไม่เพียงแต่โหดเหี้ยมนะ เธอกำลังทำเรื่องผิดกฎหมายอยู่ด้วย”