นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 577
ตอนที่ 577ไม่ต้องตามแล้ว
“เข้ามา เอาราชโองการฉบับนี้ไปที่จวนเว่ย” ซ่างกวนเหมิงห้าวเอาราชโองการฉบับหนึ่งให้คนที่เข้ามา แล้วหยิบอีกฉบับหนึ่งขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า “ส่วนฉบับนี้เจ้าเอาไปให้ที่จวนแม่ทัพใหญ่”
ซ่างกวนเหมิงห้าวรู้สึกพอใจมาก เขาจะรอดูสิว่าคนพวกนี้จะต่อกรกับเขาต่อยังไง
คนของซ่างกวนเหมิงห้าวทำงานอย่างรวดเร็ว ไม่นานเรื่องที่เขาให้สืบก็สืบได้แล้ว
“เกิดอะไรขึ้น” ซ่างกวนเหมิงห้าวไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ
“ทูลฝ่าบาทครั้งสุดท้ายที่คนคนนั้นทำงานคือให้ไปฆ่าผู้หญิงคนนั้น และเรื่องนี้ไทเฮาเข้ามายุ่งด้วย”
ซ่างกวนเหมิงห้าวรู้สึกโกรธขึ้นมา ไทเฮาอีกแล้วหรอ ทำไมนางถึงได้ทำแบบนี้กับข้าอีกแล้ว แต่เขาก็นึกปัญหาอีกข้อหนึ่งได้ว่าเหมือนครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งแรก สำหรับผู้หญิงคนนั้น ทำไมไทเฮาถึงได้ทำกับนางเช่นนี้ ทำไมถึงได้ฆ่านางครั้งแล้วครั้งเล่า
คำถามนี้วนอยู่ในหัวของซ่างกวนเหมิงห้าว ทำให้เขาอยากรู้คำตอบ และคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ง่ายขนาดนี้
ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจไปถามไทเฮาให้ชัดเจน
เวลานี้ไทเฮากำลังนั่งฟังบ่าวไพร่รายงานเรื่องคนชุดดำที่เข้ามาบุกตำหนักยู้ซูเมื่อคืน
“เจ้าบอกว่าฮ่องเต้ปล่อยคนไปงั้นหรือ” ไทเฮาถามขึ้นเพื่อความแน่ใจ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฮ่องเต้ใจดีมีเมตตา ถึงขั้นปล่อยคนไป
“ทูลไทเฮามันเป็นเรื่อง ตอนนั้นข้าเองก็อยู่ตรงนั้นด้วยเห็นกับตาว่าฮ่องเต้สั่งให้ปล่อยคนไปไม่ต้องตาม” คนนั้นกลัวว่าไทเฮาจะไม่เชื่อเวลาที่ จึงพูดอย่างจริงจัง
ไทเฮาขมวดคิ้ว “ช่วงนี้ฮ่องเต้เป็นอะไรชอบทำให้ข้าเป็นห่วงอยู่เรื่อยไป”
“งั้นไทเฮาก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว” คนยังไม่ทันมาถึงแต่เสียงมาถึงก่อนแล้ว
ไทเฮาได้ยินเสียงซ่างกวนเหมิงห้าวเช่นนี้สีหน้าของนางก็เปลี่ยนทันที แต่นี่ไม่ใช่จุดสำคัญ จุดสำคัญคือคำพูดของซ่างกวนเหมิงห้าว
ซ่างกวนเหมิงห้าวเข้ามาโบกมือไล่ พวกบ่าวไพร่จึงได้ถอยออกไป
ในห้องเหลือเพียงฮ่องเต้กับไทเฮาสองคน ไทเฮาดูสีหน้าของฮ่องเต้ไม่ค่อยดี ใจนางเองก็ตุ้มๆต่อมๆ ตอนนี้นางรู้สึกว่าซ่างกวนเหมิงห้าวนั้นยากจะเดาใจเขาได้
“เสด็จแม่คิดใช่ไหมว่ามันยุ่งวุ่นวายเกินไป” ไทเฮาที่นั่งไม่นิ่งซ่างกวนเหมิงห้าวสังเกตเห็นอยู่ เขาไม่อยากให้ไทเฮาเข้ามายุ่งเรื่องของเขา ไม่เช่นนั้นแผนการที่เขาวางไว้จะไม่เป็นไปตามที่วางเอาไว้
“ฮ่องเต้ นี่คือสิ่งที่เจ้าควรทำกับข้าหรือ” ไทเฮาแสดงอำนาจแล้วจ้องมองไปทางซ่างกวนเหมิงห้าว
ซ่างกวนเหมิงห้าวยิ้มมองไปทางไทเฮาแล้วพูดขึ้นว่า “แล้วนี่หรือที่เจ้าควรทำกับข้าที่เป็นฮ่องเต้”
พอไทเฮาได้ยินเช่นนี้สีหน้าก็เปลี่ยนทันที ฮ่องเต้หมายถึงอะไรนางเข้าใจดีที่สุดแล้ว
ซ่างกวนเหมิงห้าวมองดูสีหน้าของไทเฮา ทำให้เขารู้ว่าเขาบรรลุเป้าหมายแล้วถึงได้พูดขึ้นอีกว่า “เสด็จแม่ท่านไม่รู้หรือว่าการทำอะไรโดยพลการของท่านมันทำให้ข้าต้องเจอกับปัญหายุ่งยาก แล้วก็ทำไมท่านถึงต้องฆ่าผู้หญิงคนหนึ่งครั้งแล้วครั้งเล่าด้วย ข้าอยากรู้เหตุผล แล้วก็ไม่ต้องใช้เหตุผลเหมือนคราวที่แล้วอีก ท่านเป็นคนยังไงข้ารู้ดีที่สุด” ขณะที่ซ่างกวนเหมิงห้าวพูดโประโยคนี้เขาดูเหมือนจะเน้นเสียงหนัก
ไทเฮาถอนหายใจ ซ่างกวนเหมิงห้าวในตอนนี้ถ้านางไม่ตามเขาเกรงว่าทั้งสองคงต้องปะทะกันแน่ แต่นางไม่มีทางบอกหรอกว่าผู้หญิงคนนั้นคือซินเหยา เมื่อก่อนเพราะนางยั่วหยวนซ่างกวนเหมิงห้าว ตอนนี้ยังมาทำให้เขาคิดถึงอีก
“นางอยากจะร่วมมือกับเว่ยโก๋กงเจ้าไม่รู้หรือยังไง ถึงนางจะมีทีท่าว่าไม่ร่วมมือกับเว่ยโก๋กง แต่นั่นก็เป็นแค่เรื่องโกหก ใบหน้านั่นอยากจะยั่วให้เจ้าหลง เจ้าดูเจ้าในตอนนี้สิ………………” ไทเฮาพูดขึ้น
คราวนี้ซ่างกวนเหมิงห้าวโกรธแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้กับข้า เสด็จแม่ท่านควรอยู่พักผ่อนแต่ในตำหนักบิงฉือเถอะ ไม่ต้องคิดจะไปยุ่งเรื่องนี้เรื่องโน้น ผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไง เกรงว่าท่านยังไม่เคยเห็นแล้วพูดให้ร้ายนาง ไม่ว่าเมื่อก่อนจะด้วยเหตุผลอะไร แต่จากนี้ไปไม่ต้องมายุ่งเรื่องของข้าอีก” คำพูดนี้ของซ่างกวนเหมิงห้าวถึงจะเรียกได้ว่าฮ่องเต้อำมหิตที่ใครเขาพูดกัน พูดจบซ่างกวนเหมิงห้าวก็เดินจากไป
เขาต้องการจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง เมื่อครู่ไทเฮาบอกว่านางสวยมาก งั้นที่เขาเห็นก็ไม่ใช่ใบหน้าที่แท้จริงของนางน่ะสิ งั้นใบหน้าที่แท้จริงของนางเป็นอย่างไรกัน
“ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย พี่ชาย พี่ชาย” ในฝันซินเหยาเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ทำให้นางอยากจะหนี ที่นี่คือนรกใช่ไหม นางไม่ต้องการ
“ว้าย”
ใช่ นางไม่สามารถหยุดได้ นางต้องไปจากที่นี่ นางยังมีลูก ลูกที่พึ่งคลอดออกมา ใครจะช่วยนางล่ะ
ซินเหยาตะเกียกตะกายร้องเรียกไม่หยุด ในหัวของเขาปรากฏเงาที่คุ้นเคยขึ้นมา คนนั้นคือคนที่นางเรียกว่าพี่ชาย คนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
“ซินเหยา ไม่ต้องกลัว ข้าอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวนะ” ได้ยินเสียงร้องเรียกของซินเหยา โจว๋หยูนถิงจับมือนางเอาไว้แน่คิดอยากจะช่วยนางไม่ให้กลัว มอบแสงสว่างให้นาง ไม่อยากให้นางติดอยู่ในภวังค์นั่น
ซินเหยาได้ยินแล้ว นางรู้สึกว่ามืออุ่นๆจากนั้นก็กระจายไปทั่วร่าง ทำให้นางรู้สึกสงบ แล้วเดินไปตามเสียงเรียกนั่น ซินเหยามองเห็นแสงสว่าง นางเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆจนในที่สุดก็พบกับท้องฟ้าที่สว่างสดใน
นางค่อยๆลืมตา แสงแสบตานาง นางหลับตาแล้วลืมตาอีกครั้ง
พอลืมตามาซินเหยาก็อยู่ในอ้อมกอดของคนคนหนึ่ง อ้อมกอดที่อบอุ่น
โจว๋หยูนถิงเห็นซินเหยาได้สติ และคิดว่าตนนั้นอยู่ใกล้นางเกินไป เขาจึงรีบเอามือออก
ซินเหยาเห็นโจว๋หยูนถิงทำเช่นนั้นนางก็ยิ้มแล้วเข้าไปกอดเขา “พี่มีท่านนี่ดีจริงๆ” ตอนที่พูดประโยคนี้นางรู้สึกได้จริงๆว่าตนไม่ต้องโดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว ไม่ต้องเหมือนดอกแดนดิไลอ้อนที่ไม่รู้จะปลิวไปทางไหนแล้ว แบบนี้ดีจริงๆ
โจว๋หยูนถิงได้ยินซินเหยาเรียกตนว่าพี่ชาย วินาทีนั้นเขาดีใจอย่างบอกไม่ถูก นี่ก็หมายความว่าซินเหยาจำได้แล้ว
“ซินเหยาเจ้าจำพี่ได้แล้วหรือ” คำพูดนี้ของโจว๋หยูนถิงฟังดูดีใจยิ่งกว่าเด็กน้อยได้ของอีก มันทำให้ซินเหยาพอใจ ถึงแม้นางจะรู้ว่าหนทางของตนนั้นยังอีกยาวไกล และยังมีความทรงจำมากมายที่นางยังจำไม่ได้ แต่ตอนนี้นางไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วจริงๆ นางเชื่อว่าต่อให้ทุกคนหักหลังนาง แต่พี่ชายของนางจะคงยืนอยู่ข้างๆนางเสมอ
“พี่ ท่านไม่โกรธข้าใช่ไหม” ซินเหยามองดูโจว๋หยูนถิง แววตาของนางเต็มไปด้วยความหวัง ไม่ต้องโกรธนาง ไม่โกรธที่นางจำเขาไม่ได้ ไม่โกรธที่นางจากไปโดยไม่บอกลา
“เด็กโง่” โจว๋หยูนถิงลูบหัวของซินเหยาไปมาเขายิ้มอย่างมีความสุข
ซินเหยาได้ยินคำว่าเด็กโง่ ใจของทั้งสองก็สนิทกันขนาดนี้
โจว๋หยูนถิงกับซินเหยาคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง ซินเหยารู้สึกเหนื่อยแล้ว ถึงได้ยอกพักผ่อน นางโดดเดี่ยวมานานเกินไปแล้ว
“นายท่าน” หานยืนอยู่ข้างๆโจว๋หยูนถิงมีเรื่องอยากจะพูดแต่ก็หยุดไป
“ว่า” โจว๋หยูนถิงหันมามองหาน มองดูท่าทางอ้ำๆอึ้งๆของหานก็ถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า “มีเรื่องอะไรก็พูดมาเลย เจ้าอยู่กับข้ามานานหลายปียังมีเรื่องอะไรที่ไม่กล้าพูดอีก”
หานได้ฟังโจว๋หยูนถิงพูดมาเช่นนี้จึงได้รวบรวมความกล้าแล้วพูดขึ้นว่า “คราวที่แล้วที่ข้าตามน้าเมิ่งไป นางไปเจอคนลึกลับคนหนึ่ง และคนคนนั้นคือคนของไทเฮา ดังนั้นข้าจึงคิดว่านายหญิงน่าจะถูกไทเฮาขังเอาไว้”
ไทเฮาหรือ โจว๋หยูนถิงได้ยินชื่อนี้ เขาอึ้ง ทำไมเป็นนาง ดูท่าคงต้องเข้าวังหลวงอีกสักรอบแล้ว
“ข้ารู้แล้ว อ่อใช่แล้ว เจ้าคอยระวังน้าเมิ่งหน่อย ข้ากลัวว่านางจะทำร้ายซินเหยาอีก แล้วก็ซินเหยาจำข้าได้แล้ว แต่เหมือนนางจะจำได้แค่บางส่วนเท่านั้นสำหรับลูกของนางแล้วก็คนคนนั้นนางยังจำไม่ได้” โจว๋หยูนถิงพูดคนเดียวโดยที่ไม่ได้สังเกตสีหน้าของหานเลย
หานคิดว่าซินเหยาคือคนรักของโจว๋หยูนถิง แต่ทำไมถึงมีลูก ลูกของนายท่านหรอ แล้วคนคนนั้นล่ะ
โจว๋หยูนถิงเห็นสีหน้าหานเช่นนี้จึงได้พูดขึ้นมาว่า “เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือ” เวลานี้เขาดูเคร่งครัดขึ้นมาทันที และเหมือนจะโมโหด้วย
หานสะดุ้งแล้วมองดูโจว๋หยูนถิง “ข้าแค่ไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของพวกท่าน ดังนั้น………….”
ได้ยินหานพูดเช่นนี้โจว๋หยูนถิงถึงได้นึกได้ว่า เหมือนตนจะยังไม่เคยพูดให้หานฟังว่าความสัมพันธ์ของตนกับซินเหยาคืออะไร เขาจึงยิ้มแล้วพูดว่า “ข้ากับนางเป็นพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน”
ได้ยินเช่นนี้สีหน้าของหานก็เปลี่ยนไปทันที เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าโจว๋หยูนถิงจะมีน้องสาวด้วย แล้วก็ยังเป็นน้องสาวที่เก่งมาก แต่พอคิดไปคิดมาเขาเก่งขนาดนี้แน่นอนว่าน้องสาวของเขาก็ต้องเก่งเช่นกัน
โจว๋หยูนถิงเห็นสีหน้าของหานที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็วเขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ต้องแสดงความยินดีไหม”
“ยินดีด้วย” หานไม่กล้าบอกความคิดแรกของตนให้โจว๋หยูนถิงฟัง เขาไม่รู้ว่าถ้าบอกไปแล้วโจว๋หยูนถิงจะจัดการเขายังไง เก็บแรงไว้ดีกว่า
ซินเหยาที่ได้สติมาเหมือนจะร่าเริงขึ้น เมื่อเทียบกับคนก่อน แต่ตอนนี้นางก็ยังคงนิ่ง แต่ก็สามารถรับรู้ได้ถึงความสบายใจของนาง
“เจ้าเข้ามาหน่อยวันนี้นายท่านของเจ้าไปไหนแล้ว” ซินเหยาเรียกสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา นางรู้นิสัยของพี่ชายตนเองว่าเป็นคนอบอุ่น นานอนว่านิสัยของสาวใช้คนนี้ก็คงจะดีด้วยเช่นกัน คงไม่ทำอะไรแปลกๆกับนางหรอก
สาวใช้คนนั้นมองดูใบหน้าที่ล้างแล้ว ใบหน้าที่สวยงามของซินเหยา นางแอบดีใจ ได้ยินว่าเป็นน้องสาวของนายท่าน นางก็ยิ่งดีใจ รู้ว่ามีนายท่านมาใหม่คนหนึ่ง แถมยังเป็นคนสวย นิสัยดี และไม่มีผลอะไรกับที่พวกนางชอบนายท่าน นั่นมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว
“นายท่านบอกวันนี้จะออกไปทำธุระ สั่งให้พวกข้าคอยดูแลคุณหนูเป็นอย่างดี” นางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หวาน
แน่นอนว่าซินเหยาไม่ถามต่อ เพราะเจ้านายจะทำอะไรบ่าวไม่มีสิทธิ์ถามอยู่แล้ว
“อืม ข้าจะเดินไปรอบเจ้าไม่ต้องตามข้าไปก็ได้” ซินเหยาโบกมือไล่จากนั้นก็เดินไปตามเรือนที่กว้างใหญ่
ไม่พูดไม่ได้ว่าวิวของจวนนี้ช่างสวยงามยิ่งนัก ถึงแม้จะเป็นฤดูหนาวแต่ก็ไม่ได้ดูหนาวมาก นี่ทำให้ซินเหยานึกถึงหลังเขานั่น ความสวยนั่น น้ำที่อุ่นนั่น สวยงามจริงๆ
ซินเหยาอยากจะไปดู แต่กลับได้ยินเสียงคนคุยกัน
“หานนายน้อยไปไหนแล้ว” เสียงผู้หญิงคนหนึ่ง เสียงนี้ซินเหยาไม่มีทางลืมแน่บาดแผลนี่ยังเจ็บอยู่เลย
“ข้าเองก็ไม่รู้ คราวที่แล้วที่พูดถึงไทเฮา วางใจเถอะนายท่านไม่เป็นวรยุทธเขาคงไม่มีอันตรายหรอก มีคนคอยคุ้มครองเขาอยู่” หานพูดด้วยความมั่นใจ เขาตติดตามโจว๋หยูนถิงมาหลายปี คนที่คอยคุ้มครองโจว๋หยูนถิงมีมากมาย เพราะโจว๋หยูนถิงร่างกายอ่อนแอมาตลอด