ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1209 ไม่มีอันใดยาก
ตอนที่ 1209 ไม่มีอันใดยาก
ฉู่หลิวเยว่ “…”
ยอมแพ้แล้ว!
ในที่แห่งนี้นางไม่ควรจะคิดแข่งขันกับใครเลย
ทั้งสองคนมุ่งหน้าไปทางเขาเฝิงหมิน
ในตอนนี้กลุ่มคนที่ยืนรออยู่ด้านนอกก็เหมือนว่าจะสังเกตอันใดได้บางอย่างแล้ว
“ทางที่พวกเขาไป เหมือนว่าจะเป็นเขาเฝิงหมิน? หรือว่าเหล่าผู้อาวุโสจะขังฉู่เยว่เอาไว้ที่นั่นหรือ?”
“ไม่หรอกมั้ง? ฉู่เยว่เคยถูกขังไปแล้วครั้งหนึ่ง อีกทั้งเขาเพิ่งออกมาได้ไม่นานไม่ใช่หรือ? ต่อให้เหล่าผู้อาวุโสต้องการลงโทษเขา แต่ให้เลือกสถานที่นี้อีก ก็เกรงว่าจะไม่เหมาะสม…”
“มีอันใดเหมาะสมไม่เหมาะสมกัน? เรื่องที่เขาทำผิด ก็ต้องได้รับการลงโทษ หรือเป็นเพราะว่าเขาเพิ่งออกมาได้ไม่นาน จึงไม่ต้องลงโทษแล้วหรือ?”
“จะว่าไปแล้วมันก็ใช่…ดูเหมือนว่าศิษย์พี่หรงซิวจะเป็นคนรับผิดชอบนำตัวเขาไปสินะ…แต่ว่า เหตุใดดูเหมือนทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเลยล่ะ…”
“…ความจริงแล้วข้าก็รู้สึกแบบนั้น! เมื่อครู่นี้เหมือนว่าศิษย์พี่หรงซิวกำลังหัวเราะอยู่เลย พวกเจ้าเห็นหรือไม่? เคยได้ยินมาว่าเขาเป็นคนเย็นชา รักสันโดษ โดยปกติแล้วก็ไม่ค่อยพูดมาก เหตุใดเขาถึงปฏิบัติตัวต่อฉู่เยว่ดีขนาดนั้นเล่า…”
“ไม่ได้ยินหรือไง? ก่อนหน้านี้ฉู่เยว่คนนั้นได้ช่วยศิษย์พี่หรงซิวจากการโดนโจมตีน่ะ! คนธรรมดาจะเปรียบเทียบได้ที่ไหนกัน? ศิษย์พี่หรงซิวปฏิบัติตัวต่อเขาเช่นนั้น”
เจียงจื่อหยวนมองเงาร่างทั้งสองคนที่เดินห่างออกไปไกลเรื่อยๆ ก่อนจะกัดริมฝีปากแล้วหมุนตัวออกไป
…
ด้วยประสบการณ์ที่มีมาก่อนหน้านี้ กอปรกับการนำทางของหรงซิว ทำให้ครั้งนี้ฉู่หลิวเยว่เดินทางมาถึงเขาเฝิงหมินได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อถึงด้านหน้าของภูเขา นางก็หันมองหน้าหรงซิวด้วยความประหลาดใจ
“เหตุใดเหมือนว่าเจ้า…ดูจะคุ้นเคยกับที่นี่?”
จากที่พักของหรงซิวมาถึงที่นี่ ความจริงแล้วไม่ได้เรียกว่าใกล้
แต่ระหว่างทางที่มา หรงซิวเป็นคนนำทางอยู่ด้านหน้า โดยไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังนำทางนางไปยังเส้นทางที่สะดวกสบายที่สุดด้วย
ฉู่หลิวเยว่คิดว่าเขาน่าจะเคยมาที่นี่มากว่าหนึ่งครั้งแล้ว
เมื่อได้ยินดังนั้นหรงซิวก็พยักหน้า
“เคยมา…หลายครั้งแล้ว”
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะออกมา
“หื้อ ดูไม่ออกเลยว่าศิษย์พี่หรงซิวที่โดดเด่นในทุกด้าน จะเดินทางมาที่แห่งนี้ด้วย? เจ้าคงไม่ได้ไปทำอันใดผิดมาใช่หรือไม่ ถึงต้องถูกขังในสถานที่นี้?”
หรงซิวเหลือบสายตามองนางอย่างมีความหมาย
เขาเคยมาที่นี่หลายครั้งแล้วจริงๆ ด้วย
“ทุกสถานที่ในสำนักข้าก็เคยไปมาหมดแล้ว แค่เขาเฝิงหมินจะนับเป็นอันใดได้ แต่กับเจ้า…เหมือนว่าจะอยากมาที่นี่ตลอดเลย ที่นี่มีอันใดน่าสนุกงั้นหรือ?”
เพราะว่าก่อนหน้านี้มีท่านผู้อาวุโสอยู่ ดังนั้นฉู่หลิวเยว่จึงไม่ได้พูดอันใดกับหรงซิวมากนัก
แต่นางก็ไม่ได้ปกปิด จึงพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา พร้อมเบือนสายตาไปยังเขาเฝิงหมิน
“ใช่ ไม่รู้ว่าเหตุใดข้ามักจะรู้สึกว่า หากฝึกฝนอยู่ที่นี่ จะพัฒนาได้เร็วมาก และสบายกว่าเล็กน้อย”
หรงซิวมีสายตายอดเยี่ยม ความคิดหลักแหลม ต่อให้นางไม่ได้พูดอันใด แต่เขาก็สามารถมองออก
“ระดับความเข้มข้นของพลังปราณดั้งเดิมในเขาเฝิงหมินเหมือนกับโลกภายนอกมาก แต่ในเมื่อเจ้าชอบที่นี่ เช่นนั้น…ก็ตามใจเจ้า”
หรงซิวหัวเราะออกมา ราวกลับไม่ได้ตั้งใจจะซักไซ้ไล่เลียงถามต่อ
“ไปเถอะ อีกหนึ่งเดือนค่อยเจอกัน”
ถูกต้อง บทลงโทษในครั้งนี้ของนางกินเวลาหนึ่งเดือน
เดิมทีผู้อาวุโสวั่นเจิง อยากจะคัดค้านอย่างสุดแรง แต่เพราะคำเกลี้ยกล่อมของฉู่หลิวเยว่ เขาจึงคล้อยตาม
แต่ว่าเพราะเรื่องในครั้งนี้ เขายังบ่นผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนเป็นเวลานาน
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“หนึ่งเดือนนี้ เจ้ายังอยู่ในสำนักใช่หรือไม่?”
หรงซิวพยักหน้า
“ถูกต้อง ต้องจัดการธุระทางด้านนี้พอดี”
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามขึ้นอย่างหยั่งเชิง
“มัน…เกี่ยวข้องกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อนั้นหรือ?”
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก มีสำนักขนาดใหญ่หลายสำนักเข้ามาเกี่ยวข้อง และหรงซิวก็ฆ่าจินเหลยด้วยตนเอง สันนิษฐานว่าจะต้องมีการยืดเยื้ออันใดสักอย่าง
ทันใดนั้นเองหัวใจของนางก็กระตุกวูบ พร้อมหันไปมองทางหรงซิวด้วยแววตาตกใจ
“ช้าก่อน นี่เจ้าตั้งใจให้ข้าอยู่ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งเดือนอย่างนั้นหรือ?”
ถูกต้อง เวลาจำคุกหนึ่งเดือน หรงซิวเป็นคนเสนอขึ้นมา
ในตอนแรกผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนตั้งใจจะคุมขังนางครึ่งเดือน แต่หรงซิวบอกว่าผลกระทบจากความผิดครั้งนี้ของนางช่างร้ายแรง หากไม่จัดการให้ดี เกรงว่าจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายได้
เมื่อขังนางหนึ่งเดือน ต่อมาข่าวลือในสำนักก็จะจางหายไปเอง
อีกทั้งยังสามารถฉวยโอกาสนี้ ดัดนิสัย “วัยรุ่นเลือดร้อน” ของฉู่หลิวเยว่ได้อีกด้วย
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนรู้สึกว่าคำพูดของเขามีเหตุผลอย่างมาก จึงตอบตกลง
ในตอนแรกฉู่หลิวเยว่เพียงคิดว่า หรงซิวแค่คาดเดาได้ว่านางอยากไปเขาเฝิงหมิน เขาจึงพูดเช่นนั้นออกมา แต่เมื่อมาดูจากตรงนี้แล้ว…เห็นได้ชัดว่าเขาวางแผนเอาไว้ตั้งนานแล้ว!
“เจ้าไม่ต้องสนใจเรื่องที่น่าเบื่อเช่นนั้นหรอก”
หรงซิวกล่าวขึ้นอย่างใจเย็น
“มีข้าอยู่ ไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องเจ้าหรอก”
แน่นอนว่าฉู่หลิวเยว่นั้นมีปัญหา
…อาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อชิ้นนั้น เป็นของที่ทุกคนพยายามแย่งชิงกันมาอย่างสุดความสามารถ แต่ท้ายที่สุดแล้วกลับมาตกอยู่ในมือของนาง อีกทั้งยังยอมรับนางเป็นนายแล้ว!
หากศิษย์คนอื่นจากสำนักปีกสุวรรณต้องการจะไล่ตามมาจริงๆ นางก็มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!
เหมือนว่าจะมีอันใดบางอย่างพวยพุ่งอยู่ในใจของฉู่หลิวเยว่ แต่นางก็รู้สึกได้ว่า ระหว่างพวกเขาไม่จำเป็นต้องพูดอันใดกันก็เข้าใจ
เหมือนกับหากมีผู้ชายคนนี้อยู่ หากนางจะบุกป่าฝ่าดงก็ไม่จำเป็นต้องกังวล เขาจะจัดการให้อย่างแน่นอน
ความรู้สึกสบายใจเหล่านี้ นางจะได้รับมาจากคนผู้นี้เท่านั้น
นางระงับความคิดเหล่านั้น ริมฝีปากแดงยกยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่สดใส
“งั้นเดี๋ยวค่อยเจอกันอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า!”
หรงซิวได้รับเชื้อเชิญจากรอยยิ้มนั้น ทำให้เขาต้องยกยิ้มขึ้นมาด้วย
“ได้”
ฉู่หลิวเยว่เดินมุ่งหน้าขึ้นไป
แต่นางเพิ่งเดินไปได้แค่สองก้าว เหมือนกับนางคิดอันใดได้ขึ้นบางอย่าง จึงหันกลับไปมอง
“จริงสิ มีเรื่องหนึ่ง…”
หรงซิวพยักหน้า ส่งสัญญาณให้นางพูด
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกลังเลเล็กน้อย ก่อนจะลดเสียงต่ำลง พร้อมถามว่า
“หรงซิว เจ้ารู้จักศิษย์ที่ถูกลบชื่อจากงานประลองชิงอวิ๋นหรือไม่?”
มือของหรงซิวที่ไพล่หลังอยู่นั้นก็กำหมัดแน่น แต่ใบหน้ายังคงเฉยเมยเช่นเดิม
“รู้จัก เหตุใดหรือ?”
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าเคยไปสวนสมุนไพรของนางหรือไม่?”
“สวนสมุนไพร?”
“ใช่…ก็ที่เจ้าสำนักมอบให้นางโดยเฉพาะไง?” ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้นอย่างไม่มั่นใจ “เจ้าสำนักจัดการให้ด้วยตัวเองสินะ?”
“อื้อ ก่อนหน้านี้เคยไปมาก่อน แต่ต่อมาก็ถูกปิด จึงไม่ได้ไปแล้ว เจ้า…ไปมาแล้วหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ส่ายหน้าแล้วหัวเราะ
“ข้าจะเข้าไปในสถานที่แห่งนั้นได้อย่างใด? เหล่าผู้อาวุโสคุ้มกันอย่างแน่นหนา! ตอนที่ข้าไปรับสมุนไพรที่หุบเขาวาโยโอสถ บังเอิญได้เห็นจากที่ไกลๆ”
ร่างกายที่ตึงเครียดของหรงซิวก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“ความจริงแล้วสมุนไพรที่อยู่ในนั้น ไม่ได้มีความแตกต่างกับหุบเขาวาโยโอสถมากนัก จะไปหรือไม่ไปก็ไม่สำคัญ”
ฉู่หลิวเยว่กลับส่ายหน้า
“ไม่ ข้ากลับรู้สึกว่าสมุนไพรที่อยู่ในนั้นมีความผิดปกติเล็กน้อย”
คิ้วของหรงซิวขยับขึ้นเล็กน้อย พร้อมมองเข้าไปในแววตาของนาง
“ผิดปกติอย่างใด?”
ฉู่หลิวเยว่หยุดชะงักไปชั่วคราว
“ข้า…เห็นบัวระบำผลิบาน ของสิ่งนั้นล้ำค่ามากจริงๆ ปกติแล้วแค่หนึ่งดอกถึงสองดอกก็ว่าหายากแล้ว แต่ด้านในนั้นกลับมีเป็นจำนวนมาก…บัวระบำผลิบานหนึ่งครั้งในรอบร้อยปี ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีจำนวนเยอะขนาดนั้น”
หรงซิวถอนหายใจออกมา
“มันไม่มีอันใดยากเลย”
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไป แล้วหรี่สายตา
“เจ้ารู้ได้อย่างใด?”