เทพมารตกสวรรค์ - ตอนที่ 351 จอมโจร
ไป๋หลงเห็นเทียร์มีน้ำตาหลั่งไหลออกมาทั้งสองข้างอย่างไม่ทราบสาเหตุ..ก่อนที่เด็กสาวจะใช้มือทั้งสองกุมไปที่หัวใจที่ราวกับว่าถูกเกาทัณฑ์นับหมื่นทิ่มแทงทะลุหัวใจ…
หยาดน้ำตาของเด็กสาวค่อยๆหลั่งไหลออกมาอย่างมิอาจหักห้าม..
“ ท่านพ่อ…”
“ เทียร์เจ้าเป็นอะไร เหตุใดถึงร้องไห้ออกมาเช่นนี้..หรือว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บตรงไหน..”
ไป๋หลงไถ่ถามด้วยความเป็นห่วงและทำตัวไม่ถูกเพราะปกติแล้วตนนั้นไม่เชี่ยวชาญกับการรับมือของน้ำตาของสตรีเป็นที่สุด…
“ ข้าเจ็บตรงที่หัวใจ…เจ็บมากๆเหมือนข้าสูญเสียบางอย่างไป..สร้อยเส้นนี้ที่ท่านพ่อเป็นคนมอบให้ข้าตอนเด็กๆ..ข้าต้องรีบไปหาท่านพ่ออาจจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับท่านพ่อก็เป็นได้!! ”
เทียร์กำลังจะทะยานร่างบินขึ้นไปด้วยปีกคู่งามสีดำ..ไป๋หลงเห็นเช่นนั้นก็ขว้ามือของหญิงสาวไว้ในทันที…
“ ไม่ได้ ตอนนี้ปีศาจอยู่ทั่วทุกสารทิศมีสถานที่แห่งนี้แห่งเดียวเท่านั้นที่ปลอดภัยที่สุดเหมาะสำหรับการตั้งรับจริงอยู่ที่เจ้าแข็งแกร่งแต่เผ่าปีศาจข้างนอกนั่นก็แข็งแกร่งไม่ต่างจากเจ้า สิ่งที่เจ้ากำลังจะทำมันก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย..”
“ ไป๋หลงแล้วเจ้าจะให้ข้าทำเช่นไรบอกข้าสิ..ข้ารู้ว่าสิ่งที่ข้าทำมันทัั้งโง่และดื้อรั้น— ”
เทียร์กล่าวพร้อมน้ำตา..ก่อนที่ไป๋หลงจะโอบกอดเทียร์เอาไว้พร้อมกับเช็ดหยาดน้ำด้วยชายเสื้อของตนเอง..ทุกการกระทำของไป๋หลงล้วนเต็มไปด้วยความห่วงใย..
“ อย่าร้อง หยุดร้องได้เเล้วเจ้าเด็กโง่..ในเมื่อพ่อของเจ้าสามารถเป็นเทพมารได้ เขาต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอนเชื่อใจในตัวของท่านพ่อของเจ้าสิ…แม้ข้าจะโกรธแค้นพ่อของเจ้า แต่พอมาคิดๆดูแล้วข้าก็ไม่ได้อยากให้เขาตายขนาดนั้น เพียงแค่ข้าอยากได้ยินคำขอโทษและคำอธิบายจากปากของเขาเท่านั้นอีกอย่าง..ไฟแค้นในใจข้าเริ่มหายไปแล้ว… ”
น่าแปลกที่ตั้งแต่เทียร์ปรากฎตัวขึ้นมานั้นไฟแค้นภายในจิตใจของไป๋หลงราวกับว่าค่อยๆถูกดับมอดลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ..
“ เทียร์ตอนนี้ข้าอยากให้เจ้าไปสถานที่หนึ่งกับข้าหน่อยจะได้ไหม ข้าจำเป็นต้องมีเจ้าจริงๆ..”
ไป๋หลงกล่าวถามเทียร์ในขณะที่ซับน้ำตาก่อนที่นางจะรู้ตัวว่าตนนั้น อยู่ในอ้อมกอดของไป๋หลงและถ้อยคำพูดกำกวมเมื่อครู่..เทียร์ก็รู้สึกหน้าแดงฉ่าก่อนจะผลักไป๋หลงออกไป…
“ เจ้าคนฉวยโอกาส!!! ”
“ ข้าก็แค่ปลอบเจ้าเท่านั้นเอง ข้าปลอบประโลมคนไม่เก่งปกติข้าคิดว่าการกอดคือการปลอบประโลมที่ดีที่สุดแล้ว…”
ไป๋หลงกล่าวถามด้วยน้ำเสียงใสซื่อ..จนเทียร์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหมั่นไส้..
“ แล้วเจ้าอยากให้ข้าไปที่ไหนร่วมกับเจ้า..ไหนว่าตอนนี้ทั่วทุกสารทิศเต็มไปด้วยปีศาจ แล้วเจ้ายังอยากจะไปไหน.. ”
“ นั่นก็ใช่แล้วใครบอกว่าข้าจะออกไปด้านนอกนั่นแต่ที่ข้าจะไปก็คือ… ”
เด็กหนุ่มชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับปริยิ้มอ่อนออกมา..เป็นรอยยิ้งที่เทียร์เห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลย…
“ คลังสมบัติแดนสวรรค์.. ”
………………………………………………………
ณ ปราสาาเทพมาร
พื้นที่บริเวณโดยรอบถูกทำลายทั้งหมดไม่เหลือแม้แต่เศษซากจากการปะทะกันของเทพมารซีสและมือขวาของเบลเซบับอย่างเดียร์รอส..
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นสถานที่เดียวที่ยังไม่ถูกทำลายและยังไม่ได้รับผลกระทบจากการต่อสู้แม้แต่น้อยนั่นก็คือคลั่งสมบัติเทพมารที่อยู่ด้านหลังของบัลลังก์สีดำทมิฬ..
“ พลังโจมตีช่างน่ากลัวซะจริงๆเทพมารซีส อย่างงั้นเหรอ..ทุ่มสุดตัวทำให้แขนของข้าบาดเจ็บได้ถึงขนาดนี้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว..ข้าจะจดจำนามของเจ้าไว้..”
ท่ามกลางซากปรักหักพังมีเพียงเดียร์รอสผู้เดียวเท่านั้นที่ยังคงยืนหยัดอยู่พร้อมกับแขนข้างขวาที่อาบไปด้วยโลหิตสีแดง…
“ ข้าจะยอมถอยไปก่อนก็ได้..ราชันย์แวมไพร์อัลเบียร์ ไว้เจอกันใหม่คราวหน้าข้าขอตัว..”
เดียร์รอสพูดจบก็เปิดมิติสีดำหลบหนีไปในทันที..อัลเบียร์ที่ยืนดูอยู่ก็ไม่ได้คิดจะไล่ตามแต่อย่างใด…
“ ซีส..นี่เจ้า..ทำอะไรโง่ๆไม่สมเป็นเจ้าเลย ข้าต่างหากที่มีสิทธิ์สังหารเจ้าได้เพียงคนเดียว..เจ้าชิงตายไปก่อนแบบนี้..ไร้ความรับผิดชอบสิ้นดี..”
อัลเบียร์นั้นสัมผัสถึงพลังของซีสไม่ได้แม้แต่น้อยจากการปะทะครั้งสุดท้ายเมื่อครู่…
“ แม้แต่72 เสาหลักในแดนมารก็ไม่ยอมยื่นมือมาช่วยเจ้าอย่างงั้นเหรอ…เทพมารผู้โดดเดี่ยว ถึงแม้ผลลับของมันจะออกมาเป็นเช่นนี้..เจ้าทำแบบนี้เพื่อเก็บรักษาสิ่งใดกันแน่…ถึงทำให้เจ้าต้องยอมตายเช่นนี้ซีส.. ”
ราชันย์แวมไพร์กางม่านพลังสีโลหิตพร้อมกับกำแพงหนามบรรพกาลที่มีพิษร้ายแรงขึ้นมาเพื่อป้องกันการโจมตีอีกทั้งยังฝังศิลาแก่นอสูรระดับบรรพกาลที่สามารถปิดกั้นการเคลื่อนไหวผ่านมิติได้ครอบคลุมรัศมีโดยรอบทั่วแดนมาร…
“ การจะเปิดคลังสมบัติเทพมารได้นั้นจะต้องใช้เลือดของเผ่ามารและต้องเป็นราชวงศ์มารที่แท้จริงเท่านั้นซึ่งผู้ที่จะเปิดมันได้ก็คงเป็นอัลบาร์เท่านั้น..แต่ว่าปีศาจตนนั้นทำไมถึงมั่นใจว่าจะสามารถเข้าไปได้กันนะ..หรือว่าเผ่าปีศาจยังไม่รับรู้ถึงเรื่องนี้..แต่ถ้าเป็นแบบนั้นปีศาจตนนั้นจะกล้าบุกเข้ามาโดยไม่มีแผนการสำรองอื่นเลยอย่างงั้นหรือ…แต่ก็เอาเถอะ มาดูกันซิว่าอะไรที่ทำให้ซีสทำถึงขนาดนี้… ”
อัลเบียร์หยิบขวดเลือดขึ้นมา..ก่อนจะใช้ปลายนิ้วชี้จิ้มไปที่ขวดเลือดและเอาไปแตะที่ประตูคลังสมบัติ..
“ หากใช้โลหิตของอัลบาร์ก็สามารถเปิดมันได้.. ”
ตึง!!!
กลไกลภายในประตูค่อยๆทำงานพร้อมกับประกายแสงสีแดงที่เปล่งประกายออกมาจากบานประตูคลังสมบัติก่อนที่ประตูจะยกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ เผยให้เห็นถึงสมบัติมากมายนับไม่ถ้วนแต่มีสิ่งหนึ่งที่แปลกแยกออกไปตั้งอยู่บนแท่นพร้อมกับอัขระโบราณที่เขียนกำกับเอาไว้…
อัลเบียร์ที่ได้เห็นย่อมรับรู้ได้ในทันทีว่าสิ่งที่วางบนแท่นนั้นคืออะไร..
“ นี่มัน…เท่านี้ก็กระจ่างแล้ว ซีส ยอมสละชีวิตเพื่อสิ่งนี้สินะ…ปฐมวิญญาณของผู้เป็นบุตรสาว..นามว่าเทียร์.. ”
…………………………………………………..
ณ แดนสวรรค์
“ ไป๋หลงข้าเป็นมารแล้วเจ้าเชิญชวนมานขึ้นมาบนแดนสวรรค์เนี่ยนะ..อีกทั้งยังเป็นใจกลางเมืองหลวงของเผ่าเทพข้ารู้สึกไม่สบายตัวเอาซะเลยกับกลิ่นอายของแดนเทพ..”
“ เถอะน่า ตามข้ามาก็พอแล้ว เผ่าพันธุ์อื่นก็มีอยู่ตั้งมากมายแต่ส่วนใหญ่จะอยู่ด้านนอกเมืองหลวง ครั้งก่อนที่ข้ามาข้าก็เห็นเผ่ามารอยู่บ้างประปราย..แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ..”
ขณะที่ไป๋หลงและเทียร์เข้ามาในตำหนักเทพก็มีทหารเทพ5ตนเดินผ่านมา..
“ หลบเร็ว!! ”
ไป๋หลงพาเทียร์เข้าหลบทหารเทพที่กำลังเดินตรวจตราความเรียบร้อย…
“ เจ้าจะทำตัวลับๆล่อๆทำไม เจ้าเป็นถึงจ้าวสวรรค์ไม่ใช่เหรอ เหตุใดเจ้าต้องทำตัวเหมือนกับหัวขโมยเช่นนี้.. ”
“ นั่นแหละ ยิ่งห้ามให้ใครรู้เป็นอันขาด..ที่ข้าขึ้นมาบนแดนสวรรค์เพราะมีเป้าหมายสองอย่าง อย่างแรกคือมาดูอาการของพวกหลิงหลุนและอย่างที่สอง…คลังสมบัติแดนสวรรค์… ”
ไป๋หลงพูดอธิบายให้เทียร์ได้รับฟัง…เทียร์เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็หรี่ตามองไป๋หลง…
“ เจ้าเป็นจ้าวสวรรค์ ถ้าอยากจะเข้าก็เข้าได้ไม่ใช่หรือ ในเมื่ออำนาจทุกอย่างอยู่ในมือของเจ้าทั้งหมด.. ”
“ งั้นเจ้าดูนนั่น… ”
ไป๋หลงกล่าวขึ้นพร้อมกับชี้ไปทางห้องเก็บคลังสมบัติที่มีทหารเทพและแม่ทัพสวรรค์หลายสิบคนยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูทางเข้า…
“ ทหารเทพ…แล้วก็ผู้ที่มีความแข็งแกร่วทัดเทียมกับข้าอีกประมาณเกือบสิบคนนั่น..แม่ทัพสวรรค์สินะ..แล้ว..”
“ นั่นแหละข้าเคยขอเข้าไปแล้ว แต่แม้ข้าจะเป็นจ้าวสวรรค์และมีอำนาจในการปกครองก็จริง แต่ข้าไม่มีอำนาจในคลังสมบัติแดนสวรรค์อีกทั้งยังมีอักขระโบราณที่แข็งแกร่งเขียนทับไว้บนประตูคลังสมบัติข้ามั่นใจว่าภายในนั้นจะต้องมีบางอย่างที่ใช้ต่อกรกับเผ่าปีศาจได้แน่นอนเพราะฉะนั้น.. ”
ชายหนุ่มขับเงาออกมาสร้างร่างแยกจักรพรรดิ์ขึ้น…..
“ ท่านจักรพรรดิ์เงามีสิ่งใดให้ข้ารับใช้อย่างงั้นหรือ….”
“ เบี่ยงเบนความสนใจของทหารเทพเหล่านั้น— ”
“ นี่นายท่านคิดจะปล้นแม้กระทั่งคลังสมบัติแดนสวรรค์อย่างงั้นหรือ..ข้าคิดว่า จอมโจรไป๋หลง น่าจะเหมาะกับนายท่านมากกว่าตำแหน่งจ้าวสวรรค์อีกนะ…… ”
เทียร์ที่ได้ยินเช่นนั้นก็แทบจะหลุดขำออกมาหญิงสาวรีบใช้มืออันขาวเนียนทั้งสองข้ามมาปิดปากตัวเองเอาไว้พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากความพยามกลั้นหัวเราะสุดชีวิต…
ไป๋หลงแทบอยากจะจับร่างแยกเงาจักรพรรดิ์มาโขกกับพื้นให้รู้แล้วรู้รอด..แต่ติดตรงที่ร่างแยกจักรพรรดิ์มีใบหน้าเหมือนไป๋หลงทุกประการ…ยกเว้นนิสัยที่ต่างกันคนละขั้ว…
จบตอน