The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - ตอนที่ 46
บทที่ 46 การมองเห็น..?
“หกพันหยวนเหรอ?” จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ผมขอพูดแบบนี้แล้วกัน ถ้าผมเล่นจนพอใจแล้ว ผมจะจ่ายทั้งหมดอย่างแน่นอน”
ขณะที่เขาพูดอยู่ เขาก็รีบหยิบลอตเตอรี่ออกมาจากกล่องในทันที เขานำลอตเตอรี่กองหนึ่งวางไว้ตรงหน้าเขา เขาใช้สมาธิจ้องมองไปที่ลอตเตอรี่เหล่านั้น แล้วเขาก็เลิกคิ้วขึ้นทันที รางวัลสูงสุดของกองนี้คือ 30,000 หยวน เขาไม่ได้คาดหวังกับเงินรางวัลทั้งหมดถึง 30,000 หยวน แต่สิ่งที่เขาอยากเห็นก็คือลอตเตอรี่เหล่านี้มีเงินรางวัลจริงๆหรือไม่ แม้ว่าจะเป็นลอตเตอรี่ที่ราคาใบละสองหยวนก็ตาม!
แต่ในตอนนี้เขามองไปที่ลอตเตอรี่ใบแรกและเขาเห็นเงินรางวัลของใบนี้มีเพียงสองหยวนเท่านั้น และสำหรับใบที่สองสามถัดไปนั้น บางใบมีเงินรางวัลเล็กน้อยบางใบก็ไม่มีเงินรางวัลเลย แม้ว่าอัตราส่วนจะไม่แน่นอน แต่อย่างน้อยเขาก็แน่ใจแล้วว่า ลอตเตอรี่กล่องนี้เป็นลอตเตอรี่ที่เอาไว้ให้ลูกค้าเล่นตามปกติไม่ได้ผ่านการถูกคัดเลือกมาแต่อย่างใด!
จี้เฟิงหยิบลอตเตอรี่ออกมาจากกล่องแล้วแบ่งเป็นกองๆ เขาจ้องมองแต่ละกองอย่างผ่านๆ หลังจากการพิจารณาทั้งหมดแล้ว เขาก็มีตัวเลขอยู่ในใจ แม้ว่าเขาจะซื้อลอตเตอรี่ทุกกล่องก็จะไม่มีทางขาดทุน
ในแต่ละกองจะมีหนึ่งในสามที่มีเงินรางวัล และส่วนใหญ่จะเป็นเงินรางวัลสิบถึงห้าสิบหยวน นั่นหมายความว่า ลอตเตอรี่กองโตเหล่านี้เพียงอย่างเดียวก็มีเงินรางวัลมากกว่า 6,000 หยวนแล้ว!
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขารู้อยู่แล้วว่า ซูหม่าและเถ้าแก่อ้วนนั้นร่วมมือกันเพื่อที่จะใช้กลเม็ดการโกงที่จะกลั่นแกล้งเขา มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยอมเสียเงินซื้อลอตเตอรี่เหล่านี้ทั้งหมดด้วยความใจดี
เขาขมวดคิ้วและพูดว่า “เถ้าแก่ฉันไม่ค่อยชอบลอตเตอรี่บางใบ ฉันสามารถเลือกเฉพาะบางใบได้ไหม แต่ไม่ต้องห่วงนะฉันจะเลือกซื้ออย่างน้อยๆ ก็สองพันหยวนอย่างแน่นอน!”
เถ้าแก่อ้วนแสดงสีหน้าลังเล ในขณะที่เขากำลังจะพูดบางอย่าง เขาก็ได้ยินจางเล่ยที่อยู่ข้างๆเขา พูดขึ้นมาว่า “ทำไมเหรอเถ้าแก่ พวกเราต้องการจะซื้อเท่าไหร่ มันก็เป็นสิทธิของพวกเราไม่ใช่เหรอ หรือว่าคุณไม่อยากจะขาย?”
เถ้าแก่อ้วนรู้สึกหายใจไม่ออกในทันทีจากนั้นเขาก็ยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ดูบิดเบี้ยวเล็กน้อยและพยักหน้า “โอ้ว ลูกค้าคือพระเจ้า
แม้ว่าเขาจะดูเหมือนยิ้ม แต่รอยยิ้มของเขาก็ขมขื่นมาก เพราะเขารู้ดีว่า ไม่ว่าจี้เฟิงจะซื้อลอตเตอรี่สักกี่ใบ แผนของซูหม่าก็จะไม่สำเร็จอย่างแน่นอน ในเมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้ เขาก็ได้แต่ต้องเลยตามเลยและดูว่าจี้เฟิงจะซื้อลอตเตอรี่ไปกี่ใบ!?
จี้เฟิงแอบยกนิ้วโป้งให้ จางเล่ยพยักหน้ารับ จากนั้นเขาก็นำลอตเตอรี่ทั้งหมดกระจายออกบนโต๊ะและจ้องมองไปที่ลอตเตอรี่เหล่านั้น
ทันใดนั้นแผ่นสีเงินที่ปกปิดอยู่ในส่วนที่จะต้องขูดบนใบลอตเตอรี่ก็ค่อยๆโปร่งใสขึ้น และปรากฏตัวเลขต่อหน้าจี้เฟิงอย่างชัดเจน
อืม… อันนี้ไม่เอา… อันนี้โอเค~~!
จี้เฟิงทำการคัดเลือกลอตเตอรี่ทีละใบโดยไม่รอช้า ใบไหนที่ไม่มีโบนัสเงินรางวัลเขาจะนำกลับไปใส่ในกล่อง เขาทำมันอย่างรวดเร็ว จนเถ้าแก่ร่างอ้วนไม่ทันที่จะได้ตอบสนองอะไร ลอตเตอรี่เกือบครึ่งก็ถูกใส่กลับเข้าไปในกล่อง ส่วนลอตเตอรี่ที่เหลือเป็นใบที่จี้เฟิงต้องการเขาได้คัดและวางไว้ด้านนอกข้างๆ กล่อง มันมีทั้งหมดมากกว่าหนึ่งพันใบแต่ไม่ถึงสองพับใบวางอยู่บนโต๊ะ
จี้เฟิงค่อยๆ นับทั้งหมดอย่างระมัดระวังและพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง “เถ้าแก่ มีลอตเตอรี่ที่ฉันไม่ต้องการทั้งหมด 1,100 ใบ ส่วนที่เหลืออีก 1,900 ใบ ฉันจะซื้อมันทั้งหมด มันราคาเท่ากับ 3,800 หยวนถูกมั้ย?”
เถ้าแก่พยักหน้าเล็กน้อยเป็นการตอบรับ เพราะตอนที่จี้เฟิงกำลังเลือกใบที่ไม่ต้องการกลับเข้าไปในกล่อง เถ้าแก่ก็ตรวจสอบไปด้วยพร้อมกันกับจี้เฟิง เขาจึงรู้ดีว่าจำนวนลอตเตอรี่ในกล่องมีทั้งหมดกี่ใบ
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะเริ่มขูดลุ้นเงินรางวัลล่ะนะ!” จี้เฟิงเหลือบมองไปที่เถ้าแก่อ้วนด้วยรอยยิ้มบางๆ จากนั้นก็หันหน้ามาและยิ้มกว้าง “เล่ยซือ ถงเล่ย อาจารย์เซียว มาช่วยฉันขูดลอตเตอรี่ดีกว่า มันเยอะมากเลย ฉันเกรงว่ากว่าฉันจะขูดทั้งหมดให้เสร็จด้วยตัวคนเดียวก็คงจะเป็นเวลานี้ของวันพรุ่งนี้แน่ๆ!”
เซียวหยูซวนและถงเล่ยที่กำลังตกตะลึง พวกเธอสะดุ้งตกใจเล็กน้อย ถงเล่ยกล่าวว่า “จี้เฟิง นายต้องระมัดระวังในการใช้จ่ายหน่อยนะ!”
เซียวหยูซวนพยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวอย่างเห็นด้วยว่า “ใช่ จี้เฟิง ทั้งหมดที่เธอเล่นมานี่ มันมากกว่าสามพันหยวนเสียอีกนะ!”
ในมณฑลเล็กๆ แห่งนี้แม้ว่าค่าครองชีพจะไม่ได้สูงอะไรนัก แต่เงินมากกว่า 3,000 หยวน ก็ยังคงเป็นจำนวนเงินที่สำคัญสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของนักเรียนมัธยมอยู่ดี ยิ่งเห็นได้จากเสื้อผ้าที่จี้เฟิงสวมใส่แล้ว เซียวหยูซวนก็มั่นใจได้ว่า ครอบครัวของจี้เฟิงคงไม่ได้ร่ำรวยเท่าไหร่นัก และเงินจำนวนนี้คงไม่ใช่เงินก้อนเล็กสำหรับเขาอย่างแน่นอน!
“ฮ่าฮ่าฮ่า~!!!” ในขณะนั้นซูหม่าที่อยู่ข้างๆ เขาก็หัวเราะเสียงดัง “อ่า… โชคของฉันวันนี้ดีมากเลยจริงๆ ฉันได้เงินรางวัลที่ดีหลายใบเลยทีเดียว!”
เขาหยิบลอตเตอรี่ชูขึ้นมาอย่างมีชัยชนะและพูดว่า “อ่ะ เถ้าแก่ นี่เงินรางวัลที่ฉันได้ รวมทั้งหมด 3,000 หยวน!”
เขาหันหน้าไปมองจี้เฟิงและพูดอย่างมีชัย “จี้เฟิงวันนี้โชคดีมาอยู่กับฉันหมดเลย ฉันไม่รู้นะว่าจะมีโชคดีเหลือไปถึงนายบ้างรึเปล่า หรืออาจจะพอได้เงินรางวัลไปเล็กๆน้อยๆ บ้างก็ได้นะ ฮ่าฮ่าฮ่า!!”
หลังจากได้ฟัง จี้เฟิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็มีรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าของเขาและกล่าวว่า “บางทีฉันอาจจะโชคดีเพราะหัวหน้าชั้นถงเล่ยและอาจารย์เซียวมาช่วยฉันขูดลอตเตอรี่ก็เป็นได้นะ หุหุ!”
หลังจากพูดจบ จี้เฟิงก็หยิบไม้ไผ่สำหรับขูดรางวัลจากโต๊ะและยื่นให้เซียวหยูซวน หลังจากลังเลอยู่พักนึง เซียวหยูซวนและคนอื่นๆ ก็ก้าวไปข้างหน้าและหยิบลอตเตอรี่ขึ้นมาเพื่อขูดรางวัล
“อา..!!”
ทันทีที่ใบแรกถูกขูดโดยถงเล่ย เธอก็ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ “จี้เฟิง ฉันขูดเจอรางวัลจากใบนี้ด้วยล่ะ!!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของซูหม่าก็แข็งค้างขึ้นมาทันที แต่พอเขามองไปยังลอตเตอรี่บนมือของถงเล่ยที่มีเงินรางวัลเพียงห้าหยวน เขาก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง “จี้เฟิงถึงแม้ว่านายอาจจะมีโชคดี แต่ห้าหยวนที่ได้มา เมื่อเทียบกับเงินทุนที่เสียไปของนายแล้ว… ฮิฮิ!”
อารมณ์ของซูหม่าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะในตอนแรกซูหม่ากลัวว่า จี้เฟิงจะไม่ซื้อมันจริงๆ แล้วส่งลอตเตอรี่คืนไปให้กับร้านค้า ดังนั้นเมื่อเห็นจี้เฟิงเริ่มลงมือขูดลอตเตอรี่จริงๆ ซูหม่าก็เผยธาตุแท้ของเขาออกมาทันทีอย่างน่าสมเพช
จี้เฟิงยิ้มและไม่ได้พูดตอบอะไรออกไป เขายังคงขูดลอตเตอรี่เพื่อลุ้นรางวัลต่อไป…
“ฉันถูกรางวัลด้วยล่ะ!!” เซียวหยูซวนพูดด้วยความประหลาดใจ “มันได้ 50 หยวน!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของซูหม่าแข็งขึ้นอีกครั้ง คิ้วของเขาขมวด เงินรางวัลจำนวนห้าสิบหยวนปรากฏขึ้นบนลอตเตอรี่ราคาสองหยวน ซึ่งมันน่าแปลกใจเล็กน้อย
โดยเฉพาะหลังจากที่เพิ่งถูกรางวัลใบแรกไป แล้วใบที่สองก็มาถูกรางวัลอีก มันไม่ง่ายที่จะถูกรางวัลสองครั้งติดๆกันแบบนี้ หรือว่านี่จะเป็นโชคดีของจี้เฟิงจริงๆ?
ในตอนนั้นจี้เฟิงยังคงขูดลอตเตอรี่ที่อยู่ในมือ เขายิ้มเฝื่อนๆและพูดว่า “แต่โชคของฉันยังไม่มีแฮะ ฉันไม่ถูกรางวัล!”
อารมณ์ของซูหม่าสงบลงอีกครั้งเขายิ้มและพูดว่า “จี้เฟิง ดูเหมือนนายจะโชคไม่ดีนัก แต่ถงเล่ยและอาจารย์เซียวนับว่าเป็นคนมีโชค นายอย่าลืมตอบแทนพวกเธอในภายหลังล่ะ!”
จางเล่ยขมวดคิ้วในทันที และแม้แต่คนโง่ก็ต้องรู้ เมื่อได้ยินคำพูดเสียดสีของซูหม่า เขาทำสีหน้าเย็นชาและจ้องมองไปยังซูหม่า เขาตัดสินใจอย่างลับๆ ว่า หลังจากที่กลับไปในวันนี้เขาต้องทำให้ซูหม่ารู้ให้ได้ว่าจะเป็นอย่างไร ที่กล้ามาท้าทายจี้เฟิงที่เปรียบเสมือนน้องชายของเขา!
แต่พอจางเล่ยขูดลอตเตอรี่ใบที่ถืออยู่ในมือของเขาเสร็จ เขาก็ต้องตกตะลึง “ไอ้บ้าจี้เฟิง นี่ฉัน…”
ทุกคนมองไปที่จางเล่ยอย่างพร้อมเพียงกัน และเมื่อพวกเขาเห็นตัวเลขของเงินรางวัลที่อยู่ในมือของจางเล่ย พวกเขาเกือบที่จะลืมหายใจ
……จบบทที่ 46~