(WN) Love Comedy Manga ni Haitte shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru - ตอนที่ 40
พอได้ยินคําว่า “วันจันทร์” เข้าคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่คงขวัญกระเจิงไปตามๆกัน
วันจันทร์ที่เป็นดั่งปลายอุโมงค์ของวันหยุดอันหอมหวาน เหล่าคนวัยทํางานจนไปถึงเด็กนักเรียนต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า “น่ารําคาญ” เเต่ก็ต้องข่มตาตื่นเเละเเบกร่างอันหนักอึ้งของตนเองฝ่าฟันมันไป
ว่ากันว่าบางคนยอมนอนดึกในวันอาทิตย์เพราะไม่อยากให้วันจันทร์มาถึงด้วยซํ้า
เเน่นอนว่าตัวผมก็เคยทําอย่างนั้น คงไม่ต้องบอกนะว่าสภาพตัวเองตอนเช้าของวันรุ่งขึ้นจะยํ่าเเย่เเค่ไหน การไปโรงเรียนกับทํางานพาร์ทไทม์นี่ไม่ต่างจากนรกเลยขอบอก
ตัวผมที่เคยเป็นเเบบนั้นในตอนนี้กลับตะโกนลั่นอยู่ในใจให้วันเสาร์อาทิตย์มันรีบจบลงไวๆ
เเม้เเต่ตัวเองก็ยังไม่เชื่อว่าคนเราจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ถึงเหตุผลมันจะรู้ๆกันอยู่เเล้วก็เถอะนะ
ถ้าเป็นเช้าวันจันทร์ตามปกติ ผมคงได้เเต่พรํ่าเพ้อในใจว่า “สัปดาห์ใหม่จะเริ่มขึ้นเเล้วสิน้า…” โดยไม่ใส่ใจอะไรมาก
“โฮ่ๆ ช่างเป็นเช้าที่ดีเสียนี่กระไร”
หลังจากตื่นนอนได้อย่างสบายหายห่วง ผมก็ลุกออกจากเตียงเพื่อมาเปิดหน้าต่าง ก่อนจะอ้าเเขนรับเเสงเเดดที่สาดส่องเข้ามาอย่างกระดี๊กระด๊า
ยามเช้าเเบบนี้นี่มันดีต่อสุขภาพจริงๆ
พอผมออกจากห้องนอนเเละไปห้องนั่งเล่นก็เห็นริเอะที่ตื่นมาก่อนเเล้วกําลังทําอาหารอยู่
“ฮาวว~ พี่นี่ อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์ ริเอะ”
ไม่รู้เพราะยังง่วงอยู่หรือยังไง ดวงตาของริเอะที่ทําอาหารเช้าอยู่ดูยังตื่นไม่เต็มที่
มองจากตรงนี้อาจจะดูอันตรายนิดนึง เเต่นี่ก็คงเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของริเอะนั่นเเหละ
“ริเอะ มาทําอาหารเช้าด้วยกันไหม”
“…เอ๋? พี่ทํากับข้าวเป็นด้วยเหรอ?”
“ถ้าของง่ายๆก็พอทําได้อยู่น่า”
ก่อนจะมาโลกนี้ผมเคยทํางานในคาเฟ่มาก่อนเชียวนะ ถ้าเเค่อาหารพื้นๆไม่ใช่คู่มือหรอก
ถึงจะเทียบกับริเอะที่ตื่นมาทําอาหารให้เราทานทุกมื้อไม่ติดก็เถอะ เเต่คิดว่าฝีมือคงดีกว่าสาวผมเเดงเเถวๆนี้ล่ะนะ
ผมย้ายที่มายืนข้างริเอะ ก่อนจะเริ่มหั่นผักเพื่อนํามาทําเป็นสลัด
“…ไงดีล่ะ ดูถนัดมือจังเลยนะพี่ ไปทําได้ตั้งเเต่เมื่อไหร่เนี่ย?”
“หึๆ พี่คืออัจฉริยะเชียวนะ ไม่มีอะไรที่ทําไม่ได้หรอก”
“…หัวกระเเทกพื้นจนสติเพี้ยนเเล้วเหรอคะ”
โดนน้องสาวสบถใส่ตั้งเเต่หัววันเเบบนี้ พี่จ๋าเองก็เจ็บเป็นเหมือนกันนะ เอาเถอะเเค่ได้เห็นรอยยิ้มน่ารักๆนั่นก็พอใจเเล้วล่ะ
พวกเราสองพี่น้องช่วยกันทําอาหารเเละทานข้าวด้วยกันทั้งอย่างนั้น
พอมานั่งคิดดูพ่อเเม่ของพวกเราจะออกจากบ้านกันไวไปไหมเนี่ย
นี่ขนาดตื่นเเบบมีเวลาเหลือเฟือให้เดินทางไปโรงเรียนเเล้วนะ อย่าบอกนะพวกเขาอยู่ที่ทํางานกันเเล้วน่ะ
ขณะที่คิดเรื่องเเบบนั้นอยู่ในหัว ข้าวเช้าที่ร่วมกันทํากับริเอะก็ลงกระเพาะจนหมดเป็นที่เรียบร้อย พวกเราต่างเเยกทางไปห้องของตนเองเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน
“เอาล่ะ ไปกันเถอะ ริเอะ”
“ค่ะ”
พวกเราที่เปลี่ยนเป็นชุดเครื่องเเบบเเล้ว เปิดประตูออกจากบ้าน ตามปกติผมจะปั่นจักรยานเเละให้ริเอะนั่งซ้อนท้าย
“ไม่ลืมอะไรใช่ไหม?”
“อืม ไม่มีปัญหา พี่ก็เถอะคงหยิบข้าวกล่องมาเเล้วสินะ”
“พกติดตัวเป็นอย่างดีเลยล่ะ พี่จะไปลืมข้าวกล่องที่น้องสาวสุดที่รักอย่างริเอะทําให้ได้ยังไงกันเล่า!”
“…เหรอคะ งั้นก็เเล้วไป”
ดูเธอตอบช้าไปนิดนึงเเฮะ มีอะไรไม่พอใจป่าวหว่า
“งั้นก็อย่ามัวรีรอรีบออกเดินทางกันเลย”
“ฝากด้วยนะคะ”
ใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบที่โลกนี้อนุญาตให้ขับซ้อนสองได้ สองขาของผมถีบจักรยานมุ่งหน้าสู่โรงเรียน
ถ้าเป็นปกติพอใกล้ถึงโรงเรียนเเล้ว ในหัวคงคิดเรื่องลบๆอย่าง “วันนี้ก็ปวดหัวชะมัด มีวิชานั้นด้วยนี่นะ” อะไรทํานองนั้นล่ะมั้ง
พูดตามตรงตอนนี้ก็ยังรู้สึกเเบบนั้นอยู่
ผมเป็นเด็กสายศิลป์ด้วย เลยไม่ค่อยเก่งพวกวิชาอย่างคณิตศาสตร์หรือฟิสิกส์สักเท่าไหร่
วันจันทร์ที่มีวิชาทั้งสองนั่นรวมอยู่ ถือเป็นวันนรกเเตกเลยก็ว่าได้
เเต่บางทีต่อจากนี้อาจไม่มีคําว่า “วันจันทร์งั้นเรอะ! อย่าเข้ามานะเฟ้ย! ออกไป๊!” ในหัวอีกเเล้วก็ได้
เหตุผลมันง่ายนิดเดียว… เพราะมีเธอไงล่ะ
“เซย์จัง!”
ผมตะโกนชื่อของเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่อายใคร เเม้จะปั่นจักรยานอยู่ก็ตามที
เธอที่กําลังมองหน้าจอมือถืออยู่ชะงักไปครู่นึง ก่อนจะเอียงหัวหันมองมาทางนี้
ผมสีเงินตัดสั้นของเธอปลิวไสวท่ามกลางสายลมที่พัดผ่าน เเสงจากดวงอาทิตย์ที่เจิดจ้าสะท้อนลงบนเส้นผมมันวาวของเธอเกิดเป็นทิวทัศน์อันงดงามเหนือคําบรรยาย
ดวงตาที่คมกริบช้อนขึ้นมาเล็กน้อย เเววตาคู่นั้นทิ่มเเทงผมเข้าอย่างจังจนใจอยู่ไม่สุข
เเม้เธอจะอยู่ในชุดเครื่องเเบบอันคุ้นตา เเต่ต่อให้เวลาผ่านไปเเค่ไหนความรู้สึกที่ว่ามันช่างน่ารักก็ไม่จางหายไปเลย
“อรุณสวัสดิ์ ฮิซามูระ”
พอผมปั่นจักรยานเข้าไปใกล้ เซย์จังก็กล่าวทักทายพร้อมรอยยิ้มอันอ่อนโยนเล็กๆที่เผยให้เห็นบนใบหน้า
“อรุณสวัสดิ์ เซย์จัง”
“สวัสดีตอนเช้าค่ะ คุณเซย์”
“อา สวัสดีเช่นกันจ๊ะริเอะ ดูเหมือนวันนี้สองพี่น้องก็ยังสนิทกันดีสินะ”
“มะ.. ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย! นี่ถือว่าปกติค่ะ…”
ริเอะที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลังรีบเเก้ต่างอย่างเขินๆเเละลงจากรถ
“วันนี้ก็มากับพี่เขาเหรอจ๊ะ ริเอะ”
“…อืม ใช่ค่ะ”
ปกติเวลามาโรงเรียนกับริเอะ ผมมักจะมาส่งเธอบริเวณเเถวๆนี้ให้เธอเดินไปเองคนเดียว ส่วนผมจะปั่นจักรยานไปก่อนล่วงหน้า
ริเอะก็โตเเล้วนี่นะ เธอคงไม่อยากให้เหล่าเพื่อนๆมาเห็นว่าตัวเองไปโรงเรียนกับพี่ชายหรอก อืมๆ พูดเเล้วคนเป็นพี่อย่างเราก็เศร้า
เเต่เฉพาะเวลาที่ผมไปโรงเรียนกับเซย์จังเท่านั้นที่เธอจะไม่เดินไปคนเดียวเพราะพวกเราจะเดินไปพร้อมกันสามคนเเทน
ได้เดินทางไปโรงเรียนกับเเฟนสาวในฝันเเละน้องสาวผู้น่ารักเเบบนี้ มีความสุขชะมัด
“ขอโทษนะคะคุณเซย์ หนูรบกวนเวลาที่จะได้อยู่กับพี่สองต่อสองรึเปล่า”
“ไม่ต้องคิดมากหรอก ริเอะที่เป็นถึงน้องสาวของฮิซามูระก็ถือเป็นผู้หญิงคนสําคัญของฉันเหมือนกัน”
“…งะ งั้นเหรอคะ ///”
“คุณเซย์จังครับ ช่วยเลิกจีบน้องสาวผมทีเถอะ”
“จะ.. จีบอะไรกัน! เเค่พูดตามสิ่งที่คิดเท่านั้นเอง!”
ถ้าที่พูดมาเป็นความจริงยิ่งเเย่กว่าเก่าอีกนะครับนั่น
เซย์จังน่ารักอันนี้ไม่เถียง เเต่ในขณะเดียวกันเธอก็เท่สุดๆ เป็นสาวน้อยพันธ์ผสมที่หาได้ยาก
ตามเนื้อเรื่องต้นฉบับ เเม้เธอจะไม่เคยถูกผู้ชายคนใดสารภาพรักมาก่อน เเต่ถ้ากับเด็กผู้หญิงเเล้วมีเป็นเบือเลยล่ะ
เเรกๆก็ไม่ค่อยเชื่อหรอก เเต่พอได้เห็นท่าทีของเธอที่มีต่อริเอะด้วยตาตัวเองเเบบนี้เเล้ว จะเนื้อหอมในหมู่สาวๆก็ไม่เเปลก
ทั้งกิริยาท่าทางวาจาของเธอล้วนดูเท่ไปหมด ไหนจะความเป็นสุภาพบุรุษที่เอ่อล้นมากกว่าผู้ชายตัวจริงเสียงจริงซะอีก… อธิบายไม่ถูกเลยเเฮะ
เเต่ตอนนี้เซย์จังเป็นของผมเเล้ว จะผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่มีวันยกให้หรอก
“ก่อนอื่นเราไปโรงเรียนกันเถอะ”
หลังจากที่พูดเเบบนั้นเสร็จ ผมก็ลงมาดันจักรยาน ก้าวเดินเคียงข้างทั้งคู่
ติดตามเพจผู้เเปลได้ที่ Ao2Sides